ส่องคดีทุจริตโลก: บ.สิงคโปร์เคยรับงานรัฐ ส่อพัวพัน CEO ปรินซ์ กรุ๊ป ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร

singappp

นายเฉินซื้อหุ้นจำนวน 550 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55 ของ คูนกรุ๊ป จากบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2566....นายเฉินจ่ายเงิน 152.5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (632,154,132 บาท) เพื่อเข้าควบคุมบริษัทผ่านทางบริษัท Southern Heritage ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกOFAC คว่ำบาตรในคดีเดียวกันเมื่อวันที่ 14 ต.ค.

ส่องคดีทุจริตโลกสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทสิงคโปร์แห่งหนึ่งที่ถูกคว่ำบาตร ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มบริษัทปรินซ์ กรุ๊ป ของนายเฉิน จื้อ ที่ถูกทางกาสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรคว่ำบาตร เนื้องจากเกี่ยวข้องกับกิจกรรมสแกมเมอร์

โดยสำนักข่าวสเตรทไทมส์รายงานข่าวเกี่ยวกับบริษัทให้บริการไฟฟ้าสัญชาติสิงคโปร์ชื่อว่าคูน กรุ๊ป (Khoon Group) ที่เคยเข้าไปมีส่วนให้บริการด้านวิศวกรรมในโครงการ “ที่อยู่อาศัยสาธารณะ" หรือ HDB Flat ซึ่งเป็นโครงการที่บริหารจัดการโดยหน่วยงาน Housing and Development Board (HDB) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐของสิงคโปร์

บริษัทคูนกรุ๊ปตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ภายในอาคารอุตสาหกรรมอังโมเกียว (Ang Mo Kio) มีจุดเริ่มต้นของบริษัทจากการเป็นบริษทโฮลดิ้งเพื่อการลงทุน ก่อตั้งโดยสองพี่น้องชาวสิงคโปร์ชื่อว่านายอัง จุย คุน และ นายอัง จุย ฮุก จดทะเบียนธุรกิจของพวกเขาในเดือน พ.ค. 2531

คูนกรุ๊ปถูกก่อตั้งขึ้นที่หมู่เกาะเคย์แมน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ปัจจุบันบริหารงานโดยนายอัง กก ควัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นหลานชายของนายอัง จุย ฮ็อก

ขณะนี้ บริษัทดังกล่าวพบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (Ofac) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เนื่องมาจากมีความเชื่อมโยงกับนายเฉิน จื้อ ชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน

ขณะนี้ บริษัทดังกล่าวพบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เนื่องมาจากมีความเชื่อมโยงกับนายเฉิน จื้อ ชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน

คูนกรุ๊ปเป็น 1 ใน 146 บุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกOFAC คว่ำบาตรเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับการหลอกลวงทางออนไลน์ และการฟอกเงินที่ขโมยมา

ขณะที่นายเฉิน มหาเศรษฐีชาวจีน เป็นศูนย์กลางของการสืบสวนคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์และการหลอกลวงครั้งใหญ่ ซึ่งมีผู้สืบสวนในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเข้าร่วม

สำหรับมาตรการคว่ำบาตรของOFAC ระบุว่า ทรัพย์สินทั้งหมดที่เป็นของผู้ที่อยู่ในรายชื่อคว่ำบาตรที่อยู่ในสหรัฐฯ จะถูกอายัดและรายงานให้OFAC ทราบ

นิติบุคคลใดๆ ที่บุคคลในบัญชีรายชื่อถูกคว่ำบาตรถือหุ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมตั้งแต่ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะถูกบล็อกไม่ให้ดำเนินกิจการในสหรัฐอเมริกาด้วย มาตรการคว่ำบาตรยังห้ามการทำธุรกรรมใดๆ ในสหรัฐอเมริกากับบุคคลในบัญชีรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้หลังจากการคว่ำบาตรวันที่ 14 ต.ค. ต่อมาในวันที่ 15 ต.ค. คูนกรุ๊ปได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธ ความเกี่ยวข้องใดๆ กับนายเฉิน

“ไม่มีบริษัทหรือบริษัทย่อยหรือกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของแต่ละบริษัทใด ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกกล่าวหาซึ่งนำไปสู่การคว่ำบาตร บริษัทฯ คาดการณ์เบื้องต้นว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวไม่มีผลกระทบเชิงลบที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท” บริษัท คูนกรุ๊ป ระบุในแถลงการณ์ และบริษัทยังระบุอีกว่า คูนกรุ๊ป ดำเนินงานหลักในประเทศสิงคโปร์และไม่มีการดำเนินงานในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ และไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือทรัพย์สินใดๆ ในทั้งสองประเทศแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม สเตรทไทม์สตรวจสอบพบว่านายเฉินยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ควบคุม คูนกรุ๊ป และบริษัทในเครือทั้งหมด

P111

เอกสารข้อมูลผู้ถือหุ้นกลุ่มบริษัท คูนกรุ๊ป ปี 2566-2567

จากการตรวจสอบบันทึกของบริษัท รวมถึงการยื่นเอกสารประจำปีหลายฉบับ ซึ่งล่าสุดลงวันที่เดือน มิ.ย.2568 ระบุว่าบริษัทโฮลดิ้งสูงสุดของกลุ่มบริษัทคูนกรุ๊ป คือบริษัท Southern Heritage Limited ซึ่งจดทะเบียนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน

โดยนายเฉินเป็นเจ้าของบริษัท Southern Heritage เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่งกรมการบริษัทแค่คนเดียว

ตามข้อตกลงการซื้อขายหุ้นที่สำนักข่าวสเตรทไทม์ส ได้ตรวจสอบพบว่านายเฉินซื้อหุ้นจำนวน 550 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55 ของ คูนกรุ๊ป จากบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2566

นายเฉินจ่ายเงิน 152.5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (632,154,132 บาท) เพื่อเข้าควบคุมบริษัทผ่านทางบริษัท Southern Heritage ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกOFAC คว่ำบาตรในคดีเดียวกันเมื่อวันที่ 14 ต.ค.

สำหรับรายละเอียดของโครงสร้างบริษัท Southern Heritage และส่วนขยายของหุ้นของนายเฉินในคูนกรุ๊ป แสดงอยู่ในเอกสารประกอบอีกฉบับที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงการซื้อหุ้น (ดูเอกสารประกอบ)

P112

ก่อนหน้านี้ คูนกรุ๊ป อ้างว่าบริษัทนี้ได้ดูแลโครงการหลายโครงการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน HDB

ในเอกสารปี 2562 ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติบริษัท คูนกรุ๊ป ระบุว่าบริษัทได้ดำเนินโครงการบ้านพักอาศัยสาธารณะในบูกิต บาตอก (Bukit Batok) ซึ่งเกี่ยวข้องกับแฟลต 4,186 ยูนิตในปี 2561

ในปี 2555 กลุ่มบริษัทดังกล่าวเปิดเผยว่าได้ดำเนินโครงการบ้านพักอาศัยสาธารณะโครงการแรกในย่านเชา ชู กัง (Choa Chu Kang) โดยมีมูลค่าสัญญาเกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในเดือน ม.ค.2558 บริษัทอ้างว่า ได้ดำเนินโครงการต่างประเทศโครงการแรกในเมียนมา

และล่าสุดบนโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อปี 2567 กลุ่มบริษัท คูนกรุ๊ป ระบุว่าบริษัทได้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการ ของ HDB ในย่านเซงกัง, แทมปิเนส, และในเขตจูร่งตะวันตก และได้รับการยอมรับจากรายการ HDB Awards 2024

P114

มีรายงานว่ากลุ่มบริษัทนี้เข้าไปให้บริการในด้านงานเครื่องกลและไฟฟ้าให้กับโครงการที่อยู่อาศัยของรัฐของประเทศสิงคโปร์

ในเอกสารฉบับหนึ่งบริษัท คูน เอ็นจิเนียริ่ง (Khoon Engineering) ในเครือคูน กรุ๊ป ได้อ้างอิงถึงประวัติของบริษัทโดยนำเสนอโครงการ HDB ที่บริษัทเคยดำเนินการ รวมถึงงานที่เกี่ยวกับที่ดินในย่านปุงโกลเหนือ ,บูกิตบาตอกและในย่านในย่านเชา ชู กัง

ในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างน้อยสองแห่งของกลุ่มบริษัท คูน กรุ๊ป บริษัทอ้างว่าโครงการต่างๆ ของบริษัทช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงาน HDB หนึ่งในห้าแห่งในช่วงที่ยอดขายโครงการสูงสุด แต่สเตรทไทม์สไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างเหล่านั้นได้

อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามข้อมูลปัจจุบันกับทางหน่วยงาน HDB หน่วยงานแจ้งว่าปัจจุบันไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาโดยตรงกับคูน กรุ๊ป แล้ว

“อันที่จริง ข้อตกลงโดยตรงครั้งสุดท้ายของเรากับบริษัทบริษัท คูน เอ็นจิเนียริ่ง คอนแทรคเตอร์ จำกัดเกิดขึ้นเมื่อกว่าสองทศวรรษก่อน และเป็นงานไฟฟ้าที่ดำเนินการในโครงการที่อยู่อาศัย” เจ้าหน้าที่ HDB ระบุ

ขณะที่กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติสิงคโปร์แจ้งต่อสเตรทไทม์สว่าคณะกรรมการตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานด้านการก่อสร้างและอาคาร และหน่วยงานพัฒนาเมือง ปัจจุบันไม่มีข้อตกลงทางสัญญาโดยตรงกับคูน กรุ๊ป หรือบริษัทในเครือแต่อย่างใด

เอกสารในเดือน ก.พ. 2566 ที่สเตรทไทม์สสืบค้นได้ แสดงให้เห็นว่าคูนกรุ๊ปได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับนายเฉิน หลังจากที่เขาลงทุนในบริษัท

กลุ่มคูน กรุ๊ป ยังได้แจ้งให้นายเฉินทราบถึงโครงการภาคสาธารณะที่บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้อง และต่อมาในช่วงปี 2558 ก็ปรากฎว่าบริษัท

รายงานระบุว่าลูกค้าในภาคส่วนดังกล่าว ได้แก่ ผู้รับเหมางานก่อสร้างที่ HDB ว่าจ้างให้ดำเนินการพัฒนาอาคารใหม่หรือโครงการปรับปรุงใหม่ และหน่วยงานตามกฎหมายท้องถิ่นในสิงคโปร์ที่รับผิดชอบโครงการปรับปรุง

ในข้อตกลงการซื้อขายหุ้น นายเฉินมองว่าการลงทุนคูน กรุ๊ป เป็นการลงทุนที่น่าสนใจเนื่องจากอ้างว่ามีประวัติการทำงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้าในโครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะที่ริเริ่มโดย HDB

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวสเตรทไทม์สได้พยายามเดินทางไปยังที่ตั้งกลุ่มบริษัทคูน กรุ๊ป เพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ของวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่า นายอัง กก ควัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คนปัจจุบันไม่อยู่ที่ออฟฟิศ

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.30 น.ผู้สื่อข่าวสเตรทไทม์ส เห็นนายอัง กก ควัง กำลังจะออกจากออฟฟิศ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะเข้าไปถาม นายอัง กล่าวว่าเขาจะออกแถลงการณ์ในภายหลังเกี่ยวกับข้อซักถาม

khoont

ที่ทำการบริษัท คูน เอ็นจิเนียริ่ง

อย่างไรก็ตาม บริษัท คูนกรุ๊ป และนายอัง กก ควัง ไม่ได้ตอบคำถามของสเตรทไทม์สแต่อย่างใด แม้ว่าสำนักข่าวได้พยายามติดต่อกับกลุ่มบริษัทหลายครั้งก็ตาม รวมถึงนายเคน ลิม ชี อันน์ ซีอีโอและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทก็ไม่ยอมตอบคำถามของสำนักข่าว ที่ส่งคำถามไปในช่วงระหว่างวันที่ 22 - 25 ต.ค.

ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค. บริษัทได้ประกาศที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่า ผู้ให้บริการทะเบียน และตัวแทนรับโอนหุ้นของบริษัทได้ลาออกจากคูน กรุ๊ปแล้ว

ต่อมาในวันที่ 23 ต.ค.บริษัทได้ประกาศว่ากรรมการที่ไม่ใช่ฝ่ายบริหารและประธานคณะกรรมการตรวจสอบบริษัทจะออกจากบริษัทด้วยเช่นกัน

พอมาถึงวันที่ 24 ต.ค. ผู้ตรวจสอบบัญชีของคูนกรุ๊ปอย่างบริษัท RSM Hong Kong ประกาศว่าบริษัทจะยุติการทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีต่อกลุ่มบริษัท หลังจากมีกรณีการคว่ำบาตรทั้งต่อ นายเฉิน จื้อซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และต่อบริษัท

“RSM ได้แจ้งให้บริษัททราบว่าความร้ายแรงของการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งพื้นฐานกับภาระผูกพันทางจริยธรรมและนโยบายความต่อเนื่องของลูกค้า” ผู้ตรวจสอบบัญชีกล่าว และเสริมว่าการคบหาสมาคมกับคูน กรุ๊ป ต่อไปนั้นไม่เหมาะสมเมื่อพิจารณาจากมาตรการคว่ำบาตร

เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/singapore/spore-firm-previously-involved-in-hdb-projects-among-firms-sanctioned-by-us-in-cybercrime-probe

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

ศูนย์ข่าวสืบสวน

ส่องคดีทุจริตโลก: บ.สิงคโปร์เคยรับงานรัฐ ส่อพัวพัน CEO ปรินซ์ กรุ๊ป ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร