ไม่ใช่แค่ของผู้กำกับโจ้! เปิดข้อมูลดีเอสไอปล่อยคืนรถหรูของกลางในคดีให้ เจ้าของ 20 คัน ยอดภาษีรัฐเสียหาย 496.6 ล. เปลี่ยนมือแล้ว 10 มีนักธุรกิจ นายตำรวจ ดาราดังด้วยแต่เป็นผู้เสียหาย คนเดียวครอบครอง 3 คัน
.................................
คดีสำแดงนำเข้ารถหรูจากต่างประเทศ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานแล้ว 3 คัน
1.รถยนต์ลัมโบร์กินี ในคดีพิเศษที่ 199/2560 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบ และได้มีการดำเนินคดี บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้กรุ๊ป กับพวกรวม 8 ราย ร่วมกันนำรถยนต์ใหม่สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาในราชอาณาจักรโดยสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย รวม 31,201,083.08 บาท ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ผู้ถูกกล่าวหาคดีฆาตกรรมนายจิรพพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด เป็นผู้ครอบครองขณะดำเนินคดี ต่อมา เปลี่ยนมือ นายสุมนต์ เสรีธรณกุล นักธุรกิจ กรรมการและ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท พี.เอส.ซี. สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ครอบครองปัจจุบัน
2.รถยนต์ของกลาง ลัมบอร์กินี (LAMBORGHINI) รุ่น AVENTADOR COUPE หมายเลขตัวรถ ZHWEC 1 ZD 3 DLA ) 01389 หมายเลขเครื่องยนต์ L 53901702 หมายเลขทะเบียน (ขณะอายัด) ภอ 1999 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลางในคดีพิเศษที่ 90/2560
3.รถยนต์ของกลาง ลัมบอร์กินี (LAMBORGHINI) รุ่น AVENTADOR LP 700-4 สีส้ม หมายเลขตัวรถ ZHWEC 1 ZD 5 DLA 01471 หมายเลขเครื่องยนต์ 53901814 หมายเลขทะเบียน(ขณะอายัด) ณฎ 808กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลางในคดีพิเศษที่ 79/2560
ทั้ง 3 คัน บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้กรุ๊ป กับพวก เป็นผู้นำเข้า ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษสั่งคืนของกลางโดยอ้างว่าพนักงานอัยการมีความเห็นไม่สั่งริบ
ล่าสุดมีรายงานระบุว่า มีรถยนต์ที่พนักงานอัยการมีความเห็นไม่ริบของกลางและกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฎิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อถอนอายัด ทั้งสิ้น 20 คัน (คดี) มูลค่าความเสียหายต่อรัฐ 496,635,058.50 บาท และในปัจจุบัน หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษถอนอายัด รถยนต์ได้โอนเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองไปแล้วจำนวน 10 คัน (คดี)
แหล่งข่าวจากกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า ในจำนวน 20 คัน ผู้ครอบครองรถยนต์ขณะดำเนินคดี เป็นนักธุรกิจตระกูลดัง ในจำนวนนี้คนเดียวครอบครอง 3 คัน ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงคือนายปกรณ์ ลัม 1 คัน เป็นนักธุรกิจนามสกุลเดียวกับ นายสุมนต์ เสรีธรณกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท พี.เอส.ซี. สตาร์ช โปรดักส์ จำกัด ,ครอบครองในนามบริษัท 1 คดี (คัน)
ส่วนรถยนต์ 10 คันที่เปลี่ยนมือ ในจำนวนนี้ 1 คัน ผู้ครอบครองปัจจุบันเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.อ.ยังรับราชการอยู่ ขณะเกิดคดีมีชื่อนักธุรกิจรายหนึ่งเป็นผู้ครอบครอง
แหล่งข่าวกล่าวว่าในจำนวน 20 คัน (คดี) พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 1 คดี, อัยการมีความเห็นส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 1 คดี ซึ่งในจำนวน 20 คดีดังกล่าว ไม่รวมคดีที่ศาลอาญาพิพากษาริบรถยนต์ของกลาง 1 คดี ( 1 คัน)
ก่อนหน้านี้ วันที่ 26 ส.ค. 2564 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวคดีพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับรถยนต์ราคาแพง (รถหรู)ความผิดที่เกี่ยวกับการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริงทั้งหมด มีจำนวนทั้งสิ้น 216 คดี และได้สอบสวนเสร็จสิ้นส่งสำนวนการไปยังพนักงานอัยการแล้ว จำนวน 150 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 66 คดี
สำนักข่าวอิศรารายงาน กรณีรถยนต์ลัมโบร์กินีของนายปกรณ์ ลัม นั้นก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า เจ้าตัวเป็นผู้เสียหายโดยซื้อมาจากผู้นำเข้าอีกทอดหนึ่ง ดีเอสไอจึงคืนรถยนต์ให้ผู้เสียหาย แต่ในส่วนของอากรที่ขาด บริษัทผู้ขายมีหน้าที่ต้องชำระภาษีส่วนที่ขาดแทนผู้ซื้อ
@ ภาพประกอบ นายปกรณ์ ลัม จากhttps://siamrath.co.th/n/16313
เรื่องเกี่ยวข้องกรณีนำเข้ารถหรูผู้กำกับโจ้
- ลัมโบร์กินี ‘ผู้กำกับโจ้’ คนถือครองล่าสุด นักธุรกิจ รง.แป้งมันสำปะหลัง
- ลัมโบกินี สีส้ม! คันที่ 3 ดีเอสไอ ถอนอายัด - บ.เบนซ์นครินทร์ฯ นำเข้า
- ตามไปดู 3 เอกชน ผู้นำเข้า ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้ - เหลือแค่ป้ายชื่อบริษัท?
- ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้! ที่แท้ บ.เบนซ์นครินทร์ฯ - พวก นำเข้า
- อัยการไม่สั่งริบ! ดีเอสไอแจงปม คืน ‘ลัมโบร์กินี’ ของกลางคดีรถหรู ก่อน ‘ผกก.โจ้’ เจ้าของ
เปิดหนังสือถอนอายัด ‘ลัมโบร์กินี’ คดีนำเข้ารถหรู ลอตเดียว ‘ผู้กำกับโจ้’ - เบื้องหลัง ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้ ดีเอสไอถอนอายัด หลังอัยการฝ่ายฯ มีความเห็นทางคดี
- ส่ง อสส.แล้ว! ดีเอสไอแถลงคดีรถลัมโบกินี‘ผกก.โจ้’เลี่ยงภาษี-รัฐเสียหาย 31 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/