‘การบินไทย’ แจ้ง 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 5.1 หมื่นล้านบาท หลังมีรายได้จากการปรับโครงสร้างหนี้ 6 หมื่นล้านบาท ‘ปิยสวัสดิ์’ ย้ำไม่ขอกู้เงินจากรัฐ 2.5 หมื่นล้านบาทแล้ว แต่ยังหวัง ‘ก.คลัง’ ใส่เงินเพิ่มทุน-แปลงหนี้เป็นทุน ขณะที่ ‘ตลท.’ สั่งห้ามซื้อขายหุ้น THAI ชั่วคราว หลัง ‘ผู้สอบบัญชี’ ไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงิน
...............................
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 51,115 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ ขาดทุน 49,561 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว-สุทธิ เป็นจำนวน 72,566 ล้านบาท เช่น การขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม 2,848 ล้านบาท กำไรจากการขายทรัพย์สิน 628 ล้านบาท และกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 60,730 ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีผลการขาดทุนจากการดำเนินงาน ซึ่งไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว อยู่ที่ 21,491 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12,465 ล้านบาท หรือลดลง 36.7% ซึ่งเป็นผลจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯและผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯได้พยายามปรับองค์กรให้มีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายต่างๆลงพอสมควร
สำหรับในงวด 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,990 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29,230 ล้านบาท หรือลดลง 66.1% จากรายได้จากการขนส่งผู้ค่าโดยสารและสินค้าลดลง และมีค่าใช้จ่ายรวม 36,481 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 41,695 ล้านบาท หรือลดลง 53.3% เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งลดลง และมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิรูปธุรกิจได้ผลค่อนข้างดี
“การที่มีรายงานครั้งเดียว (one time) เข้ามา ทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 51,115 ล้านบาทนั้น ผลที่ตามมาในแง่งบดุล คือ ส่วนของผู้ถือหุ้นที่เคยติดลบ 1.28 แสนล้านบาทในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่พอไตรมาส 3/64 ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อความสามารถในการออกหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯในอนาคต และผมก็หวังว่าส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงต่อเนื่อง จากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯและการปรับโครงสร้างหนี้” นายปิยสวัสดิ์ ระบุ
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย.2564 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 163,703 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธ.ค.2563 จำนวน 45,594 ล้านบาท หรือลดลง 21.8% มีหนี้สินรวม 240,196 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 จำนวน 97,766 ล้านบาท หรือลดลง 28.9% และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ติดลบจำนวน 76,493 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธ.ค.2563 จำนวน 52,172 ล้านบาท
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงกรณีการใส่เงินใหม่ของให้กระทรวงการคลัง ว่า กระทรวงการคลังจะต้องไปพิจารณาในเรื่องนี้และแจ้งให้กับผู้บริหารแผนฯทราบ แต่หากกระทรวงการคลังไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ตอบอะไรมา เมื่อมีการเพิ่มทุน สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน บริษัท การบินไทย จะลดลงโดยอัตโนมัติ
“ในการออกหุ้นเพิ่มทุนนั้น กระทรวงการคลังจะเอา หรือไม่เอา อันนี้จะต้องมีการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการฯ ถ้ากระทรวงการคลังไม่เอาเงินใส่เข้ามา หรือไม่สนับสนุนเงินกู้ฝ่ายรัฐอีก 2.5 หมื่นล้านบาท ก็ต้องแก้ไขแผนอยู่แล้ว ส่วนจะแก้อย่างไร จะมีการออกหุ้นเพิ่มทุนขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม การแปลงหนี้เป็นทุนของกระทรวงการคลัง เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องไปพิจารณา แล้วมาบอกกับพวกเรา
แต่ถ้า (กระทรวงการคลัง) ไม่ตัดสินใจอะไรเลย ไม่ให้คำตอบ ในที่สุดแล้วเราจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งหมายความว่า เมื่อผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามา เอาเงินกู้ใหม่ใส่เข้ามา และมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 2.54 บาท/หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังจะลดลงโดยอัตโนมัติจาก 48% เหลือ 8% แต่กระทรวงการคลังยังมีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุนได้ เพราะยังเป็นเจ้าหนี้การบินไทยอยู่ 1.3 หมื่นล้านบาท” นายปิยสวัสดิ์ ระบุ
นายปิยสวัสดิ์ ย้ำว่า กระทรวงการคลังบอกมาตลอดว่าเงินกู้ภาครัฐ 2.5 หมื่นล้านบาท ไม่สามารถใส่เข้ามาได้ ซึ่งตรงนี้ก็ชัดเจนว่าจะไม่เข้า แต่หากจะทำให้สัดส่วนของรัฐที่ถือหุ้นอยู่ในระดับสูงพอสมควร มีวิธีเดียวก็คือ แปลงหนี้เป็นทุน และ/หรือซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ บอกว่า การบินไทยยังต้องเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไป ก็น่าจะหมายความว่ารัฐน่าจะต้องมีหุ้นเพิ่มขึ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุน และ/หรือซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่ไม่ได้ให้เงินกู้
“เรื่องเงินกู้จากรัฐบาลจบแล้ว เราพูดหลายทีแล้วว่า ไม่มีใครไปขอกู้เงินจากรัฐบาล และรัฐบาลก็บอกว่าไม่ให้เงินกู้ ซึ่งถ้าไม่มีเงินกู้จากรัฐบาล เราก็ไปได้ เพียงแต่เราบอกไปว่า ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ไม่ตัดสินใจเลย แล้วเรากู้จากเอกชน 2.5 หมื่นล้านบาท แล้วเอกชนแปลงหนี้เป็นทุนในราคา 2.54 บาท/หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังจะลดเหลือ 8% จึงเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องพิจารณาว่า ต้องการอย่างนี้หรือไม่” นายปิยสวัสดิ์ ระบุ
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ อยากได้คำตอบจากกระทรวงการคลังโดยเร็ว หากเป็นไปได้ก็อยากได้คำตอบ ในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อที่ว่าเราจะได้เดินหน้าต่อไป ส่วนจัดหาสินเชื่อใหม่จากเอกชน 2.5 หมื่นล้านบาท น่าจะไปได้ด้วยตัวเอง ไม่เกี่ยวว่ารัฐบาลจะสนับสนุนเงินกู้หรือไม่ เพราะบริษัทฯมีทรัพย์สินและหลักทรัพย์ที่จะค้ำประกันเงินกู้จากเอกชนได้ ขณะที่บริษัทฯมีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง และมีแรงจูงใจว่าคนที่ใส่เงินใหม่เข้ามาจะมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน 2.54 บาท/หุ้น
(ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์)
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีเรื่องการขอกู้เงินจากรัฐ และไม่มีการขอแฮร์คัตหนี้แต่อย่างใด แต่เราขอให้ภาครัฐจ่ายหนี้ของรัฐที่มีกับบริษัท การบินไทย มาให้หมด เช่น หนี้ของตำรวจที่มีกับบริษัทฯ 1,800 ล้านบาท พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลช่วยดูแลธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ที่หักกลบลบหนี้ในส่วนของกองทุนบำเหน็จฯของบริษัทฯไป 2,000 ล้านบาท
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บมจ.การบินไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ให้ข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปแล้ว เกี่ยวกับการใส่เงินกู้ใหม่ในส่วนของภาครัฐ และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งเป็นเพียงการเสนอทางเลือกให้กับรัฐบาลเท่านั้นว่า หากทำตามทางเลือกต่างๆสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่รัฐบาล และสคร. เลือกว่าจะเดินแบบไหน
นอกจากนี้ บมจ.การบินไทย ยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 เป็นต้นไป บริษัทฯได้ทำการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบิน ทั้งในส่วนของบริษัทฯและสายการบินไทยสมายล์ ไปยัง 44 จุดหมายปลายทางหลักในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 400 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารกว่า 1 ล้านคน/เดือน พร้อมทั้งตั้งเป้าผลักดันให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารกลับไปสู่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2565 เพื่อตอกย้ำความเป็นสายการบินแห่งชาติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (15 พ.ย.) บมจ.การบินไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) แต่ต่อมา ตลท. ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) โดยห้ามซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2564 และจะขึ้นเครื่องหมาย NP (บริษัทมีข้อมูลที่ต้องรายงาน และตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท) ในวันที่ 16 พ.ย.2564
อ่านประกอบ :
‘บิ๊กตู่’ยัน‘การบินไทย’เป็น'สายการบินแห่งชาติ'ตลอดไป-ชี้แผนฟื้นฟูฯคืบหน้าในเกณฑ์ดี
‘การบินไทย’เจรจาแบงก์ขอสินเชื่อใหม่ 2.5 หมื่นล้าน-ลั่นไม่กลับเป็น‘รัฐวิสาหกิจ’แล้ว
'ทอท.' ยกข้อสัญญาไม่อนุญาต ‘การบินไทย’ นำเครื่องบินลูกค้าเข้า ‘ศูนย์ซ่อมฯดอนเมือง’
ลดค่าใช้จ่าย! ‘การบินไทย’ เร่งคืนพื้นที่ ‘ศูนย์ซ่อมฯดอนเมือง’ บางส่วน ให้ 'ทอท.'
ปิดฉาก ‘ศูนย์ซ่อมฯอู่ตะเภา’ ผุด MRO ใหม่ 8.3 พันล. ‘ทัพเรือ’ สร้าง ‘การบินไทย’ เช่า
ปิดศูนย์ซ่อมฯอู่ตะเภา! ‘การบินไทย’ คืนพื้นที่ ‘สกพอ.’-โยก 300 พนง.กลับดอนเมือง
‘การบินไทย’ นัดถก ‘ทอท.’ต่อสัญญาเช่าศูนย์ซ่อมฯดอนเมือง-จับตา ‘เวียตเจ็ท’ยึดอู่ตะเภา
โค้งสุดท้าย! แผนฟื้นฟูฯ ‘การบินไทย’ ‘รื้อฝูงบิน-ลดพนง.-หาทุนใหม่’ ชงรัฐขอสิทธิพิเศษ
การบินไทย'ขอสิทธิพิเศษ! ให้ ‘ทอ.-ตช.’ เปิดทางเข้าซ่อม ‘เครื่องบิน-ฮ.’-ทอท.ลดค่าเช่า
ร่อนจม.หาพันธมิตร! ‘การบินไทย’ เปิดร่วมทุนศูนย์ซ่อมฯ-มี ‘ไทยเบฟฯ-คิงพาวเวอร์’ ด้วย
ชงเข้าแผนฟื้นฟูฯ! 'การบินไทย' ดันศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา-ตั้ง ‘บ.ร่วมทุนฯ’ ถือหุ้น 51%
ผลประโยชน์ทับซ้อน? ทอท. ตั้ง ‘ศูนย์ซ่อมฯเครื่องบิน’ แข่ง 'การบินไทย'
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage