เปิดใจ 'เกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต' ผอ.อคส. กับภารกิจสางคดีถุงมือยางแสนล้าน

krinagggg996325174

"จริง ๆ แล้วพันธกิจของ อคส.ในพระราชกฎษฏีกาพูดชัดเจนว่าสินค้าเกษตรและธุรกิจเกี่ยวกับบริการเกษตรครบวงจร ต้องถามก่อนว่าถ้าเป็นถุงมือลาเท็กซ์ อาจจะตีความว่าเป็นสินค้ามาจากยางพารา แต่ถ้าเกิดเป็นถุงมือไนไตร คือยางสังเคราะห์ ไม่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรเลย อันนี้อาจจะผิดวัตถุประสงค์ของ อคส.ได้.."

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก กรณีการทำสัญญาจัดซื้อถุงมือยางระหว่างองค์การคลังสินค้า (อคส.) กับ บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด มูลค่ากว่า 112,500 ล้านบาท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น การดำเนินการเรื่องนี้ก็มีความคืบหน้ามาเป็นลำดับ ทั้งในแง่ของการเข้ามาของกลุ่มบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง คำยืนยันจากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ ที่ว่ามีความต้องการจะเข้ามาผลิตถุงมือยางจริง ๆ

ก่อนที่ในช่วงเดือน พ.ย. 2564 จะปรากฎความคืบหน้าสำคัญจากทาง อคส. ก็คือ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) อคส. ได้ลงมติรับรองผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง และออกคำสั่งไล่ออกราชการ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. นายเกียรติขจร แซ่ไต่ นายมูรธาธร คำบุศย์ เป็นทางการแล้ว โดยมีผู้ลงนามในคำสั่งดังกล่าวคือนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. ที่แสดงจุดยืนมาตลอดว่าตั้งใจที่จะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของ อคส.ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. ถึงขั้นตอนการดำเนินงาน ของ อคส. รวมไปถึงบทเรียนสำคัญต่างๆ ที่ อคส.นั้นได้รับรู้เกี่ยวกับข้อทุจริตที่เกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าว

มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้

@การดำเนินการของ อคส.เกี่ยวกับกรณีจัดซื้อถุงมือยางราคานับแสนล้านบาทนั้นไปถึงไหนแล้ว

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. : ผมแบ่งเป็นส่วน ส่วนที่หนึ่งที่เราทำได้คือทำยังไงให้มีระเบียบข้อบังคับที่รัดกุมที่จะทำอย่างไรไม่ให้เงินจำนวนมากออกไปได้โดยที่ไม่ผ่านคณะกรรมการ ซึ่งวันนี้เราแก้เรียบร้อยแล้ว ทั้งข้อบังคับระเบียบและหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินรวมไปถึงการทำสัญญา บุคลากร ต่อให้เรามีมีกฎเกณฑ์ที่รอบคอบรัดกุมขนาดไหน ตัวคนเองจะเป็นปัญหา ถึงเรียนให้ทราบว่าวันนี้เรามีระบบที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมและก็สร้างคนสำหรับ อคส.ในอนาคต ซึ่งจะมีการปลูกฝังค่านิยม จริยธรรมขึ้นมา

ส่วนที่สองก็คือการดำเนินคดีมันก็จะมีอยู่สององค์ประกอบหลัก ก็คือขอบเขตอำนาจของ อคส.ที่วันนี้เราทำครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่อของบทสรุปของคณะกรรมการวินัยร้ายแรง วันนี้ อคส.ได้ไปยื่นหน่วยงานราชการอื่นๆครบถ้วนแล้ว

องค์ประกอบที่สองก็คือ เราได้ไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอแล้ว ดีเอสไอก็จะได้มีการส่งสำนวนภายใน 30 วันไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. แล้ว ป.ป.ช.ก็ตั้งข้อไต่สวน ตั้งข้อกล่าวหาตามที่ปรากฏเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ก็แจ้งแล้วเช่นกันในเรื่องของการตรวจสอบการเงินรอไว้เลยเพื่อตรวจสอบว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลแล้ว ปปง.จะรับบัญชีทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว

คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดฐานอำนาจของกระทรวงการคลังวันนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนอยู่ภายใต้ขอบเขตของคณะกรรมการฯ ผมเชื่อว่าก็จะมีผลสรุปได้ในไม่ช้านี้ ซึ่งนี่ก็คือสื่งที่มันจะครอบคลุมครบถ้วน รวมไปถึงเราได้ไปถามกับทางอัยการด้วยว่าในกรณีของถุงมือยาง เราสามารถฟ้องเองได้ไหม ซึ่งอัยการก็ได้ให้คำแนะนำมาว่าตามมติของคณะรัฐมนตรีนั้น คดีอาญาต้องให้อัยการเป็นคนฟ้อง ส่วนคดีแพ่งนั้น อคส.สามารถฟ้องแพ่งคู่อาญาได้ตามมาตรา 44/1 ก็ต้องรอให้ทาง ป.ป.ช.เป็นตัวที่จะชี้มูล

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนให้ทราบว่า ป.ป.ช.ได้อายัดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ภายใน 50 วัน นับตั้งแต่วันที่มีการตรวจพบ ก็ถือว่าเบาใจได้ระดับหนึ่งว่าเงินยังมีการตรวจสอบ ยังมีการจับตาอยู่ คงต้องรอ ป.ป.ช.ชี้มูล

@เงินมัดจำ 2,000 ล้านบาท ค่าถุงมือยางตอนนี้อยู่ที่ไหน

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :เราจ่ายเงินไป 2,000 ล้านบาท แล้วเขา (บริษัทการ์เดี้ยน โกลฟ ) จ่ายคืนมา 200 ล้านบาท ซึ่งใน 200 ล้านบาทนั้น ป.ป.ช.ก็อายัดบัญชีเราอยู่ เพราะถือเป็นส่วนของเงินทอนที่หาย

@ บริษัทการ์เดี้ยน ยังดำเนินการตามสัญญาอยู่หรือไม่ เนื่องจากครั้งสุดท้ายสำนักข่าวอิศราได้สอบถามกับบริษัทไป เขาบอกว่าพยายามทำถุงมือให้ได้ตามสัญญาอยู่ เขาส่งของมาให้บ้างหรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ประเด็นที่หนึ่ง ต้องเรียนว่าสัญญานั้นไม่ถือว่าเป็นสัญญา เนื่องจากไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ การกระทำการเรื่องนี้เป็นการดำเนินการโดยพลการ ไม่ผ่านคณะกรรมการ อคส. ประเด็นที่สองคือการส่งมอบนั้นมีหรือไม่ เมื่อสัญญาไม่มี มีการส่งบางส่วน การส่งนั้นก็ไม่มีการรับมอบ เนื่องจากว่าการรับมอบนั้นต้องมีการตั้งคณะกรรมการรับมอบเนื่องจากเป็นหน่วยงานราชการ ดังนั้นสัญญายังไม่มีก็ตั้งคณะกรรมการรับมอบไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นข่าวจากไหนก็ถือว่าสิ่งเหล่านั้นก็คือกระทำโดยพลการทั้งสิ้น

@หมายความว่าเอกสารที่ระบุรายชื่อเอกชนที่บอกว่าเป็นผู้ซื้อถุงมือยางจาก อคส. ที่สำนักข่าวอิศราได้นำมาลง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำเอกสารนั้นเป็นการทำโดยพลการใช่หรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ขอถามกลับว่าเอกสารตรงนั้นเป็นส่วนของทาง อคส.ซื้อหรือว่า อคส.ขาย

@ในเอกสารบอกว่าซื้อกับทาง อคส. หรือก็คือ อคส.เป็นผู้ขาย

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ถ้า อคส.เป็นคนขาย เรามีข้อบังคับชัดเจนว่าการซื้อขายสินค้าปกติ ถ้าเกิน 25 ล้านบาท ต้องขออนุมัติบอร์ด อคส.

@หมายความว่ากระบวนการที่ อคส.เป็นสื่อกลางระหว่างบริษัทการ์เดียน กับผู้ซื้อ นั้นเป็นการดำเนินการโดยพลการของเจ้าหน้าที่ อคส.เอง

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ผมต้องอธิบายว่าในระเบียบข้อบังคับของ อคส.ก่อนว่าเมื่อมีคนเสนอมา ก็ต้องมาดูว่าต้องการอะไร ปริมาณเท่าไร อคส.ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง แต่อย่างไรก็ตาม โดยข้อเท็จจริง ตัวสัญญาและข้อเสนอของเอกชนมีเป็นจำนวนมาก จำนวนเงินก็ค่อนข้างสูง อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีการวิเคราะห์โครงการว่าเงินมหาศาลเหล่านี้ อคส.จะต้องหามาจากไหน เพราะไม่ได้หมายความว่ามียอดขายแล้วจะทำได้ เราต้องดูเรื่องของสภาพคล่องด้วย ในเรื่องของต้นทุนและดอกเบี้ย เพราะตามพระราชกฤษฎีกานั้น อคส.กู้เงินไม่ได้ และถ้าหากเงินเกินร้อยล้านบาทก็ต้องผ่านทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งวงเงินสูงมาก จำนวนแสนกว่าล้านบาทนั้น ถ้าหากเป็นเอกชนมันต้องมีการหมุนเงินพอสมควร ผมก็ต้องเชื่อว่าเงินก็ต้องมีใช้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 6,000 ล้านบาท ซึ่ง อคส.ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น และจะเห็นว่าโครงการนั้นก็ทำมาโดยเร่งรีบ ไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการเหล่านี้ก็ชัดเจนว่าสัญญานั้นไม่ได้เป็นสัญญา แล้วมันก็เป็นโมฆะ

คือสัญญาที่เขียนว่าสัญญาซื้อหรือสัญญาขายแล้วมันจะเป็นไปตามนั้น เนื่องจากในรายละเอียดมันอาจจะเป็นสัญญาจะซื้อและจะขายก็ได้ เพราะมันไม่มีการกำหนดเวลาส่งของ

@ตอนนี้ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งคือว่าเราไม่ทราบว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นนั้นอะไรเกิดก่อนกันแน่ ระหว่างมีคนซื้อมาก่อน อคส.เลยไปหาการ์เดี้ยน หรือมีบริษัทการ์เดี้ยนมาก่อน อคส.ก็เลยไปหาคนจะมาซื้อ จุดนี้ถือว่ามีความสับสนอย่างยิ่ง อคส.จะไปดูหรือไม่ว่าอะไรเกิดก่อนกัน

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ประเด็นนี้ผมอธิบายอย่างนี้ว่า โครงการนี้มีข้อพิรุธอยู่หลายประเด็น แต่ทั้งหมดนี้ก็ได้นำไปสู่กระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.แล้ว และผมเชื่อว่าฐานอำนาจของ ป.ป.ช.ก็สามารถเรียกเอกชนหลายรายเข้ามาได้ ไม่ใช่แค่กับทาง อคส.หรือว่าข้าราชการอย่างเดียว และน่าจะเรียกคนในหลายๆระดับที่มีขอบเขตกว้างกว่า อคส.ก็เชื่อว่าอยู่ในมือของ ป.ป.ช. ก็จะเป็นเหตุทำให้สำนวนทั้งหมดมีความกระจ่าง และเมื่ออยู่ในการพิจารณาของศาลแล้วคงจะเห็นว่าใครเป็นใครอะไรยังไงบ้างเพราะลำพัง อคส.เองคงจะวินิจฉัยไม่ได้

@บางบริษัทติดต่อมาทางสำนักข่าวอิศรา และก็บอกว่าเขายืนยันตัวเองว่าถูกต้อง ทำสัญญามาแล้วกับรัฐบาลต่างประเทศ เขาคิดมาว่ามาซื้อกับ อคส.แล้วมันต้องได้ของ ปรากฎว่าเขาไม่ได้ เขาก็ได้รับความเดือดร้อน คนกลุ่มนี้ส่งของให้รัฐบาลของต่างประเทศไม่ทัน ประเทศไทยก็เดือดร้อนอีก ประเด็นนี้จะมีการประสานงาน ช่วยเหลือหรืออย่างไรหรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ก่อนจะมองไปตรงนั้น ผมอยากให้มองก่อนว่า อคส.เสียหายไป 2,000 ล้านบาท ภาพลักษณ์ของ อคส.เองก็เสียด้วยเช่นกัน อคส.เองก็คือส่วนหนึ่งของรัฐบาล ขณะเดียวกันทางเอกชนก็เสียเครดิต ถ้าถามว่าการเยียวยา มีสิทธิ์จะช่วยเหลือได้หรือไม่ ต้องบอกตรงๆว่าฐานอำนาจ อคส.ไม่ได้ให้ไว้ เพราะเรามองว่าสัญญาไม่ได้เกิด

@ในสิ่งที่อยู่ในเอกสารสัญญาการซื้อขายถุงมือยางที่สำนักข่าวอิศราได้เคยลงรายละเอียดไปแล้ว มีการระบุว่าสั่งถุงมือยางยี่ห้อ Medcare และ Momo Gloves ด้วย แต่สุดท้ายก็ไปทำสัญญาซื้อถุงมือยางจากบริษัทการ์เดี้ยนแทน ตรงนี้ถือเป็นข้อพิรุธได้หรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ผมคงไม่ไปก้าวล่วงกับทางสำนวนของ ป.ป.ช. ในเรื่องของเอกสารที่ทำเข้าไปทำโดยพลการ ผมคงไม่ไปลงความเห็นว่าเอกสารนั้นเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ตัวฐานอำนาจของ อคส.เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา แต่ ป.ป.ช.ก็มีอำนาจเป็นไปตามพระราชบัญญัติที่จะดูว่าเอกสาร และข้อมูลของเอกชนแต่ละราย ข้อเท็จจริงนั้นทำอะไรกันมาบ้าง ซึ่งเขาจะทำได้มากกว่าและดีกว่า อคส. วันนี้สิ่งที่ อคส.ทำได้ก็คือรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งหน่วยงานอิสระที่เกี่ยวข้อง ที่มีบทบาทในการพิจารณาและอยู่ในกระบวนการนำคนผิดมาดำเนินคดีมากกว่าที่จะไปลงลึกในเรื่องของที่มาของเอกสาร

ยกตัวอย่างเช่นเอกชนที่อ้างว่าเป็นต่างประเทศ เราคงไม่ได้มีช่องทางจะไปสืบค้นว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ถ้าหาก ป.ป.ช.จะไปสืบ ผมว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมากตามฐานอำนาจเขา

@ตามหลักการแล้ว การซื้อสินค้า มันเป็นหน้าที่ของ อคส.หรือไม่ ที่ต้องไปหาคนซื้อ แล้วพามาเจอกับคนขาย

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ถ้าหากเป็นกรณีถุงมือยาง ผมเข้าใจว่าน่าจะมีการติดต่อกันไปมา แต่ถ้าถามว่ายุทธศาสตร์ของ อคส. วันนี้คืออะไร ก็ตามที่ผมเคยชี้แจงไปแล้วว่าคือแก้มลิงบวกบวก เราไม่ได้มองว่าต้องไปหาลูกค้าหรือต้องไปหาคนขายก่อน เรามองว่าวันนี้สินค้าเกษตรถ้าหากล้นตลาดในอนาคต เกษตรกรจะเดือดร้อน จะไม่ได้ราคาที่เป็นธรรม เรามองที่ตัวนี้ก่อน เพื่อให้ตลาดนั้นมีความกว้างมากขึ้น

@ประเด็นเรื่องของถุงมือยางนั้น ในตอนนี้เรามีสถานการณ์เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ระบาด ตามหลักการแล้วสินค้าพวกเวชภัณฑ์เกี่ยวกับพวกชุดป้องกันโควิดหรือชุดพีพีอี มันน่าจะเป็นที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง คำถามก็คือว่า อคส.จะกลายเป็นตัวกลางไปร่วมแล้วเสริมกำลังการผลิตให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งออกกลับไปให้ประเทศที่ต้องการ อคส.จะช่วยตรงนี้ได้หรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ประเด็นเรื่องที่ถาม พูดถึงในแง่เครื่องมือทางการแพทย์ก่อน โดยเฉพาะเวชภัณฑ์ หน่วยงานแรกที่คนคิดถึงจริงๆไม่ใช่ อคส. แต่เป็นกระทรวงอื่นที่อยู่ใกล้ อคส. ประเด็นที่สอง ในเรื่องของถุงมือยาง ไม่ว่าจะเป็นถุงมือยางเทียมหรือถุงมือยางแท้ ต้องบอกว่าสัญญาที่เราทำนั้นคือถุงมือยางเทียม ซึ่งวัตถุดิบเราไม่มีในประเทศ ต้องนำเข้ามาจากเพื่อนบ้าน ต่อให้เรามีเครื่องจักรเยอะแค่ไหน แต่เพื่อนบ้านไม่ส่งวัตถุดิบมา เราก็ผลิตไม่ได้

@ตอนนี้ (ช่วงต้นเดือน ธ.ค.) สถานการณ์โควิดมันดีขึ้นแล้ว เราประสานงานเพื่อจะให้มีการส่งออกถุงมือยางเพื่อแก้ปัญหา ตรงนี้ อคส.จะทำได้หรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :จริงๆแล้วพันธกิจของ อคส.ในพระราชกฎษฏีกาพูดชัดเจนว่าสินค้าเกษตรและธุรกิจเกี่ยวกับบริการเกษตรครบวงจร ต้องถามก่อนว่าถ้าเป็นถุงมือลาเท็กซ์ อาจจะตีความว่าเป็นสินค้ามาจากยางพารา แต่ถ้าเกิดเป็นถุงมือไนไตร คือยางสังเคราะห์ ไม่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรเลย อันนี้อาจจะผิดวัตถุประสงค์ของ อคส.ได้

NTTTi

เอกสารการทำสัญญาของ อคส.กับบริษัทการ์เดียน โกลฟที่ระบุว่ามีการทำสัญญาจัดซื้อถุงมือไนไตรชัดเจน

picpppllsdsdsdasdasdasdasssssasa

ถุงมือยางของบริษัท โมโม่ โกลฟ ที่พบในโกดังของบริษัทการ์เดียน โกลฟ ที่ระบุว่ามีถุงมือยางลาเท็กซ์ชัดเจน

จริงๆแล้วมันมีประเด็นเรื่องวัตถุดิบอีก คือผมยกตัวอย่างเช่นยางรถยนต์ องค์ประกอบของล้อรถยนต์หนึ่งเส้น มีทั้งยางธรรมชาติและสังเคราะห์ แต่ก็เข้าใจว่ามาจากยางพารา อันนี้จะเป็นสินค้าเกษตรที่แปรรูปแล้ว

แต่ในกรณีถุงมือยางไนไตรนั้นแทบจะมาจากการสังเคราะห์ทั้งหมด เพราะมีส่วนประกอบของยางพาราน้อยมาก ไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์

ดังนั้นผมถึงได้บอกว่าในกระบวนการทำสัญญาถุงมือยางดังกล่าวนั้นมันต้องมีการผ่านการพิจารณาในข้อกฎหมายอยู่พอสมควร แต่ว่าก็จบได้เร็วมาก และอย่างที่บอกว่าถุงมือยางไนไตรนั้นไม่ใช่สินค้าเกษตร ถ้าหากอยากจะมีการส่งเสริมให้ส่งออกจริง ผมเชื่อว่าน่าจะมีหน่วยงานอื่นที่มีพันธกิจตรงประเด็นมากกว่า อคส ยกตัวอย่างก็อย่างเช่นหน้ากากอนามัยก็มีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้าไปผลิตเองอยู่เหมือนกัน ตามที่ได้รับทราบข้อมูลมา

@ เท่าที่ได้ฟังจากข้อชี้แจง ปัญหาของสัญญาถุงมือมูลค่าแสนล้านบาทที่บอกว่ามีการทำโดยพลการนั้น สำนักข่าวอิศราได้ตรวจสอบข้อมูลสัญญาเพิ่มเติมพบว่ามีการระบุในทุกสัญญาบอกว่าเป็นถุงมือยางไนไตร ตรงนี้ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยเพิ่มเติมตามมาว่า อคส.ไม่ได้ดูแลถุงมือไนไตรเพราะไม่ใช่สินค้าเกษตร แล้ว อคส.ยอมให้ทำตรงนี้ได้อย่างไร ประเด็นดังกล่าวนี้ อคส.จะเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ประเด็นนี้เราคุยกันชัดเจนว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ประเด็นต่อมาก็คือว่าจะตรวจสอบไหม ก็ต้องบอกว่าทั้งหมดนั้นเราได้มีการส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกียวข้องแล้ว อาทิ ป.ป.ช.และ ปปง.ที่จะเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่า อคส.

@แสดงว่า อคส.ทำงานนอกเหนือขอบเขตงานตัวเองอย่างชัดเจน ในกรณีถุงมือยางดังกล่าวนี้

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :ก็น่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการครับ

@ประเด็นเรื่องที่ว่ามีอดีตเจ้าหน้าที่ อคส.ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาถุงมือยางที่ว่ามานี้ ทาง อคส.ได้มีการติดตาม ทวงถามไปอย่างไรแล้วบ้าง

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :เจ้าหน้าที่ อคส.ที่มีความเกี่ยวข้องกับถุงมือยาง นั้นก็มีการดำเนินการในสองส่วนด้วยกัน ก็คือส่วนที่เกี่ยวกับวินัย ส่วนที่สองก็คือเรื่องของการละเมิด ซึ่งวินัยนั้นเป็นฐานอำนาจของ อคส. เราก็มีการออกคำสั่งทางปกครองไปแล้ว ส่วนเรื่องของละเมิดเป็นกฎหมายที่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง แต่ให้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหายตั้งกรรมการสอบขึ้นมาก่อน ได้ผลสรุปอย่างไร ก็ต้องส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่งทั้งหมดนั้นก็อยู่ในกระบวนการของ อคส.และจะมีการเรียกเอาข้อมูล และแจ้งข้อกล่าวหากันตามขั้นตอนต่อไป

@เรื่องถุงมือยางแสนล้านดังกล่าว ให้บทเรียนที่สำคัญอะไรกับทาง อคส.บ้าง

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ. อคส. :มีสองประเด็นหลักๆก็คือหนึ่ง ในเรื่องของระเบียบข้อบังคับ ก็คงต้องให้มีความรัดกุมมากขึ้น และสองตัวของคนที่มีหลากหลายมาก ซึ่งวันนี้เราต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมา ก็คือต้องตั้งเป้าตั้งแต่ต้นเลยว่า มีโครงการสำหรับผู้จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 คณะทำงานก็ไปออกแบบหลักสูตรมาว่าทำอย่างไรให้เกิดเป็นรูปธรรมและมีความสำนึกได้

อ่านประกอบ :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage