ผู้ใหญ่ในรบ.โทรสั่ง! ‘ธนารักษ์’แจ้งเลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล. กะทันหัน

eec 03 05 22 pic

‘กรมธนารักษ์’ เลื่อนลงนามสัญญาโครงการท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล้านบาท กับ ‘วงษ์สยามก่อสร้างฯ’ กะทันหัน หลังผู้ใหญ่ในรัฐบาล โทรสั่งผู้บริหาร ‘ก.คลัง’ ให้เลื่อนการลงนาม

..............................

จากกรณีกรมธนารักษ์แจ้ง บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้ชนะประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ให้เข้ามาลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ในวันที่ 3 พ.ค.2565 โดยกำหนดลงนามสัญญาในเวลา 11.15 น. นั้น (อ่านประกอบ : จ่ายก้อนแรก 743 ล้าน! 'ธนารักษ์'เรียก'วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ'อีอีซี' 3 พ.ค.นี้)

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. กรมธนารักษ์ ได้ยกเลิกการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด อย่างกะทันหัน

“มีผู้ใหญ่ในรัฐบาลโทรศัพท์มาแจ้งผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า ขอให้กรมธนารักษ์เลื่อนการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกออกไปก่อน โดยไม่มีแจ้งสาเหตุให้ทราบ” แหล่งข่าวจากกระทรวงคลัง ระบุ

ก่อนหน้านี้ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 เปิดแถลงข่าวคัดค้านการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ กับ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เนื่องจากมีผู้ส่งข้อมูลความน่าสงสัยเกี่ยวกับการประมูลโครงการนี้ และหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สั่งให้มีการทบทวนเรื่องนี้ ‘กลุ่ม 16’ จะยกมือไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมนำประเด็นการเปิดประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกที่ส่อดำเนินการไม่โปร่งใส ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า สาเหตุมี่กรมธนารักษ์ต้องชะลอการลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ออกไปก่อน เนื่องจากหลายฝ่ายยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมูลโครงการนี้ ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้เกี่ยวข้องก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ค.) ผู้แทนบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้เดินทางมาที่กรมธนารักษ์ เพื่อลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกตามที่กรมธนารักษ์นัดหมาย แต่ต้องเดินทางกลับ หลังจากได้รับแจ้งเลื่อนการลงนามสัญญาอย่างกะทันหัน

ทั้งนี้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้เตรียมเช็คจ่ายเงิน 3 ฉบับ เพื่อจ่ายให้กรมธนารักษ์ เป็นเงิน 743.62 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินค้ำประกันสัญญา 118.97 ล้านบาท ,ค่าแรกเข้าวันลงนามสัญญา 580 ล้านบาท และผลประโยชน์ตอบแทนรายปี (Fixed Fee) 44.64 ล้านบาท

สำหรับการเปิดประมูลโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ครั้งที่สอง ซึ่งกรมธนารักษ์เปิดให้เอกชนยื่นซองเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564 ผลปรากฏว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐสูงสุด เป็นเงิน 25,693.22 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี รองลงมา คือ อีสท์วอเตอร์ ซึ่งเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐ 24,212.88 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี

ต่อมา 11 ก.พ.2565 ที่ประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน มีมติ 6 ต่อ 4 ให้ชะลอการพิจารณาอนุมัติผลการคัดเลือกเอกชนในโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก ซึ่ง บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐสูงสุด เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่บอกว่าให้รอคำพิพากษาศาลปกครองกลางก่อน

อย่างไรก็ตาม ต่อมาในวันที่ 14 มี.ค.2565 ได้มีการประชุมคณะกรรมการที่ราชพัสดุเพื่อพิจารณาผลการคัดเลือกเอกชนในโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออกอีกครั้ง และที่ประชุมฯมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง อนุมัติให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ดังกล่าว

eec 03 05 22 22