‘สภาผู้บริโภค’ยื่นรายงานฯถึง 3 กมธ. ตรวจสอบ‘กสทช.’ปมควบ TRUE-DTAC ทวงลดค่าบริการ 12%

tcc 21 03 24 pic

‘สภาผู้บริโภค’ เข้ายื่น ‘รายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำฯ’ ต่อ คณะกรรมาธิการ 3 คณะ ขอให้ช่วยตรวจสอบการกระทำของ ‘ กสทช.’ ปมควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม พร้อมเรียกร้อง 'กสทช.-สำนักงานฯ' กำกับดูแลให้ลดค่าบริการมือถือ 12%

............................................

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค และคณะ เข้ายื่น ‘รายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. อันมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค จากกรณีการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม’ ต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นผู้รับรายงานฯ

น.ส.สารี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สภาผู้บริโภคได้มีข้อเสนอแนะต่างๆต่อ กสทช. เกี่ยวกับการรวมธุรกิจโทรคมนาคมทั้ง 2 ครั้ง ได้แก่ การรวมธุรกิจโทรศัพท์มือถือระหว่าง TRUE และ DTAC และการรวมธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านระหว่าง AIS และ 3BB แต่ปรากฎว่า กสทช. ไม่มีการดำเนินการใดๆ โดยเฉพาะกรณีการรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC นั้น กสทช. ไม่ได้กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะ เช่น ไม่กำกับดูแลให้ผู้ให้บริการลดราคาค่าบริการลง 12% ภายใน 90 วัน อีกทั้งยังพบว่าผู้บริโภคถูกเอาเปรียบจากค่าบริการที่แพงขึ้น ในขณะที่คุณภาพการให้บริการแย่ลง เป็นต้น

ดังนั้น สภาผู้บริโภค จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 14 (3) แห่ง พ.ร.บ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. 2562 จัดทำรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. อันมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค กรณีการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พร้อมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะไปยัง กสทช. ,สำนักงาน กสทช. คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน (กตป.) และหน่วยงานต่างๆด้วย

น.ส.สารี กล่าวต่อว่า ในส่วนข้อเสนอแนะต่อ กสทช. นั้น สภาผู้บริโภค มีข้อเสนอแนะใน 3 ประเด็น คือ 1.ขอให้ กสทช.ทบทวนและยกเลิกการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมที่ดำเนินการมาแล้วทั้งหมด 2.ขอให้ กสทช. ใช้อำนาจออกประกาศฯลดอัตราค่าบริการลง 12% จากอัตราสูงสุดในปัจจุบัน โดยปรับลดค่าบริการโทรศัพท์มือถือจาก 0.60 บาท/นาที เป็น 0.52 บาท/นาที และลดค่าบริการอินเตอร์เน็ตมือถือจาก 0.16 บาท/เมกะไบต์ เป็น 0.14 บาท/เมกะไบต์

และ 3.ขอให้ กสทช.กำกับดูแลสำนักงาน กสทช. ให้ดำเนินการตรวจสอบมาตรการหรือเงื่อนไขเฉพาะเกี่ยวกับการรวมธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อให้มีการดำเนินการจริงๆ เช่น ต้องเปิดเผยรายงานการประกอบธุรกิจของผู้รวมธุรกิจต่อสาธารณชน ทุกๆ 6 เดือน เป็นเวลา 5 ปี และให้สำรวจความเสียหายต่อผู้บริโภคอย่างเป็นระบบ อาทิ การเปลี่ยนแพ็กเกจหรือโปรโมชั่นโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเร่งรัดให้มีการลดราคาค่าบริการฯลง 12% เป็นต้น

น.ส.สารี กล่าวด้วยว่า หลังจากยื่นรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำของ กสทช.ฯ ต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ แล้ว ในวันเดียวกัน (21 มี.ค.) สภาผู้บริโภคจะเข้ายื่นรายงานฯฉบับดังกล่าว ต่อคณะกรรมาธิการฯอีก 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายใต้รายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำของ กสทช.ฯ ฉบับนี้ สภาผู้บริโภค ได้มีข้อเสนอแนะต่อ คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ,คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค โดยขอให้ กมธ.ทั้ง 3 คณะ ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ กสทช. และสำนักงาน กสทช. ว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 60 และมาตรา 75 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27 หรือไม่

ด้าน นายสิทธิพล กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯมีหน้าที่โดยตรงในการติดตามผลกระทบทางเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ซึ่งประเด็นการควบรวมในธุรกิจโทรคมนาคมนั้น คณะกรรมาธิการฯติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะผลกระทบจากการควบรวมธุรกิจ และสิ่งที่คณะกรรมาธิการฯกำลังดูอยู่ คือ กสทช.และ สำนักงาน กสทช. ได้มีการติดตามและดำเนินการให้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขเฉพาะในการควบรวมธุรกิจหรือไม่

นายสิทธิพล ยังระบุว่า คณะกรรมาธิการฯได้ตั้งคณะทำงานฯขึ้นมา 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางการค้า เนื่องจาก พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าฯยังมีช่องว่าง คือ ให้การควบรวมธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีผู้กำกับดูแลเป็นการเฉพาะ ไม่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าฯ

“การไม่บังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้า หรือไม่ส่งเสริมการแข่งขันให้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง จะทำให้การผูกขาดในธุรกิจหนึ่งๆ นำไปสู่การผูกขาดในธุรกิจอื่นๆด้วย” นายสิทธิพล กล่าว

ขณะที่ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า อยากฝากให้คณะกรรมาธิการฯ จัดทำข้อเสนอไปยังฝ่ายบริหาร เพื่อผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ โดยเฉพาะในธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เช่น การเปิดเสรี หรือส่งเสริมให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) เข้ามาแข่งขันได้มากขึ้น เพราะการมีผู้ประกอบการเพียง 2 รายใหญ่ ทำให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกจริงๆ

อ่านประกอบ :

‘สภาผู้บริโภค’ยื่นรายงานฯถึง‘กตป.’ตรวจสอบ‘กสทช.’ละเลยหน้าที่ฯปมควบรวม TRUE-DTAC

เปิดรายงานฯชำแหละ‘กสทช.’ละเลยหน้าที่ปมควบTRUE-DTAC ทำผู้บริโภคจ่ายแพงขึ้น-บั่นทอนแข่งขัน

‘สภาผู้บริโภค’แพร่รายงานฯ ชี้‘กสทช.’ละเลยหน้าที่กำกับ‘ค่าบริการ-คุณภาพ’หลังควบ TRUE-DTAC

เช็คลิสต์! ความคืบหน้า'มาตรการเฉพาะ' 6 เดือน หลังควบ TRUE-DTAC ค่าบริการเฉลี่ยลด 12%?

‘มูลนิธิผู้บริโภคฯ’ยื่นหนังสือ‘กสทช.’จี้แก้ปม‘เน็ตช้า-ต่อโปรฯแพงขึ้น’ หลังควบTRUE-DTAC

ได้ข้อมูล‘ทรู’ฝ่ายเดียว! ‘บอร์ด กสทช.’ยังไม่สรุปค่าบริการมือถือลด 12% หลังควบ TRUE-DTAC

แจงปม‘เน็ตช้า-โปรฯถูกหาย’! ‘กสทช.’การันตีค่าบริการมือถือ‘เฉลี่ย’ลด 12% หลังควบTRUE-DTAC

‘กสทช.’นัดแถลงปม'ค่าบริการมือถือ'หลังควบTRUE-DTAC-'ทรู'ย้ำคุณภาพสัญญาณดีขึ้น-ลูกค้าเพิ่ม

4 กสทช. จี้ ประธาน นัดถกบอร์ด ติดตามค่ามือถือแพง หลังควบ ‘ทรู-ดีแทค’

เน็ตช้า-โปรฯใหม่แพงกว่าเดิม! ผลสำรวจฯผู้บริโภค 81% เจอ 5 ปัญหาหลังควบTRUE-DTAC-ทรูแจง6ปม

‘ทรู’ ชี้แจง ‘ศาล ปค.สูงสุด’ สั่งรับคำฟ้องคดีควบรวม ‘TRUE-DTAC’ ไม่กระทบธุรกิจบริษัทฯ