'กขค.' ยืนยันกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีก 'กลุ่มซีพี' ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข 7 ข้ออย่างเคร่งครัด หลังอนุญาตให้รวมธุรกิจกับ 'เทสโก้ โลตัส' เตือนห้ามใช้อำนาจเหนือตลาดโดยมิชอบ
.................
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้กำหนดเงื่อนไขประกอบการอนุญาตรวมธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทซีพี จำนวน 7 ข้อนั้น กขค.ได้กำกับดูแลให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดหลังการรวมธุรกิจอย่างเคร่งครัด โดยให้รายงานผลการประกอบธุรกิจตามเงื่อนไขที่กำหนดในวันที่ 1 เม.ย.2564 และรายงานผลเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้ กขค. สามารถติดตามและตรวจสอบการประกอบธุรกิจได้อย่างเข้มงวด
"กขค.จะกำกับดูแลและตรวจสอบติดตามผลการปฏิบัติของกลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด 7 ข้ออย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ และหากฝ่าฝืนข้อห้ามการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด จะมีโทษอาญาจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดพบว่ามีการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า โทร 02 199 5444 หรือเว็บไซต์ www.otcc.or.th หากมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิด จะพิจารณาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างเด็ดขาดต่อไป
สำหรับเงื่อนไขประกอบการอนุญาตรวมธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบริษัทซีพี จำนวน 7 ข้อ ได้แก่
1.ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) รวมทั้งบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องมีหนังสือรับรองว่าจะไม่รวมธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นในตลาดค้าปลีกค้าส่งเป็นระยะเวลา 3 ปี และในกรณีที่มีการซื้อหุ้นหรือซื้อทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั่วไปแต่การซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินไม่เข้าหลักเกณฑ์การรวมธุรกิจจะต้องรายงานให้ กขค. ทราบภายใน 15 วัน
2.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด แจ้งแผนการเพิ่มสัดส่วนของยอดขายสินค้าที่มาจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าวิสาหกิจชุมชนหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) และกลุ่มสินค้าอื่นๆ โดยให้เพิ่มยอดขายจากปี 2563 ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี และให้รายงานผลการดำเนินการภายในไตรมาสแรกของทุกปี
3.ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) มีหนังสือรับรองว่าจะไม่ใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ โดยให้ถือว่าเป็นความลับทางการค้า
4.ให้บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ดำเนินการคงไว้ตามเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิมที่ได้มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงไว้แล้วก่อนการรวมธุรกิจเป็นระยะเวลา 2 ปี เว้นแต่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นคุณหรือประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ และจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบนั้นๆ และรายงานผลการดำเนินการทุก 3 เดือน
5.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด กำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อทางการค้า (Credit Term) แก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน สินค้า OTOP ไม่เกิน 30 วัน และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ไม่เกิน 45 วัน เป็นระยะเวลา 3 ปี กรณีข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิมน้อยกว่าให้ใช้ข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิม โดยให้รายงานผลการให้สินเชื่อทางการค้าของ SMEs ทุกรายในวันที่ 1 เมษายน 2564 และให้รายงานผลการดำเนินการเป็นประจำทุก 3 เดือน
6.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด รายงานผลการประกอบธุรกิจ ได้แก่ ข้อมูลสาขาและการขยายสาขาหรือยกเลิกสาขาทุกจังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 1 เมษายน 2564 และรายงานผลการขยายสาขาหรือยกเลิกสาขารวมทั้งรายงานยอดขายสินค้าจำแนกตามหมวดสินค้าเป็นประจำทุก 6 เดือน
7.ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ดี (Code of Conduct) และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ในวันที่ 1 เมษายน 2564 และให้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว รวมทั้งต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางการพิจารณาทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย พ.ศ. 2562
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด จะต้องไม่มีการกระทำที่เป็นข้อห้ามของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดตามมาตรา 50 แห่งพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560
อ่านประกอบ :
เครือข่ายผู้บริโภคฯ ฟ้องศาลปค.ถอนมติ ‘กขค.’ อนุญาต ‘ซี.พี.’ควบ ‘เทสโก้ โลตัส’
‘ศาลปค.สูงสุด’ ทุเลาการบังคับคำสั่ง ‘กขค.’ ระงับ ‘นิสสัน’ เลิกสัญญา 7 ดีลเลอร์
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัย 'กขค.' อนุญาต 'ซี.พี.' รวม 'เทสโก้ โลตัส' มีอำนาจเหนือตลาด แต่ไม่ผูกขาด
ผูกขาด-โกยรายได้ปีละ 9.5 แสนล.! ภาคประชาชน จี้‘กขค.’ทบทวนมติ ‘ซีพี’ ควบ ‘เทสโก้ โลตัส’
ห่วงผูกขาด! ครป.จี้รัฐทบทวนมติ ‘ซีพี’ควบ‘เทสโก้ โลตัส’-กขค.เปิดคำวินิจฉัยส่วนตน
กระทบศก.ร้ายแรง-เพิ่มเหลื่อมล้ำ! เหตุผล กขค.เสียงข้างน้อย ไม่อนุญาต ‘ซี.พี.’ควบ‘เทสโก้ โลตัส’
ไม่เป็นการผูกขาด! คกก.แข่งขันการค้าฯไฟเขียว‘ซีพี’ควบรวม ‘เทสโก้ โลตัส’-กำหนด 7 เงื่อนไข
2 ปี ‘คกก.แข่งขันทางการค้า’ กับ 'การใช้ดุลพินิจ-ไม่เปิดคำวินิจฉัย'
สั่งปรับเซ็นทรัลฯ 5.9 ล.! ผิดกม.แข่งขันการค้า-กีดกัน ‘บ.คู่แข่ง’ เช่าพื้นที่ห้างขายคอนโด
เข้าข่ายค้าไม่เป็นธรรม! สอบ ‘ฟู้ดเดลิเวอรี่แอพฯ’ ตั้งเงื่อนไขห้ามร้านค้าใช้บริการเจ้าอื่น
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage