บริษัท CCCC ได้มีส่วนร่วมในการบูรณะและปรับปรุงเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเบลเกรด-ซูโบติกา ซึ่งรายละเอียดโครงการตอนหนึ่งมีการสร้างสถานีรถไฟเมืองโนวีซาดขึ้นมาใหม่ แต่หลังคาคอนกรีตของสถานีได้พังทลายลงมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอข่าวกรณีบริษัทจีนซึ่งมีประวัติการทุจริต และถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรเข้าไปมีส่วนร่วมในประมูลงานก่อสร้างทางหลวงที่ประเทศมอนเตเนโกร
โดยบริษัทดังกล่าวนั้นชื่อว่าบริษัท ไชน่า คอมมิวนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (CCCC) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐอเมริกา
การประมูลงานก่อสร้างถนนดังกล่าวยังมีคอนซอร์เทียม หรือกลุ่มบริษัทอีกสองซึ่งมีบริษัทจากจีนแห่งเข้ามาร่วมด้วยได้แก่ กลุ่มบริษัท Shandong Foreign Economic & Technical Cooperation ร่วมกับบริษัท Shandong Luqiao Group และกลุ่มบริษัท PowerChina ร่วมกับบริษัท Stecol
ส่วนคอนซอร์เทียมที่สามได้แก่บริษัทจากตุรเคียและอาเซอร์ไบจานชื่อว่า บริษัท Cengiz ร่วมกับบริษัท Azvirt ซึ่งได้ดำเนินกิจการอยู่ในภูมิภาคนี้มานานกว่าทศวรรษผ่านทางบริษัทแม่
การก่อสร้างส่วนถนนที่สองจากภูมิภาค Mateshevo ไปยัง Andrijevica ทางตอนเหนือของมอนเตเนโกร มีกำหนดเริ่มในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จภายใน 5 ปี หลังจากดำเนินการ
มูลค่าโครงการอยู่ที่ 600 ล้านยูโร (22,501,800,000 บาท) โดย 150 ล้านยูโร (5,625,450,000 บาท)เป็นเงินที่ไม่สามารถขอคืนได้จากคณะกรรมาธิการยุโรป 250 ล้านยูโรมาจากงบประมาณของมอนเตเนโกร ส่วน 200 ล้านยูโร (7,500,600,000 บาท) เป็นเงินกู้จากธนาคารยุโรปเพื่อการบูรณะและพัฒนา (EBRD) ซึ่งรัฐบาลได้ลงนามข้อตกลงไว้เมื่อช่วงฤดูร้อน

บริษัท ไชน่า คอมมิวนิเคชั่นส์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (CCCC)
สำหรับบริษัท CCCC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจีนนั้นอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับกองทัพจีน บริษัทและบริษัทย่อยในเครือ CCCC ยังถูกขึ้นบัญชีดำโดยธนาคารโลกจนถึงปี 2559 เนื่องมาจากมีพฤติกรรมฉ้อโกงและสงสัยว่ามีการทุจริตในโครงการถนนแห่งชาติในประเทศฟิลิปปินส์
CCCC ยังเคยเข้าไปมีส่วนในการก่อสร้างท่าเรือฮัมบันโตตา ทางตอนใต้ของศรีลังกา ซึ่งโครงการนี้ได้รับเงินกู้จากจีน แต่รัฐบาลศรีลังกาไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้ จึงส่งมอบท่าเรือแห่งนี้ให้จีนบริหารจัดการเป็นเวลา 99 ปี ในปี พ.ศ. 2560
จากข้อมูลของหน่วยงานจัสท์ ไฟแนนซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Just Finance International) ระบุว่า CCCC ละเมิดกฎหมายหลายฉบับระหว่างการก่อสร้างทางหลวง E-763 ที่ประเทศเซอร์เบีย (บนเส้นทางหมายเลข 11) ซึ่งเชื่อมต่อกรุงเบลเกรดกับทะเลเอเดรียติก
บริษัทนี้ได้สร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดหลายโครงการในเซอร์เบียมาเป็นเวลาหลายปี ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตร CRIC&CCCC (CRIC ย่อมาจากบริษัทChina Railway International เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของกลุ่มไชน่าเรลเวย์)
บริษัท CCCC ได้มีส่วนร่วมในการบูรณะและปรับปรุงเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเบลเกรด-ซูโบติกา ซึ่งรายละเอียดโครงการตอนหนึ่งมีการสร้างสถานีรถไฟเมืองโนวีซาดขึ้นมาใหม่ แต่หลังคาคอนกรีตของสถานีได้พังทลายลงมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย
ข่าวสถานีรถไฟที่กรุงเบลเกรดถล่ม (อ้างอิงวิดีโอจาก EuroNews)
นอกจากนี้ CCCC ยังคุมสัญญาสร้างทางหลวง "Miloš Veliki" ระยะทาง 31 กิโลเมตร ช่วงระหว่างเมืองเปรลินา-โปเชกา ของเซอร์เบีย โดยสัญญาการก่อสร้างทางหลวงดังกล่าวมีมูลค่ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (16,876,350,000 บาท) เป็นสัญญาที่ไม่ต้องผ่านการประกวดราคา เนื่องจากว่ามีที่ของสัญญามาจากการตกลงกันระหว่างรัฐคือประเทศเซอร์เบียและประเทศจีน ในขณะที่การจัดหาเงินทุนได้รับการค้ำประกันโดยเงินกู้จากธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกหรือเอ็กซิมแบงก์ของจีน ทว่าโครงการดังกล่าวกลับมีการเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง
ในปี 2564 CCCC ได้มีการจ้างช่วงบริษัททำเหมืองสัญชาติสโลวัค มีเจ้าของคือนายซวอนโก้ เวเซลิโนวิช (Zvonko Veselinović) และนายมิลาน ราโดอิชิช (Milan Radoićić) ทว่าไม่กี่เดือนต่อมาทั้งสองก็ถูกเพิ่มเข้าในรายชื่อผู้ถูกคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายคอร์รัปชันและกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ
CCCC เป็นบริษัทแม่ของบริษัท China Road and Bridge Corporation (CRBC) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักในโครงการทางหลวงบาร์-โบลาเร(Bar–Bolare) ระยะทาง 41 กิโลเมตร ในประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 900 ล้านยูโร (33,752,700,000 บาท)
การก่อสร้างโครงการดังกล่าวมาพร้อมกับความล่าช้ามากมายกินเวลานานถึงเจ็ดปี เนื่องมาจากการขาดความโปร่งใส และปัญหาทางการเงินและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสหภาพยุโรปได้เตือนถึงเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว มอนเตเนโกรได้รับเงินกู้จากธนาคารเอ็กซิมแห่งประเทศจีนสำหรับโครงการนี้ เนื่องจากมีปัญหาในการชำระหนี้ รัฐบาลจึงถูกบังคับให้ลงนามข้อตกลงกับธนาคารอเมริกันสองแห่งและธนาคารยุโรปสองแห่ง เพื่อป้องกันหนี้สาธารณะจากความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีสหภาพยุโรปเป็นตัวกลาง
โดยเงินกู้ดังกล่าวมีกำหนดจะชำระคืนในปี 2578
@สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิคต่างประเทศมณฑลซานตง – กลุ่มซานตงลู่เฉียว
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการรายอื่นๆนั้นพบว่ากลุ่มคอนซอร์เทียม .Shandong Foreign Economic & Technical Cooperation and Shandong Luqiao Group หรือมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิคต่างประเทศมณฑลซานตง – กลุ่มซานตงลู่เฉียว มีการจดทะเบียนสำนักงานตัวแทนในกรุงพอดกอรีตซาเมื่อปลายปี 2565
ในปีถัดมา กลุ่มบริษัทได้รับสัญญาก่อสร้างถนนสนามบิน ถนนสายบุดวา-ติวัต (Budva-Tivat) ความยาว 16 กิโลเมตร มูลค่า 54 ล้านยูโร (2,025,162,000 บาท) โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ตามข้อตกลงที่ลงนามเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2566
แม้ว่ากำหนดเส้นตายจะหมดอายุไปแล้วกว่า 6 เดือน แต่การทำงานยังคงดำเนินต่อไป
ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 กลุ่มบริษัทแห่งนี้ยังได้ดำเนินการบูรณะสะพานจูร์จเจวิกา ทารา (Djurgjevica Tara) ทางตอนเหนือของมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นโครงการที่อ้างว่าเป็นของขวัญจากจีน
ที่เซอร์เบีย บริษัทซานตงชนะการประมูลงานก่อสร้างถนนโปซาเรวัค-โกลูบักในปี พ.ศ. 2564 โดยไม่ต้องประกวดราคา ผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐ มูลค่า 337 ล้านยูโร (12,638,511,000 บาท) กำหนดการที่ระบุว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2567 ถูกเลื่อนออกไปเป็นต้นปี 2569
ในบรรดาผู้รับช่วงงานก่อสร้างถนนดังกล่าว พบว่ามีบริษัท Inkop มีเจ้าของได้แก่นายมิลาน ราโดอิชิช ,นายซาร์โก เวเซลิโนวิช และพี่น้องครอบครัวซวอนโก้ และบริษัทชื่อว่า Novi Pazar โดยว่าจ้างตัวแต่ปี 2565 เป้นต้นมา
บริษัทที่ว่าทั้งหมดดำเนินการก่อสร้างโครงการอื่นๆในเซอร์เบียด้วย คิดเป็นมูลค่า 158 ล้านยูโร (5,925,474,000 บาท) โดยได้รับเงินทุนส่วนใหญ่จากเงินกู้จากธนาคารเอ็กซิมของจีน ทว้าบริษัทเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในรายชื่อบริษัทคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในเรื่องกลุ่มอาชญากรและการทุจริต
สวนที่ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สำนักงานตัวแทนของกลุ่มบริษัทซานตงชื่อ SDHS-CSI BH ได้ลงนามในข้อตกลงสัมปทานสำหรับการก่อสร้างทางหลวงบันยา ลูกา-ปรีเยดอร์ (Banja Luka-Prijedor) ระยะทาง 40 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 300 ล้านยูโร (11,250,900,000 บาท) เอกสารสัญญาดังกล่าวถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับโดยทางการเมืองบันยาลูกาแม้จะมีคำตัดสินของศาลถึง 4 คดีที่กำหนดให้ต้องเผยแพร่เอกสารดังกล่าวก็ตาม การกำหนดแล้วเสร็จของงานซึ่งวางแผนไว้ในช่วงปลายปี 2567 ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นฤดูใบไม้ผลิปี 2569
@รัฐวิสาหกิจ PowerChina ของจีน
บริษัท PowerChina ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน ได้ขยายกิจกรรมไปยังบอลข่านผ่านสาขาต่างๆ เช่น บริษัท Sinohydro และบริษัท PowerChina Resources
ที่บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการฟาร์มกังหันลม Ivovik ใกล้กับเมืองลิฟโน ทว่าโครงการนี้พร้อมกับการร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยและข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและสัมปทาน

โครงการฟาร์มกังหันลม Ivovik
ในเดือนมิ.ย.2562 บริษัท AzVirt จากประเทศอาเซอร์ไบจาน และบริษัท PowerChina ซึ่งได้สัญญาผ่านบริษัท Sinohydro และบริษัท PowerChina Road Bridge Group ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างสะพาน Pochitel มูลค่า 28 ล้านยูโร (1,050,084,000 บาท) ซึ่งเดิมทีโครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2566 แต่กลับเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ก.ย. 2567
บริษัททั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการนี้ถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหพันธ์ทางหลวงบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาในเดือน พ.ค.2566 เนื่องจากละเมิดสัญญา
ที่เซอร์เบียบริษัท PowerChina กำลังมีส่วนร่วมในโครงการถนนบายพาสเบลเกรดและการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงเบลเกรด
ในเดือน ธ.ค. 2567 บริษัทได้ลงนามสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย 1 ระยะแรก มูลค่า 720 ล้านยูโร (27,002,160,000 บาท) โดยรายละเอียดโครงการถูกระบุว่าเป็น "ความลับทางการค้า"
นอกจากนี้ ในปี 2567 PowerChina ยังได้ก่อสร้างโครงการโซลาร์เซลล์ Saraorci ซึ่งเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในเซอร์เบีย โดยระยะแรกเสร็จสิ้นไปแล้ว และได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท Fortis Energy ของตุรเคียเพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์และพลังงานลม
ในมอนเตเนโกร PowerChina ไม่มีการลงนามสัญญาแม้ว่าจะได้พบกับเจ้าหน้าที่ภาคส่วนพลังงานหลายรายก็ตาม
@กลุ่มบริษัทเจงกิซ–อัซวิร์ต (Cengiz–Azvirt)
กลุ่มบริษัทนี้ประกอบด้วยบริษัทเจงกิซของตุรเคียและบริษัทอัซวิร์ตของอาเซอร์ไบจาน ทั้งสองบริษัทได้รับสัญญาการก่อสร้างถนนสายหลักในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ,เซอร์เบีย,โครเอเชีย และสโลวีเนีย
บริษัทแม่กลุ่มบริษัทคือบริษัทเจงกิซ โฮลดิ้ง (Cengiz Holding) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของตุรเคีย มีพนักงานประมาณ 44,000 คน และมีรายได้มากกว่า 5 พันล้านยูโร (187,515,000,000 บาท)
ทว่าผู้อำนวยการบริษัท นายเมห์เมต เจงกิซ (Mehmet Cengiz) ถูกกล่าวถึงในเอกสารปานามาผ่านรายงานขององค์กรข่าว OCCRP เกี่ยวกับบริษัทนอกชายฝั่งและความน่าสงสัยเรื่องการทุจริตในโครงการเขื่อนที่อาเซอร์ไบจาน
มีรายงานว่าความสำเร็จของบริษัทเจงกิซ โฮลดิ้ง เชื่อมโยงกับโครงการของรัฐในตุรเคีย เช่นโครงการ ทางรถไฟความเร็วสูงอิสตันบูล-อังการา สนามบินอิสตันบูล และความใกล้ชิดกับอำนาจของประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เออร์โดกัน ตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 2000
ที่บอสเนีย บริษัทในเครือเจงกิซได้สร้างถนนเชื่อม Vlakovo–Tarçin โดยดำเนินงานในปี 2565 สองปีต่อมา กำแพงกันดินยาว 120 เมตรก็พังทลายลงก่อนที่ถนนจะเปิดใช้งาน
มูลค่าโครงการที่เจงกินชนะการประมูลในบอสเนียเกิน 1 พันล้านยูโร โดยได้รับเงินทุนส่วนใหญ่จาก EBRD และธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป
ส่วนบริษัทอัซวิร์ตเป็นบริษัทเอกชนของอาเซอร์ไบจานที่ชนะการประมูลในเซอร์เบียและบอสเนีย
ในเดือน มิ.ย.2562 บริษัทอัซวิร์ตเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทอาเซอร์ไบจาน-จีนในการก่อสร้างสะพาน Pochitel และต่อมาถูกขึ้นบัญชีดำเนื่องจากละเมิดสัญญา
ย้อนไปในเดือน พ.ย. 2562 บริษัทอัซวิร์ตได้มีส่วนลงนามในสัญญาก่อสร้างถนนเชื่อม Vranduk–Ponirak มูลค่า 76 ล้านยูโร (2,850,228,000,000 บาท) แต่โครงการนี้ถูกระงับในเดือน ก.ค. 2566 หลังจากเงินทุนหมดลงและหมดกำหนดเวลา
บริษัทอัซวิร์ตแจ้งข้อมูลผลกระกอบการว่าดำเนินงานในกรุงพอดกรีซา ประเทศมอนเตโนโกรมาตั้งแต่ปี 2555 โดยมีพนักงานเพียงคนเดียวและไม่มีรายได้ที่สำคัญ ต่อมาในปี 2567 บริษัทรายงานผลขาดทุนประมาณ 20,000 ยูโร (750,060 บาท)
เรียบเรียงจาก:https://reporteri.net/en/NEWS/rajon/A-Chinese-company-sanctioned-by-the-US-is-competing-to-build-a-highway-in-Montenegro.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงขบวนการใช้เพจเฟซบุ๊กปลอม หลอกขายบัตรโดยสาร จารกรรมข้อมูลส่วนตัว
- ส่องคดีทุจริตโลก: บ.สิงคโปร์เคยรับงานรัฐ ส่อพัวพัน CEO ปรินซ์ กรุ๊ป ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก:CEO บ.เกมมือถือ-เหล็กฮ่องกงลาออก หลังสหรัฐฯระบุพัวพัน ปรินซ์ กรุ๊ป
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงเครือข่าย บ.ปรินซ์กรุ๊ป ซื้ออสังหาฯดูไบ-ลอนดอน มูลค่านับพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ฟิลิปปินส์สอบ 421 โครงการจัดการน้ำท่วมทิพย์ พบหลายแห่งสร้างผิดสถานที่
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการยุโรปแฉทีมสอบสวนถูกข่มขู่ หลังจี้ถามสภากรีซ เหตุยักยอกเงิน EU
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.บังกลาเทศ แฉอดีต รมต.ฟอกเงิน ซุกทรัพย์สินหลาย ปท.รวมไทย-กัมพูชา
- ส่องคดีทุจริตโลก: รมต.ยธ.เลบานอน ย้ำสอบระเบิดปี 63 คืบหน้ามาก หลังเจ้าของเรือเพิ่งถูกจับ
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข่าวสอบโครงการน้ำท่วมเป็นเหตุ เกาหลีใต้ระงับเงินกู้ฟิลิปปินส์ หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.อินโดฯเดินหน้าสอบขบวนการโกงโควตาพิธีฮัจญ์ ทำรัฐเสียหาย 1.9 พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:เปิดโปงซัพพลายเออร์จีนเทาปริศนา ส่งอิฐปลอม ให้ บ.ฮ่องกง สร้างสถานีรถไฟ
- ส่องคดีทุจริตโลก:รบ.ฮ่องกง ทำสัญญาฉาว 221 ล. จัดหาน้ำดื่มด้อยคุณภาพจากจีนแผ่นดินใหญ่
- ส่องคดีทุจริตโลก:โปแลนด์สอบ บ.ที่ปรึกษาปริศนา ออกใบแจ้งหนี้นำเข้าอาวุธเกาหลีเป็นเท็จ
- ส่องคดีทุจริตโลก: หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ.แม่ AI DeepSeek ร่วมขบวนการโกงคอมมิชชั่นร้อย ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:อัยการเกาหลีสอบคดีสินบน ปธน.ยุน โยงโครงการก่อสร้างที่กัมพูชา
- ส่องคดีทุจริตโลก: ป.ป.ช.มาเลย์เข้าสอบ บ.ผลิตชิป Nvidia ลักลอบขนเศษเหล็กเข้าจีน-อินเดีย
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่อ้างไม่เข้าข่ายขัดกันแห่งผล ปย.เหตุ จนท.รับงาน บ.คู่สัญญาเรือรบ
- ส่องคดีทุจริตโลก: โรมาเนียรวบขบวนการปลอมโพรไฟล์บริษัท รับงานรัฐใช้งบ EU ร่วม 3.8 พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดโปงเอกชน มท.1กัมพูชาถือหุ้น โยงคาสิโน-ลงทุนเกาะปาเลา 3.2 หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ตีแผ่เว็บคริปโตฯหลาน 'ฮุน เซน' เชื่อมโยงฟอกเงินเกาหลีเหนือพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: จนท.USAID-เอกชน สมคบขบวนการสินบนตั้งแต่ปี 56 ได้สัญญารัฐ 1.7 หมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ทวิตเตอร์ส่อโดนสอบ เหตุรับเงินผู้ก่อการร้าย ใช้งานบริการยืนยันตัวตน
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข้อพิรุธจัดซื้ออาหารเด็กลัตเวีย ใช้วิธีจับสลาก เลือกผู้ชนะประวัติฉาว
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้รับเหมาแฟลตฮ่องกง 2 หมื่นล. จ่ายสินบนหัวหน้างานแลกใช้เหล็กด้อยคุณภาพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: นักธุรกิจฉาวพัวพัน 'ทรัมป์' เอี่ยวลงทุนศูนย์ข้อมูล TikTok ที่ฟินแลนด์
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.ออฟชอร์จ่ายให้! ลูกขุนคลังเซอร์เบียเรียน รร.นานาชาติ ค่าเทอมหลัก ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.
