‘เศรษฐา’ เล็งนัด ‘การบินไทย’ คุยกรณีจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้งใหม่ 45 ลำ ชี้เป็นอำนาจของการบินไทย มีสิทธิ์สั่งซื้อ ด้าน ‘สุริยะ’ ห่วงความคุ้มค่าแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่คณะผู้ทำแผนฟื้นฟูดำริ ยันคณะกรรมการกำกับติดตามไม่มีอำนาจสอดแทรก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า การบินไทย ได้มีการสั่งซื้อ เครื่องบินโบอิ้ง 787 รวมกว่า 45 ลำ พร้อมออปชั่นเพิ่มเป็นประมาณ 80 ลำ เพื่อรองรับความต้องการด้านการเดินทางระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เดี๋ยวจะต้องมาพูดคุยกัน เพราะจริงๆแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องของความซับซ้อนทางด้านกฎหมายว่า ทาง บมจ.การบินไทย ก็มีสิทธิ์เพราะว่ามีผู้บริหารแผนฟื้นฟูกำกับดูแลอยู่ แต่ส่วนตัวก็มั่นใจว่าทางผู้บริหารแผนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ตรงนี้ก็ต้องกลับไปดูว่ามีความสอดคล้องกับนโยบายอย่างไรบ้าง
@ห่วงซื้อเครื่องบินไม่คุ้ม
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวการบินไทย อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ดังนั้น เป็นอำนาจของผู้บริหารแผนฟื้นฟูเป็นผู้ดำเนินการ ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงคมนาคมไม่มีอำนาจ สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 เพราะมีในแผนฟื้นฟู ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมพยายามถามว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่ แต่ก็เข้าไปล้วงลูกไปตรงนั้นไม่ได้
นายสุริยะกล่าวย้ำว่า กระทรวงคมนาคมเป็นห่วงมาก เนื่องจากการซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787 มีภาระและคุ้มทุนหรือไม่ อย่างไร กระทรวงคมนาคมก็มีความเห็นไป แต่อำนาจทั้งหมดอยู่ที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู ถามว่า สบายใจไหม ทางกระทรวงคมนาคมก็เป็นห่วง แต่กระทรวงเราไม่มีอำนาจตรงนั้น ในโซเชียลมีเดียกลายเป็นว่า มากล่าวหาว่า ตนเป็นคนอนุมัติให้ซื้อเครื่องบิน ตรงกันข้ามเลย ถ้ามีอำนาจ ก็ต้องบอกให้หยุดไว้ก่อน เพื่อดูว่าคุ้มทุนหรือเปล่า แต่ไม่ใช่อำนาจของตน
นายสุริยะกล่าวว่า ส่วนเครื่องบินของการบินไทยที่จอดแช่อยู่สนามบินสุวรรณภูมิจำนวนมากนั้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับการบินไทยเครื่องบินเก่าที่จอดแช่อยู่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องบินแอร์บัส 380 ลำใหญ่ บินแล้วไม่คุ้มค่า จึงต้องหยุดบินไป แต่ช่วงนั้นการบินไทยน่าจะต้องทำ คือ รีบขาย เหมือนกับสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์และแลกเปลี่ยนเครื่องขนาดเล็กลงมา แต่ก็ไม่ได้ทำ
เมื่อถามย้ำว่าในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะสั่งให้ทบทวนแผนการจัดซื้อเครื่องบินโอบิ้ง 787 หรือไม่ นายสุริยะย้ำว่า ตนไม่มีอำนาจ แผนการจัดซื้อเป็นของผู้บริหารแผนฟื้นฟู ที่มีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็นประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟู ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ ทำได้เพียงการแนะนำ ไม่มีอำนาจไปจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบิน ผมไม่สามารถเข้าไปดูในรายละเอียดได้
อ่านประกอบ
‘เศรษฐา’ เซ็นตั้งบอร์ดติดตาม ‘แผนฟื้นฟูการบินไทย’ ‘สุริยะ’ นั่งประธาน