ปมรถหรู‘ลัมโบร์กินี’ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ดีเอสไอส่งให้ สนง.ขนส่ง กรุงเทพฯ ถอนอายัด หลังอัยการฝ่ายฯมีความเห็นทางคดี ก่อนหน้ารับเป็นคดีพิเศษปี 2560 บ.ดังนำเข้า - อัยการยังอยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวนคดีรถหรูเลี่ยงภาษี-บางคดีสั่งฟ้องไปแล้ว
.........................
กรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ผู้ถูกกล่าวหาคดีคลุมถุงฆ่าผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ครอบครองรถยนต์หรูหลายคัน 1 นั้นมีรถลัมโบร์กินี ด้วย ต่อมา วันที่ 26 ส.ค. 2564 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบบริหารคดีของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า ในจำนวนรถยนต์ที่ปรากฏเป็นข่าว มีรถยนต์ราคาแพง (รถหรู) ยี่ห้อลัมโบร์กินี หมายเลขตัวรถ ZHWEC1ZD6ELA เป็นคดีพิเศษที่ 199/2560 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบ และได้มีการดำเนินคดีกับขบวนการผู้ร่วมกันกระทำความผิด รวม 8 ราย ที่ร่วมกันนำรถยนต์ใหม่สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาในราชอาณาจักรโดยสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย รวม 31,201,083.08 บาท และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษคดีดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562 สารบบระบุว่าปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ขนส่งเปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า รถยนต์รถแลมโบกินีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถูกถอนอายัดจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว หลังจากพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นทางคดี ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว เป็น 1 คัน ในจำนวนหลายคันที่ ผู้อำนวยการกองปฎิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม มีหนังสือ สั่งการมายังพนักงานเจ้าหน้าที่ขนส่ง โดยมีหนังสือถึง ผู้อำนวยการขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5 กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ถอนอายัดรถยนต์ อย่างไรก็ตามคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด อยู่ระหว่างการให้ความเห็นของอัยการสูงสุด
แหล่งข่าวระบุว่า คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีรถหรู เป็นคดีพิเศษ ก็สืบเนื่องจาก มูลค่าความเสียหายต่อรัฐ หลายพันหลายบาท และมีการแยกย่อย เป็นคดีมากกว่า 100 คดี ซึ่งส่วนใหญ่คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ และบางคดี พนักงานอัยการมีคความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ที่ร่วมกระทำความผิดบางราย แต่ กรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นแย้ง ฉะนั้นสำนวนการสอบสวนก็กลับไปเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดในการพิจาณาสั่งคดีเด็ดขาด และ ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาล และศาลได้มีคำพิพากษาสั่งปรับและริบของกลาง
การที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีหนังสือมายังกรมการขนส่งจึงเป็นเรื่อง เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งเป็นห่วงว่า จะเข้าข่ายฟอกคดีรถยนต์หรูด้วยหรือไม่ เพราะเป็นรายได้หลักของกรมการขนส่งทางบก และ เป็นเงินภาษีเงินรายได้ของประเทศ แต่เมื่อ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีหนังสือถอนอายัดมายังกรมการขนส่งทางบก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องถอนอายัด ทำให้รถหรูหลายคันกลายเป็นรถที่ถูกต้องตามกฏหมายและมีการซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งรถบางคันเจ้าหน้าที่สถานทูตยังคงตามคดีอยู่เนื่องจากว่า เป็นรถนำเข้ามาจากประเทศของเขา
“ไม่คิดว่าเรื่องของ ผกก.โจ้ จะกลายเป็นเรื่องของคนๆเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วย ทั้ง เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร พนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ทำงานตรงไปตรงมา และ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกต้องมาเดือนร้อนด้วย ” แหล่งข่าวกล่าว
มีข้อมูลว่า รถยนต์คันดังกล่าวนำเข้าโดยบริษัทนำเข้ารถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเอกชนรายนี้นำเข้าหลายคันและตกเป็นผู้ถูกกกล่าวหาหลายคดี
@อัยการยังอยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวนคดีรถหรูเลี่ยงภาษี-บางคดีสั่งฟ้องไปแล้ว
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2564 รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แจ้งสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เพิ่มเติมถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนคดีรถหรูเลี่ยงภาษีอย่างน้อย 150 สำนวนมายังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการสั่งฟ้องว่า ปัจจุบันสำนักงาน อสส. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเช่นกัน เนื่องจากคดีดังกล่าวมีการกระจายไปอยู่ในหลายสำนัก หลายกอง แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้น บางคดีมีการสั่งฟ้องไปแล้ว บางคดีสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ โดยสำนวนคดีประเภทนี้ ต้องมีการคำนวณราคา และเช็คกับบริษัทผู้ผลิตด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีรถลัมโบกินีในสำนวนคดีกล่าวหา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ นั้น รายงานข่าว ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเช่นเดียวกัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage