‘การบินไทย’ สยบข่าวลือ ยอมรับลงนามร่วม ‘โบอิ้ง’ จัดหาเครื่องบิน 45 ลำพร้อมออปชั่นเสริม ก่อนร่ายยาวเหตุผลทั้งเครื่องบินตลอด 10 ปีทีผ่านมาปลดระวางไปมาก บวกกับถ้าไม่จัดหาจำนวนฝูงบินจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆจนไม่พอ ยืนยันมีสภาพคล่องเพียงพอที่จ่ายได้ และพิจารณาในทุกมิติแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บมจ.การบินไทยสั่งซื้อ เครื่องบินโบอิ้ง 787 รวมกว่า 45 ลำ พร้อมออปชั่นเพิ่มเป็นประมาณ 80 ลำนั้น
ล่าสุด ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.การบินไทย เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาจัดหาเครื่องบินและเครื่องยนต์ร่วมกับบริษัท โบอิ้ง และ บริษัท จีอี แอโรสเปซ เพื่อจัดหาเครื่องบินแบบลำตัวกว้างพิสัยกลางและไกลพร้อมเครื่องยนต์จำนวน 45 ลำพร้อมสิทธิในการจัดหาเพิ่มเติม (Option Order) อีกจำนวนหนึ่งเพื่อนำเข้าประจำการในฝูงบินของบริษัทฯตั้งแต่ปีพ.ศ. 2570 – 2576 ตามแผนเครือข่ายเส้นทางบินที่จัดทำขึ้น
โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกเอกสารเชิญยื่นข้อเสนอราคา (RFP) ไปยังบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนบริหารเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบินระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทฯจะสามารถรักษาระดับความสามารถในการหารายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายและประมาณการทางการเงินที่จัดทำขึ้น
@ต้องจัดหาเพื่อทดแทนส่วนที่ปลดระวาง
การจัดหาเครื่องบินในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อทดแทนเครื่องบินที่มีกำหนดจะปลดระวางและทยอยหมดสัญญาเช่าลงในกรอบระยะเวลาข้างต้นเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทฯ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท เฉพาะ ณ สนามบินสุวรรณภูมิมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 51.3 ในปี 2556 เหลือเพียงร้อยละ 27.0 ในปี 2566 ส่วนหนึ่งด้วยข้อจำกัดด้านฝูงบินของบริษัท ทั้งในเชิงปริมาณและประสิทธิภาพของเครื่องบินในฝูงบิน
ในปี 2556 บริษัท มีเครื่องบินรวมทั้งสิ้นจำนวน 100 ลำ ต่อมาเมื่ออุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการที่บริษัท เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ บริษัท ได้ปลดระวางเครื่องบินจำนวนหนึ่งที่มีอายุการใช้งานยาวนาน มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพ มีค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี มีมูลค่าการลงทุนสูงและไม่คุ้มค่าที่จะปรับปรุงเพื่อคืนสภาพให้สามารถกลับมาปฏิบัติการบิน ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัท มีเครื่องบินที่ใช้ในการปฏิบัติการบินเหลือเพียงจำนวน 64 ลำ หรือมีขนาดฝูงบินรวมลดลงร้อยละ 36 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556
โดยระหว่างปี 2565 – 2566 ที่ผ่านมา บริษัท ได้แก้ไขข้อจำกัดด้านฝูงบินโดยการจัดหาเครื่องบินด้วยวิธีเช่าดำเนินงาน (Operating Lease) เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติการบินรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่ฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างจำนวน 21 ลำซึ่งทยอยรับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินแบบ Airbus 350 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ Rolls-Royce แบบ Trent XWB และจะเริ่มทยอยรับเครื่องบินลำตัวแคบแบบแอร์บัส 321neo ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2568 เป็นต้นไป ทำให้จำนวนเครื่องบินในฝูงบินของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 70 ลำในปี 2566 ที่ผ่านมา และจะเพิ่มขึ้นเป็น 79 ลำในปี 2567 และ 90 ลำในปี 2568 ตามลำดับ
@ถ้าไม่หาตอนนี้ เครื่องบินประจำการจะน้อยลงอีก
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงเรื่องจำนวนเครื่องบินที่อยู่ในแผนปลดระวางและสัญญาเช่าจะทยอยหมดอายุลง ระยะเวลาการผลิตของผู้ผลิต และปริมาณความต้องการเครื่องบินในอุตสาหกรรมที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากบริษัท ไม่ดำเนินการจัดหาฝูงบินระยะยาวในครั้งนี้ จะส่งผลให้ในปี 2576 ฝูงบินของบริษัทฯ จะมีจำนวนเครื่องบินเหลือเพียง 51 ลำ หรือน้อยกว่าปี 2556 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการสร้างรายได้ การรักษาส่วนแบ่งทางตลาด ขีดความสามารถในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และเมื่อพิจารณาจำนวนเครื่องบินที่จัดหาเพิ่มเติมในคราวนี้จำนวน 45 ลำ ในปี 2576 บริษัท จะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 96 ลำ ซึ่งก็ยังคงน้อยกว่าจำนวนเครื่องบินในฝูงบินของบริษัทฯ เมื่อปี 2556
@ยืนยันมีสภาพคล่องพอจ่าย - เปิดกว้าง เช่า/เช่าซื้อ
ในส่วนของแผนการเงินที่จะนำมาชำระค่าเครื่องบินและเครื่องยนต์ดังกล่าว ขณะนี้บริษัท เตรียมความพร้อมทางการเงินและคาดการณ์สภาพคล่องในอนาคตว่ามีจำนวนเพียงพอต่อการชำระค่าเครื่องบินและเครื่องยนต์ตามกรอบเวลาการจัดหา โดยบริษัท จะพิจารณาแหล่งเงินทุนและเลือกวิธีการจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งจะขึ้นกับสถานะการเงิน สภาพคล่องของบริษัท และความคุ้มค่าทางการเงิน โดยจะเปิดกว้างพิจารณารูปแบบการเช่าดำเนินการและเช่าซื้อเครื่องบินในสัดส่วนที่เหมาะสม และการจัดหาเครื่องบินในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทตามแผนฟื้นฟูกิจการแต่อย่างใด
ในการจัดหาเครื่องบินครั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในกระบวนการ ดำเนินการตรงกับบริษัทผู้ผลิตทุกรายโดยไม่ผ่านตัวแทน อ้างอิงรูปแบบการดำเนินการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการบิน เทียบเคียงสายการบินชั้นนำอื่นๆ ในระดับนานาชาติ มีที่ปรึกษาชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศร่วมพัฒนาแบบจำลองเครือข่ายเส้นทางบิน แบบจำลองและประมาณการทางการเงิน กำหนดรายละเอียดหลักเกณฑ์การคัดเลือกประเมินผลและการเจรจาต่อรองกับผู้ผลิต โดยมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ เป็นสำคัญ ทั้งในด้านต้นทุนดำเนินการในทุกมิติ อาทิ ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้โดยสาร ได้แก่ ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารในมิติต่างๆ ได้แก่ ความสะดวกสบาย ที่นั่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร ฯลฯ ต้นทุนความเป็นเจ้าของหรือค่าเช่า ต้นทุนการซ่อมบำรุง ความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ (Reliability) ในการปฏิบัติการบิน ความสามารถในการสร้างรายได้ให้เป็นไปตามประมาณการทางการเงินภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ ปริมาณการผลิต ประสิทธิภาพการจัดการฝูงบินตามแผนเครือข่ายเส้นทางบิน ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ฯลฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อเท็จจริงในรายละเอียดเกี่ยวกับแบบเครื่องบินและเครื่องยนต์ในการจัดหาครั้งนี้ร่วมกับผู้ผลิตในงาน Singapore Airshow ที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 20-25 กุมภาพันธ์ศกนี้
บริษัทฯ จะยังคงร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์ชั้นนำของโลกในการพัฒนาฝูงบินของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารทั้งในด้านความปลอดภัยในการเดินทาง คุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการในเที่ยวบิน และขอให้ความมั่นใจว่าการดำเนินการจัดหาด้านการจัดการฝูงบินระยะยาวในครั้งนี้ ดำเนินการด้วยความรอบคอบบนพื้นฐานแห่งความจำเป็นเพื่อการดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายและความสำเร็จด้วยกระบวนการและหลักเกณฑ์ที่มีความโปร่งใส ยึดถือเอาประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ เป็นสำคัญ มิเพียงแต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูกิจการ แต่ยังเพื่อสร้างการเติบโตและผลกำไรทางธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต และก้าวไปสู่ความเป็นสายการบินชั้นนำของโลกที่คนไทยทุกคนภาคภูมิใจ
ที่มาภาพปก: https://pixabay.com/th/photos/