'ชอส.'หวัง'การบินไทย'ทยอยคืนเงินต้น'หุ้นกู้' ปลดล็อกเพิ่ม'ปันผล'-หนุน‘แปลงหนี้เป็นทุน’

c 03 08 24 pic

‘ประธาน ชอส.’ หวัง ‘การบินไทย’ ทยอยคืนหนี้เงินต้น ‘หุ้นกู้’ ปีหน้า ช่วย ‘สมาชิก’ สหกรณ์เจ้าหนี้ 87 แห่ง ได้รับ ‘เงินปันผล’ เพิ่ม หลังปลดรายการ ‘หนี้สงสัยจะสูญ’ พร้อมหนุน ‘แปลงหนี้เป็นทุน’ ชี้กิจการ 'ดีวันดีคืน'

.......................................

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. รศ.พิเศษ พล.ท.ดร.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด (ชสอ.) ในตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์ 87 แห่ง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หุ้นกู้ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.2567 เป็นต้นมา ทาง บมจ.การบินไทย ได้ทยอยจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้ง 87 แห่งแล้ว และสหกรณ์ฯหวังว่าทางบริษัทฯเริ่มจ่ายเงินต้นได้ในปีหน้า

“ตอนนี้เขากำไรเยอะ เขาก็จ่ายดอกเบี้ยเรามาส่วนหนึ่ง โดยจ่ายให้กับสหกรณ์ทุกแห่งถั่วเฉลี่ยกันไป ส่วนเงินต้นนั้น เขายังไม่ได้จ่าย เราก็พยายามขอให้เขาปรับเพื่อให้เริ่มจ่าย (เงินต้น) ให้เร็วที่สุด ซึ่งเขาก็ต้องไปบวกลบคูณหารว่า เขาจะมีความสามารถจ่ายได้เมื่อไหร่ เพราะแม้ว่าเขาจะกำไรเยอะก็จริง แต่เขาอาจต้องไปทำโน่นทำนี่ และเขาก็รับปากว่าจะให้เราเร็วที่สุด อาจเร็วกว่าแผนก็ได้” ประธาน ชสอ. กล่าว

รศ.พิเศษ พล.ท.ดร.วีระ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเงินต้นหุ้นกู้ บมจ.การบินไทย มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท นั้น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้กำหนดให้สหกรณ์เจ้าหนี้ 87 แห่ง ต้องบันทึกเป็นรายการหนี้สงสัยจะสูญ และถูกหักเงินไว้ปีละ 5% ของเงินต้น แต่หาก บมจ.การบินไทย เริ่มจ่ายคืนเงินต้นหุ้นกู้ให้กับสหกรณ์ฯได้เมื่อไหร่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ก็จะปลดหนี้สงสัยจะสูญทั้งก้อน และเงินที่ถูกหักไว้ปีละ 5% ของเงินต้นนั้น ก็จะถูกบันทึกเป็นกำไร แล้วนำมาจ่ายปันผลให้สมาชิกได้

“ถ้าเขา (กรมตรวจบัญชีสหกรณ์) ปลดหนี้สงสัยจะสูญ เงินที่ถูกหักไว้จะถือเป็นกำไร แล้วเราก็เอาเงินตัวนี้มาจ่ายปันผลเฉลี่ยคืน ซึ่งจะทำให้สมาชิกฯได้มากเงินปันผลมากขึ้น เช่น จากที่เคยจ่ายปันผล 5 บาท ก็อาจจะจ่ายปันผลเพิ่มเป็น 7-8 บาท เป็นต้น ซึ่งก็หวังว่าทางการบินไทยจะเริ่มทยอยจ่ายคืนเงินต้นได้ในปีหน้า” รศ.พิเศษ พล.ท.ดร.วีระ กล่าว

ประธาน ชสอ. กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ บมจ.การบินไทย จะมีการแปลงหนี้เป็นทุน นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์เจ้าหนี้แต่ละแห่ง ว่า จะมีมติอย่างไร จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ไม่ได้ห้ามไม่ให้สหกรณ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน และโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า การแปลงหนี้เป็นทุนครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะใช้เงินไม่มาก ในขณะที่กิจการของ บมจ.การบินไทย ก็ดีวันดีคืนพอสมควร และสวัสดิการพนักงานแบบเก่าก็หมดไปแล้ว

“เราดูกิจการการบินแล้ว ต้องถือว่า ดีวันดีคืนพอสมควร และสวัสดิการแบบเก่าตอนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เขาก็ตัดหมดแล้ว ซึ่งการแปลงหนี้เป็นทุนตรงนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ไม่ได้ห้าม โดยสหกรณ์แต่ละแห่งจะนำเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ของแต่ละสหกรณ์พิจารณาว่า จะเพิ่มหรือไม่เพิ่ม” รศ.พิเศษ พล.ท.ดร.วีระ กล่าว

ทั้งนี้ ชอส. เป็นหนึ่งในสหกรณ์ฯที่มีการลงทุนหุ้นกู้ของ บมจ.การบินไทย โดยมีเงินลงทุนในหุ้นกู้ บมจ.การบินไทย จำนวน 1,911 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย ฉบับวันที่ 15 มิ.ย.2564 ระบุว่า ให้เจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนเดิมในปี 2563-ปี 2577 (เจ้าหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ 87 แห่ง และเจ้าหนี้หุ้นกู้รายอื่นๆ) ได้รับชำระหนี้ร้อยละ100 ของภาระหนี้เงินต้นคงค้างตามคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้ โดยจะได้รับการขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป 8 ปี นับจากปีที่ครบกำหนดไถ่ถอนเดิม แต่ไม่เกิน 16 ปีหรือภายใน ปี 2579

เจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 จะได้รับดอกเบี้ยใหม่จากภาระหนี้เงินต้นในอัตราร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยเริ่มคำนวณนับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน และเริ่มชำระจริงในปี 2567 โดยชำระเป็นรายเดือน ณ วันทำการสุดท้ายของแต่ละเดือนจนกว่าจะชำระเสร็จหรือไถ่ถอนหุ้นกู้

ดอกเบี้ยตั้งพักตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนจนถึงสิ้นปี 2566 จะได้รับชำระในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอนที่ได้รับการขยายระยะเวลาไถ่ถอน หรือเลือกรับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักทั้งจำนวนเป็นหุ้นสามัญของการบินไทยมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และกำหนดราคาแปลงหนี้เป็นทุนที่ราคาหุ้นละ 2.5452 บาท ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 5.6 ของแผน

ภาระหนี้ส่วนที่เหลือให้ถือว่าระงับสิ้นไป และ/หรือได้รับการปลดหนี้ทั้งจำนวนทันทีที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน

ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.2565 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย โดยแผนฉบับแก้ไขดังกล่าว ได้ปรับปรุงวิธีการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีสิทธิดามสัญญาโอนสิทธิในการได้รับเงินจากการขายเครื่องบิน, เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 เจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่มีประกัน และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 (เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้) เปลี่ยนเป็นว่า

“ได้รับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เงินต้นตามแผนในอัตราร้อยละ 24.50 ของภาระหนี้เงินต้นคงค้างของเจ้าหนี้แต่ละรายตามคำสั่งถึงที่สุดให้ได้รับชำระหนี้ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น โดยจะได้รับชำระภายในปี 2567 โดยภาระหนี้เงินต้นคงค้างส่วนที่เหลือ จะได้รับชำระหนี้จากกระแสเงินสดตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนที่ศาลเห็นชอบตามเดิม

นอกจากนี้ ได้กำหนดให้เจ้าหนี้ได้รับดอกเบี้ยหนี้เงินต้นคงค้างส่วนที่ได้รับชำระหนี้ จากการแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างที่ยังไม่มีการแปลงหนี้เป็นทุน โดยเป็นไปตามอัตราเฉลี่ยของดอกเบี้ยใหม่ตามแผนฉบับที่ศาลเห็นชอบ

และได้กำหนดเพิ่มอัตราดอกเบี้ยใหม่ จากภาระหนี้เงินต้นคงค้างส่วนที่ได้รับชำระหนี้จากกระแสเงินสด ในครึ่งปีหลังของปีที่ 13 ของแผนเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระภาระหนี้เงินต้นครบถ้วน (สำหรับเจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 และกลุ่มที่ 6 ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน) และใน 2 ปีสุดท้าย ก่อนครบกำหนดระยะเล่าไถ่ถอนตามแผน (สำหรับเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18 - 31 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้) โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี”

อ่านประกอบ :

ศาลฯเพิกถอนคำสั่ง‘พนง.ตรวจแรงงาน’ ปมให้‘การบินไทย’จ่ายค่าจ้าง‘วันหยุดพักผ่อนฯ’

ศาลฯยกฟ้อง คดี'การบินไทย'ขอเพิกถอนคำสั่งจ่าย'ค่าชดเชย'วันหยุดประจำปีสะสม'อดีต พนง.'

‘การบินไทย’ ยอมรับมีแผนจัดหาเครื่องบิน 45 ลำจริง มั่นใจมีสภาพคล่องพอในการจัดซื้อ

‘เศรษฐา’เล็งนัด ‘การบินไทย’ คุยปมซื้อเครื่องบินใหม่ ‘สุริยะ’ ห่วงแต่ทำอะไรไม่ได้

ทำผิดซ้ำริบสิทธิฯถาวร! ‘การบินไทย’รื้อประกาศฯเกณฑ์ระงับ-เรียกคืน‘สิทธิบัตรโดยสาร’พนักงาน

‘ศาลอุทธรณ์ฯ’พิพากษายืน สั่ง‘การบินไทย’นำ'ค่าชั่วโมงบิน'คำนวณจ่ายชดเชยเลิกจ้างฯ'พนักงาน'

ต้องเปิดเผยข้อมูล-โปร่งใส จิ๊กซอว์สำคัญ ฟื้นฟูการบินไทย?

‘เศรษฐา’ รับอึดอัดใจ ปัญหา ‘การบินไทย’ กวดขันทำตามแผนฟื้นฟู

‘บอร์ดติดตามการบินไทย’ จ่อคุยฟื้นสถานะสายการบินแห่งชาติ

‘เศรษฐา’ เซ็นตั้งบอร์ดติดตาม ‘แผนฟื้นฟูการบินไทย’ ‘สุริยะ’ นั่งประธาน

‘ศาลแรงงาน’ สั่ง ‘การบินไทย’ จ่ายค่าชดเชยเลิกจ้าง‘ส่วนที่ขาด’ ให้อดีตพนักงาน 17 ราย