‘ชัชชาติ’ เผย ‘กรุงเทพฯ’ แบกรับภาระขาดทุนเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ‘ส่วนหลัก-ส่วนต่อขยาย 2 ช่วง’ ในช่วงปี 2573-84 รวมแล้วกว่า 8.57 หมื่นล้าน ยอมรับ 'แก้ยาก' เพราะสัญญาทำไว้แล้ว
.......................................
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายในงาน 3 มุมมองของผู้บริหารองค์กร ในหัวข้อ ‘ความยั่งยืน 3 มุมมอง... SURVIVE or SUSTAIN’ ซึ่งจัดโดยสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งว่า แม้ว่าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสะพานตากสิน-สนามกีฬาแห่งชาติ จะสิ้นสุดลงในปี 2572 และกลับมาเป็นของ กทม. ในปี 2573
แต่เนื่องจากในปี 2555 ผู้บริหาร กทม.ในอดีต ได้ทำสัญญาว่าจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้าล่วงหน้า โดยทำสัญญาจ้างเดินรถตั้งแต่ปี 2573-2585 ซึ่งเมื่อรวมกับค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และอ่อนนุช-แบริ่ง ซึ่งจ้างเอกชนเดินรถตั้งแต่ปี 2555-2585 และค่าจ้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ ซึ่งจ้างเอกชนเดินรถตั้งแต่ปี 2559-2585 แล้ว
จากประมาณของ กทม. พบว่า ระหว่างปี 2573-2584 กทม.จะมีภาระค่าจ้างเดิน (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้ง 3 ส่วน คือ ส่วนหลัก ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 รวมแล้ว 2.39 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้จากค่าโดยสาร ซึ่งคิดจากค่าเฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว และมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเฉลี่ย 3% ต่อปี จะอยู่ที่ 1.53 แสนล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่า กทม.ขาดทุนจากการเดินรถรวม 8.57 หมื่นล้านบาท ในช่วง 12 ปี หรือขาดทุนประมาณปีละ 7,000 ล้านบาท
“ในปี 2573-84 เราจะจ่ายค่าจ้างเดินรถสายสีเขียวทั้งระบบ 239,000 ล้าน หรือเฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้าน แต่เรา (กทม.) คาดว่าจะเก็บรายได้ค่าตั๋วได้เฉลี่ย 30 บาทต่อเที่ยว และมีผู้โดยสารเติบโตปีละ 3% หรือเพิ่มขึ้น 1 ล้านคนต่อปี หรือทำให้เราจะเก็บค่าโดยสารได้ 153,300 ล้านบาท ดังนั้น เราจึงขาดทุน 8.5 หมื่นล้าน หรือเฉลี่ยปีละ 7,000 ล้านบาท แต่ถ้าเก็บค่าโดยสารให้มากกว่า 30 บาทต่อเที่ยว เพื่อให้ครอบคลุมค่าจ้างทั้งหมด ผู้โดยสารก็ลดลง” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่มีใครผิด และไม่มีใครถูก เพราะเป็นสัญญาที่ทำกันมาแล้ว แต่ประเด็นที่ต้องการสะท้อน คือ นี่เป็นสัญญาในอนาคตที่คนรุ่นใหม่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ขณะที่ผลขาดทุนจากการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวปีละ 7,000 ล้านบาทดังกล่าว ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับงบด้านสาธารณสุขของ กทม. ปีล่าสุด ซึ่งได้รับจัดสรรงบที่ 6,600 ล้านบาท หรืองบจัดซื้ออาหารเด็กนักเรียนที่ได้รับจัดสรรงบ 3,600 ล้านบาท
“ถามว่าทำอะไรได้ไหม ก็ตอบว่ายาก เพราะสัญญาทำมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ว่า ว่าใครถูกใครผิด แต่ต้องมาแถลงให้พวกเราที่เป็นเจ้าของรู้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะสุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะเป็นเงินภาษีที่เราทุกคนต้องร่วมกันจ่าย” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า การบริหาร กทม. หรือประเทศให้อยู่รอดนั้น ความโปร่งใสสำคัญที่สุด อย่าเพิ่งไปพูดเรื่อง SDG (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) หรือเรื่อง BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพราะสำหรับประเทศชาติแล้วเอาความโปร่งใสก่อนเลย ส่วนเอกชนก็ทำ SDG ไป และต้องยอมรับความจริงว่า เรามีปัญตรงนี้ ถ้าไม่โปร่งก็ยากจะยั่งยืน ถ้าไม่ยั่งยืนก็ไม่มีทางอยู่รอด และจะอย่างไรให้ไม่เอาทรัพยากรของอนาคตมาใช้ เพื่อให้เด็กมีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง
อ่านประกอบ :
มีเงินสะสม7หมื่นล.! กทม.พร้อมจ่ายหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ต้องรอผ่านสภากรุงเทพฯ ก่อน
‘ชัชชาติ’ ส่งความเห็น ‘สายสีเขียว’ ถึง ‘มหาดไทย’ แล้ว ลุ้นครม.พิจารณา
กทม.ส่งความเห็น ‘มหาดไทย’ ปมสายสีเขียว สัปดาห์หน้า
‘ชัชชาติ’ รับมติสภากทม. ศึกษา ‘สายสีเขียว’ เก็บค่าโดยสารส่วน 2 เลื่อนไม่มีกำหนด
สภากทม.คว่ำ ‘ญัตติ’ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตีความ คำสั่งม.44 ไม่ให้อำนาจ กทม.-ส.ก.พิจารณา
‘ชัชชาติ’ ประกาศไม่ต่อสัมปทานสายสีเขียว เสนอรัฐบาลอุดหนุนค่าก่อสร้าง 5.8 หมื่นล้าน
‘ชัชชาติ’ ลุ้น สภากทม. เคาะค่าโดยสาร ส่วนต่อขยายสายสีเขียว 26 ต.ค.นี้
ศาลสั่ง ‘กทม.-เคที’ จ่าย 1.1 หมื่นล้าน ปมค้างค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว
เจาะคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เกาะติดท่าที 'กทม.-เคที'อุทธรณ์คดีค่าเดินรถ'สายสีเขียว'
เบื้องหลัง 2 แนวคิดเก็บค่าตั๋วส่วนต่อขยาย‘สายสีเขียว’คั้นรายได้ 2.6 พันล.โปะหนี้ BTSC
2 สัญญา 3.5 แสนล.! ย้อนดูค่าจ้าง เดินรถ'สายสีเขียว'ส่วนต่อขยาย ก่อน'เคที'จ่อรื้อใหม่
ISRA WHY? : ‘ธงทอง จันทรางศุ’แม่ทัพ'กรุงเทพธนาคม'ภารกิจสุดขอบฟ้า ล้างหลุมดำ กทม.
แก้จ้างเดินรถ BTS ชัดเจนปีนี้ ‘ธงทอง’เคลียร์ส่วนต่อขยาย 1-2
ไม่เกินส.ค.นี้เสนอสภากทม.เคาะค่าโดยสารสายสีเขียว ถอดรายได้ 2 สูตรจ่ายค่าเดินรถ
กทม.ขอ 2 เดือน เคลียร์โอนหนี้สายสีเขียว เผยยอดหนี้ ‘หมอชิต-คูคต’พุ่ง 5.4 หมื่นล้าน