ยกคำพิพากษาคดี ‘เฟอร์รารี่’ บ.ศรณรงค์ฯ เทียบ! ควรริบ ‘ลัมโบร์กินี’ บ.จูบิลี่ไลน์

picpppcjuuuubbbeeee2 15 66

ไขสำนวนคดีรถหรู บ.จูบิลี่ไลน์ กับพวก ก่อน อสส. ชี้ขาดสั่งฟ้อง‘เสรี รักวิทย์-ชินบารมี’ (ตอนจบ) :ประเด็นรถของกลาง เปิดความเห็นอัยการอาวุโส ยกแนวคดี ‘ศรณรงค์ คาร์’ สำแดงเอกสารราคานำเข้า‘เฟอร์รารี่’เท็จ ปี 2564 ศาลอาญาสั่งริบ ข้อเท็จจริงเดียวกัน ควรสั่งริบ‘ลัมโบร์กินี’ด้วย

คดีนำเข้ารถหรูราย บริษัท จูบิลี่ไลน์ จํากัด กับพวกรวม 7 คน ล่าสุดอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้อง นายเสรี รักษ์วิทย์ หรือ ชินบารมี ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 243,253 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ตามที่รองอัยการสูงสุดเสนอ ขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถยนต์ของกลาง ตามพระราชบัญญัติศุลกากร และให้พนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบประวัติการต้องคดีของผู้ต้องหาทุกคนว่าแต่ละคนอยู่ในข่ายต้องขอเพิ่มโทษ ขอนับโทษต่อ หรือไม่ กี่คดี แล้วดำเนินการขอเพิ่มโทษ หรือขอนับโทษต่อกันให้ครบถ้วนทุกคดี ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว

picpppcccsddsdssdsdsd1 1166

@ นายเสรี รักษ์วิทย์ หรือ ชินบารมี/ภาพจาก https://th.postupnews.com/

ประเด็นริบรถของกลางนั้นความเห็นของนายโสภณ มณีโรจน์ อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด 2 ที่เสนอให้อัยการสูงสุดได้ยกคดีก่อนหน้านี้ที่ สํานักงานอัยการสูงสุด โดยสํานักงาน อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้เคยยื่นฟ้องคดีที่มีข้อเท็จจริงแบบเดียวกันกับคดีนี้ (คดี บริษัท จูบิลี่ไลน์ จํากัด กับพวก 7 ราย) ต่อศาลอาญา คดีอาญา หมายเลขดําที่ อ917/2564 ระหว่างพนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด โจทก์ บริษัท ศรณรงค์ คาร์ จํากัด จําเลยฐาน ความผิดต่อพระราชบัญญัติ ศุลกากร, ความผิดต่อพระราชบัญญัติ สรรพสามิต ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ศาลอาญาได้พิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 817/2564

เพราะฉะนั้น ดังนั้น จึงเห็นควรขอริบรถยนต์ของกลางในคดีนี้ (คดี บริษัท จูบิลี่ไลน์ จํากัด กับพวก 7 ราย)

ความเห็นของอัยการอาวุโสสรุปว่า สําหรับรถยนต์ของกลางผู้ต้องหาในคดีนี้ร่วมกันแบ่งหน้าที่ในการหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากรของรถยนต์ของกลาง รถยนต์ของกลางที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง จึงเป็นของใดอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติ ศุลกากร พุทธศักราช 2469 ทั้งนี้ตามนัยของมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พุทธศักราช 2482 ของดังกล่าวจึงต้องรับโดยมิพักต้องคํานึงว่าบุคคลผู้ใดจะต้องรับโทษหรือไม่ ซึ่งแสดงว่ากฎหมายให้พิจารณาจากสิ่งของนั้นว่าเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงหรือไม่ เสียภาษีถูกต้อง หรือไม่ หากเสียไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนต้องริบทั้งสิ้น เว้นเสียแต่ผู้นําเข้าได้ดําเนินการตามกฎหมายถูกต้องแล้ว

เพราะมิฉะนั้นแล้วย่อมต้องรับฟังว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ได้มาจาก การกระทําผิดทั้งตามพระราชบัญญัติศุลกากร ทั้งฉบับเดิม (2469) และฉบับปัจจุบันและตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 เจตนาของกฎหมายมิได้พิจารณาจากผู้นําเข้าว่าเสียภาษีบางส่วนแล้วหรือไม่ทั้งกฎหมายบัญญัติไว้ว่า “โดยมิพักต้องคํานึงว่าบุคคลใดจะต้องรับโทษ หรือไม่” และพระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ. 2560 ก็บัญญัติในทํานองเดียวกัน ไม่มีบทบัญญัติ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ใดที่บัญญัติว่าเสียภาษีบางส่วนแล้วสิ่งของนั้นชอบด้วยกฎหมายและจะนําหลักกฎหมายที่ว่าซื้อมาโดยสุจริตนั้นมาเป็นข้ออ้างว่าของนั้นริบ ไม่ได้ เพราะกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องหลักกรรมสิทธิ์ในทางแพ่ง

หรือเรื่องเจตนาในทางอาญาทั้งที่สิ่งของนั้นมีมลทินอยู่ แม้ในมาตรา 243 จะใช้ถ้อยคําว่า “ศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ นั้น “กฎหมายให้ศาลเท่านั้นเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ” โดยอาจดูจากการหลีกเลี่ยงภาษีน้อยหรือมาก เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อมิให้การใช้กฎหมายแข็งกร้าวจนเกินไป และบทบัญญัติกฎหมายในปัจจุบันก็จะบัญญัติในทํานองนี้เกือบทุกฉบับ

เพราะที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายไม่บรรลุผล เพราะมีการ ตีความเลี่ยงกันมาก

ดังนั้นรถยนต์ของกลางจึงต้องขอริบ และสํานักงานอัยการสูงสุด โดยสํานักงาน อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้เคยยื่นฟ้องคดีที่มีข้อเท็จจริงแบบเดียวกันกับคดีนี้ ต่อศาลอาญา คดีอาญา หมายเลขดําที่ อ 917/2564 ระหว่างพนักงานอัยการ สํานักงานอัยการสูงสุด โจทก์ บริษัท ศรณรงค์ คาร์ จํากัด จําเลยฐาน ความผิดต่อพระราชบัญญัติ ศุลกากร, ความผิดต่อพระราชบัญญัติ สรรพสามิต ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ศาลอาญาได้พิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 817/2564 (ปรากฏตามเอกสารท้ายบันทึกฉบับนี้)

ดังนั้น จึงเห็นควรขอริบรถยนต์ของกลาง และให้เพิกถอนหนังสือที่แจ้งเกี่ยวกับของกลาง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 (หากมี)

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คดีรายบริษัท ศรณรงค์ คาร์ จํากัด ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรารายงานแล้ว เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ 817 /2564 วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ระหว่างพนักงานอัยการ โจทก์ บริษัท ศรณรงค์ คาร์ จำกัด จำเลย ความผิดต่อ พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.สรรพสามิต

piccaffffasa9633s10 21 64

ข้อเท็จจริงจําเลยกับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันนําสินค้าประเภทรถยนต์นั่งใหม่สําเร็จรูปยี่ห้อเฟอร์รารี่ (FERRARI) รุ่น F 430 หมายเลขตัวรถ ZFFEZ58C00140585 หมายเลขเครื่องยนต์ 91072 จํานวน 1 คัน มีถิ่นกําเนิดในประเทศสาธารณรัฐอิตาลีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยร่วมกันสําแดงแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ สําแดงราคา รถยนต์นั่งใหม่สําเร็จรูป ราคา 42,600 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 1,296,871.80 บาท ความจริงแล้วสินค้าที่จําเลยนําเข้าดังกล่าวมีราคาซื้อขายปรากฏตามบัญชีราคาสินค้าที่บริษัทผู้ขายรถยนต์ ยี่ห้อเฟอร์รารี่ ที่ประเทศอิตาลีขายให้กับผู้ซื้อ เป็นเงิน 101,557.23 ปอนสเตอร์ริง คิดเป็นเงินไทย จํานวน 5,493,021.43 บาท ซึ่งหากคํานวณภาษีอากร ที่เรียกเก็บตามราคาซื้อขายของที่นําเข้าจริง อากรขาเข้าที่ต้องชําระจริงเป็นเงิน 4,394,417 บาท ภาษีสรรพสามิตที่ต้องชําระจริงเป็นเงิน 10,986,042.57 บาท ภาษีเพื่อมหาดไทยที่ต้องชําระจริงเป็นเงิน 1,098,604.26 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชําระจริงเป็นเงิน 1,538,045.97 บาท รวมภาษีอากรที่จําเลยกับพวกต้องชําระจริงเป็นเงิน 18,017,109.82 บาท จึงเป็นเหตุให้มีอากรขาดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 13,763,371.82 บาท

พิพากษาจําเลยมีความผิด ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 พระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 202 ปรับ 3,356,920 บาท จําเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 1,678,460 บาท ริบรถยนต์ของกลาง ให้จ่ายเงินสินบนแก่ผู้นําจับร้อยละสามสิบของราคารถยนต์ของกลางหรือค่าปรับและจ่ายเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมร้อยละสิบห้าของราคารถยนต์ของกลางหรือค่าปรับ

piccoiisdsdsd10 21 64

คำพิพากษาคดีสำแดงนำเข้า‘เฟอร์รารี่’ เท็จ บ.ศรณรงค์ฯกับพวก ปรับ6 ล. ริบรถ

บริษัท ศรณรงค์ คาร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 5 ต.ค. 2549 ทุน 5 ล้านบาทที่ตั้งเลขที่ 16/13 หมู่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายชัยสุวัจน์ ธนศรณรงค์ เป็นกรรมการ และถือหุ้นใหญ่ ต่อมา 17 ก.ค. 2555 เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงกรรมการเป็นนายเกรียงไกร เดชไพร

ทั้งหมดเป็นข้อมูลคดีนำเข้ารถหรูลัมโบร์กินี่บริษัท จูบิลี่ไลน์ จํากัด ต้องติดตามผลคดี กันต่อไป

เรื่องเกี่ยวข้อง :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage