รัฐเสียหาย 600 กว่าล.! ป.ป.ช.ชี้มูลคดีนำเข้ารถหรูสำนวน 2 'ลูกชาย' เสรี ชินบารมี โดนด้วย

picppppkkdssddsdsdssddsdsds17 7 67

เผยมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีนำเข้ารถหรู สำนวนสอง ฟันอาญา-วินัย เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร 2 ราย เอกชนโดนนับสิบราย มีชื่อ 'วิทวัส' ลูกชาย เสรี ชินบารมี ด้วย รัฐเสียหายภาษี 600 กว่าล้าน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดในคดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์หรู จากต่างประเทศที่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง สำนวนที่ 2 โดยกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ที่ถูกชี้มูลความผิด เป็น 2 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร จำนวน 2 ราย คือ

- นายชัยณรงค์ กิจศรีวิเชียร มีพฤติการณ์ตรวจปล่อยรถยนต์นั่งสำเร็จรูปนำเข้าและรับราคาศุลกากรตามใบขนสินค้าจำนวน 43 ใบขนสินค้า (คัน) เป็นรถยนต์ยี่ห้อ MASERATI 8 คัน รถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI 35 คัน

- นายแสงทอง เวชยม มีพฤติการณ์อนุมัติรับราคาที่ผู้นำของเข้าสำแดงเป็นราคาศุลกากร ตามที่ นายชัยณรงค์ กิจศรีวิเชียร เสนอตามใบขนสินค้า จำนวน 4 ใบขนสินค้า (คัน)

โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154 , 157 ,162 (1) และ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรงด้วย

2. กลุ่มเอกชน นำเข้ารถยนต์หรูจากต่างประเทศ แยกเป็น

- กลุ่มนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ MASERATI

ผู้ถูกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิด ได้แก่ บริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด นายสุรเดช เมธีวัชรานนท์ นางสาวพรศริน เมธีวัชรานนท์ กรณีนำเข้ารถยนต์ โดยยื่นใบขนสินค้าขาเข้าสำแดงรายการของหรือราคาของหรือราคาซื้อขายของที่นำเข้าเป็นเท็จ ต่ำกว่าราคาที่ได้ชำระจริงหรือราคาที่จะต้องชำระสำหรับของที่นำเข้า หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรที่ต้องเสียหรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย จำนวน 8 คัน ทำให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหายไม่ได้รับค่าภาษีอากรนำเข้าที่ถูกต้องครบถ้วน เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 41,283,389 บาท

- กลุ่มนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI

ผู้ถูกล่าวหาที่ถูกชี้มูลความผิดได้แก่

1. บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด , นางผ่องศรี สุทธิรัตน์เสรีกุล , บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด, นายจักรกฤต ถาวรธนากุล, นางสุนี เจริญวิจิตรศิลป์, นางจินตนา ทวนทอง หรืออิทธิสิทธิกุล , บริษัท นิช คาร์ จำกัด , นายวิทวัส ชินบารมี (ลูกชาย นายเสรี ชินบารมี นักธุรกิจขายรถยนต์หรูชื่อดัง) กรณีนำเข้ารถยนต์ จำนวน 35 คัน โดยยื่นใบขนสินค้าขาเข้าสำแดงรายการของหรือราคาของหรือราคาซื้อขายของที่นำเข้าเป็นเท็จ ต่ำกว่าราคาที่ได้ชำระจริงหรือราคาที่จะต้องชำระสำหรับของที่นำเข้า โดยหลีกเสี่ยงการเสียภาษีอากรที่ต้องเสียหรือเสียน้อยไปกว่าที่จะต้องเสีย ทำให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหายไม่ได้รับค่าภาษีอากรนำเข้าที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 560,096,600 บาท

2. บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้กรุ๊ป จำกัด กรณีนำเข้ารถยนต์ จำนวน 34 คัน

3. นายจักรกฤติ ถาวรธนากุล กรณีนำเข้ารถยนต์ จำนวน 18 คัน

4. นางสุนี เจริญวิจิตรศิลป์ กรณีนำเข้ารถยนต์ จำนวน 21 คัน

5. นางจินตนา ทวนทอง หรืออิทธิสิทธิกุล กรณีนำเข้ารถยนต์ 16 คัน

6. บริษัท นิช คาร์ จำกัด และนายวิทวัส ชินบารมี กรณีนำเข้ารถยนต์ 1 คัน (อ่านประกอบ : เจาะคดีรถหรู บ.จูบิลี่ไลน์ : 5 บริษัทเครือข่ายเดียวกัน ‘นายชาย’ ผู้สั่งการตัวจริง)

สำหรับกลุ่มเอกชน ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานร่วมกันนำเข้าของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากร และความผิดฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เจตนาแจ้งข้อความเท็จ ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก

สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวชี้มูลความผิด นายชลิต หอมหวล นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ กรมศุลกากร กับพวก ช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ที่ไม่ใช่ตัวแทน ด้วยการรับราคารถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศที่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเป็นราคาศุลกากร และตรวจปล่อยไปจากอารักขาศุลกากร รวมจำนวน 62 คัน รวมถึงเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวนไม่น้อยกว่า 897,148,369 บาท ไปแล้ว

หมายเหตุ : ภาพประกอบ นายวิทวัส ชินบารมี จาก https://www.sanook.com/

picpppnnppapsaasas00325 6 67