คณะทำงานฯฝ่ายอัยการ สรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้อง ‘วรยุทธ อยู่วิทยา’ คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดนข้อหาใหม่เสพโคเคนด้วย ชี้มีพยานหลักฐานใหม่ ใช้ความเห็น ‘สธน-สามารถ’ คำนวณความเร็วรถเกิน 110 กม./ชม. ชี้ ‘คลิปเสียงลับ’ เป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน ไม่กระทบความเห็น
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2563 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ คณะทำงานเพื่อตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ตามคำสั่งของอัยการสูงสุด (อสส.) ที่ 1400/2563 นำโดยนายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา หัวหน้าคณะทำงาน พร้อมด้วยนายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แถลงข่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว
นายประยุทธ กล่าวว่า ภายหลังปรากฏข่าวว่ามีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ กรณีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด (รอง อสส.) สั่งไม่ฟ้องกรณีดังกล่าว และส่งความเห็นให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว ทำให้คดีถึงที่สุดเด็ดขาด หลังจากนั้นสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องว่า การสั่งไม่ฟ้องมีคำถามต่าง ๆ มากมาก อสส. จึงมีคำสั่งพิเศษตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งสำนวนคดีของนายเนตร นาคสุข มีนายสมศักดิ์ ปิยะวานิช รอง อสส. เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ รวมทั้งนายอิทธิพร แก้วทิพย์ นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ และตน เป็นคณะทำงานในชุดดังกล่าวด้วย
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ผลจากการตรวจสอบของคณะทำงานในการตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตรแล้วเสร็จ จึงมีความเห็นไปยัง อสส. ว่า แม้มีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่มีข้อเท็จจริง 2 อย่างคือ 1.กรณีการเสพโคเคนของนายวรยุทธ 2.กรณีอยู่ในข่ายมีพยานหลักฐานใหม่ อสส. เห็นพ้องด้วย จึงมีคำสั่งใหม่คือ 1400/2563 ลงวันที่ 4 ส.ค. 2563 แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาคดีนายวรุทธอีกครั้ง โดยมีนายอิทธิพร แก้วทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ
ขณะที่ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงานฯ กล่าวว่า หลังจาก อสส. มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนนี้แล้ว สำนักงาน อสส. เคยแถลงให้ทราบแล้วว่า คณะทำงานฯมีความเห็นให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สอบสวนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่สื่อมวลชนได้นำเสนอความเห็นเรื่องความเร็วที่ปรากฏเป็นที่แพร่หลายทั่วไป ต่อมาปรากฏว่า ตร. มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสำนวนคดีนี้เช่นกัน ผบ.ตร. มีหนังสือถึง อสส. ว่า คณะกรรมการของ ตร. พบพยานหลักฐานใหม่เช่นเดียวกัน อสส. จึงให้คณะทำงานฯพิจารณา ความเห็นของ ตร. โดยคณะทำงานฝ่ายอัยการนำมาพิจารณาพบว่า สอดคล้องกับความเห็นของคณะทำงานฯเช่นกัน
@ผลตรวจเลือดชัดเสพโคเคน-อ้างความเห็น‘สธน-สามารถ’คำนวณความเร็วรถใหม่เกิน 110 กม./ชม.
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อ 31 ส.ค. 2563 และ 9 ก.ย. 2563 พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีความอาญา มาตรา 147 มาให้คณะทำงานฯ เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า สิ่งที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สอบเพิ่มเติมในเรื่องพยานหลักฐานใหม่นั้น ประกอบด้วยการกระทำอยู่ 2 ส่วน
ส่วนแรก พนักงานสอบสวนพบว่า มีการกระทำผิดด้วยการเสพโคเคนโดยผิดกฎหมาย คณะทำงานฯได้นำพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนส่งมาพิจารณา ในส่วนความผิดฐานเสพยาเสพติดนั้น ปรากฏว่า คดีเดิมไม่เคยมีการดำเนินคดีกับนายวรยุทธมาก่อน ในความผิดฐานนี้ และจากพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน ปรากฏว่า ผลการตรวจเลือดพบสารแปลกปลอม 2 ชนิด สารทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว พยานหลักฐานที่ ตร. รวบรวมมาสรุปได้ว่า เกิดจากการเสพโคเคนเท่านั้น ดังนั้นพยานหลักฐานในส่วนนี้จึงรับฟังได้ว่า ในวันเวลาเกิดเหตุนายวรยุทธมีการเสพโคเคนซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 จริง จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ
ส่วนที่สอง มีพยานหลักฐานใหม่สำคัญที่อาจทำให้ศาลลงโทษนายวรยุทธ กรณีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สอบสวนพยานหลักฐานปรากฏตามสื่อมวลชนคือความเห็นของ นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ กับนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ สิ่งที่พนักงานสอบสวนรวบรวมจากพยาน 2 รายนี้ ให้การตรงกันอย่างหนึ่งว่า ได้มีการวัดความเร็วรถยนต์ของเฟอร์รารี่ขณะเกิดเหตุ โดยนายสธน ลงไปวัดในพื้นที่จริง ส่วนนายสามารถ ดูภาพจากกล้องวงจรปิด สิ่งที่ทั้ง 2 รายคำนวณตามหลักวิชาการ รับฟังได้เลยว่า นายวรยุทธ ขับรถยนต์เฟอร์รารี่ด้วยความเร็วที่เกิน 110 กม./ชม. อย่างแน่นอน นี่คือข้อเท็จจริงที่พยานทั้ง 2 รายสรุปได้
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า การพิจารณาของคณะทำงานฯ ดำเนินการ 2 ส่วนคือ 1.การเสพโคเคน เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ นายวรยุทธ จึงมีความผิดฐานเสพโคเคนฐานหนึ่ง 2.เมื่อนำข้อเท็จจริงจากนายสธน และนายสามารถ พิจารณาว่า พยานทั้ง 2 รายไม่เคยปรากฏในสำนวนมาก่อน และหลักฐานในการคำนวณไม่เคยมีในสำนวน จึงถือได้ว่า พยานทั้ง 2 ราย เป็นพยานหลักฐานใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 และเป็นพยานสำคัญที่อาจทำให้ศาลลงโทษนายวรยุทธ
“เมื่อพิจารณาประกอบกับการเสพโคเคนก่อนเกิดเหตุของนายวรยุทธ พยานในสำนวนเองให้การยืนยันว่า ผลของฤทธิ์เสพโคเคนอาจมีผลทำให้หลอนประสาท มีการตื่นตัว คึกคะนอง กระวนกระวาย พฤติการณ์ของการเสพโคเคนก่อนขับรถ รวมทั้งขับรถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดในสภาพชุมชนเช่นนั้น คณะทำงานฯจึงมีความเห็นว่า เป็นความประมาทของนายวรยุทธ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เช่นนั้น เลยฟังได้ว่า การกระทำของนายวรยุทธ เป็นความผิดตามกฎหมาย” นายอิทธิพร กล่าว
@มติคณะทำงานฯอัยการเอกฉันท์ สมควรสั่งฟ้อง ขับรถประมาทชนคนตาย-เสพโคเคน
ส่วนกรณีพนักงานสอบสวนได้สอบสวนคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานความเร็วรถของนายวรยุทธนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้สอบสวนคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ อีกครั้งหนึ่ง เดิม พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ส่งรายงานว่า คำนวณความเร็วได้ 177 กม./ชม. ต่อมาในสำนวนมีการกลับความเห็นว่าความเร็วรถไม่ถึง 80 กม./ชม. แต่ในชั้นสอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มาให้การอีกครั้ง โดยยืนยันผลตรวจเดิมตั้งแต่ต้นคือความเร็วรถ 177 กม./ชม.
“คณะทำงานฯดูแล้วเห็นว่า คำให้การของ พ.ต.อกลับไปกลับมา ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย เลยมีน้ำหนักน้อย ดังนั้นคณะทำงานฯจึงไม่อาจนำคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ที่สอบสวนครั้งหลังนี้ นำมาเป็นเหตุเป็นผลในการพิจารณาสำนวนนี้ได้” นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อพิจารณาทั้งหมดแล้ว คณะทำงานฯจึงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า
1.เห็นควรสั่งฟ้องนายวรยุทธ ฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 หรือโคเคน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ โดยข้อหานี้ยังไม่ขาดอายยุความ (ขาดอายุความ 3 ก.ย. 2565)
2.มีความเห็นสั่งฟ้องนายวรยุทธ ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 219 โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 (ขาดอายุความ 3 ก.ย. 2570)
3.ให้แจ้งพนักงานสอบสวน นำตัวนายวรยุทธมาเพื่อฟ้องต่อศาลต่อไป โดยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ และให้สอบคำให้การก่อนนำตัวมาฟ้องด้วย
@เป็นหน้าที่ ตร.ควานหาตัว ‘วรยุทธ’ ก่อนส่งให้อัยการประสานขอผู้ร้ายข้ามแดน
นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากความเห็นของคณะทำงานฯอัยการมีคำสั่งฟ้องแล้วนั้น ประเด็นการติดตามตัวมาฟ้อง ตามระบบกฎหมายเมืองไทยจะฟ้องใครต้องมีตัวคนนั้นมาฟ้อง เพราะฉะนั้นกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากำหนดชัดเจนว่า พนักงานสอสวนต้องนำตัวมา ถ้าอยู่ต่างประเทศพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ โดยประเด็นนี้มีพยานหลักฐานชี้ว่านายวรยุทธอาจอยู่ต่างประเทศ ดังนั้นต้องเป็นภาระของ ตร. ทำเรื่องเข้ามาใหม่ โดยเมื่อปี 2560 ตร. เคยทำเรื่องเข้ามาแล้วขอให้ส่งตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏหลักฐานว่านายวรยุทธหลบหนีไปที่ไหน โดยการขอให้ประเทศใดประเทศหนึ่งจับตัวผู้ร้ายข้ามแดนมานั้น ต้องมีพยานหลักฐานพอสมควรให้ประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในประเทศนั้นจริง เพื่อให้ทางการประเทศนั้นไปยื่นศาลเพื่อออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน ไม่ใช่ไปจับแล้วส่งกลับมาเฉย ๆ จึงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องไปดำเนินการ
@ชี้ ‘คลิปเสียงลับ’ เป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน ไม่กระทบความเห็น
ส่วนกรณีปรากฏข้อเท็จจริงตามเทปลับที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์นำมามอบให้คณะทำงานฯชุดนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน โดยปรากฏเสียงของพนักงานอัยการรายหนึ่งในนั้นด้วยนั้น นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ กล่าว่า ประเด็นคลิปเสียงมีหรือไม่ เป็นเรื่องหนึ่ง คลิปเสียงเป็นเสียงของใครเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องคลิปเสียงไม่อยู่ในกระบวนการของคดีเลย ถ้าเป็นคลิปเสียงของผู้เกี่ยวข้องจริง ๆ ต้องดูว่าเป็นสิ่งที่ทำถูกหรือไม่ ตามกฎหมายอย่างไร แต่พอบอกว่าเป็นคลิปเสียง ต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะถ้าบอกว่าคลิปเสียงยืนยันว่าเป็นใคร คนที่อ้างต้องระมัดระวังว่าใช่หรือไม่ แต่ยืนยันว่าคลิปเสียงหรือกระบวนการที่เกิดขึ้น ไปเกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ต่าง ๆ นั้น เป็นข้อเท็จจริงนอกสำนวน ไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนเลย จึงไม่มาทำให้ความเห็นหรือดุลพินิจกระทบกระเทือนเด็ดขาด
ขณะที่นายประยุทธ กล่าวเสริมว่า อัยการชื่อย่อ ช. ที่อ้างว่าปรากฎในคลิปเสียงลับดังกล่าวนั้น จากการตรวจสอบในสำนวนแล้วไม่พบว่ามีอัยการ ช. เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ดังนั้นหากไปพบจริงก็คือไปในนามส่วนตัว และไม่มีผลใด ๆ กับคดีนี้ทั้งสิ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับ อสส. ด้วย
อ่านประกอบ :
เปิดเทปลับชุด 2 คดี’บอส’! อัยการโทรรายงานผลบิ๊กสีกากี “แน่นอน ถูกต้อง รับรองพี่”
เปิดบทสนทนา ’อัยการ-บิ๊กสีกากี’ ใน ‘เทปลับ’ ปั้นความเร็วรถคดี ’บอส’
ป.ป.ท.แจกงานคดี'บอส' 5 องค์กรตรวจสอบ-ไม่มีชื่ออัยการปริศนา ก.อ.นัดประชุม 22 ก.ย.
ผอ.อิศรา ไขปริศนาผลสอบฉบับเต็มคดี 'บอส' เทปลับเสียงห้องเปลี่ยนความเร็วมี 2 วัน
เปิดเทปลับ (1) ฉบับเต็มคดี ’บอส’ ไขที่มา ‘อัยการ’ ปริศนา?
เปิดบทสนทนา ’อัยการ-บิ๊กสีกากี’ ใน ‘เทปลับ’ ปั้นความเร็วรถคดี ’บอส’
เปิดตัว ‘บิ๊กสีกากี’ ตัวละครรายที่ 7 ในห้องปั้นความเร็วรถเฟอร์รารี่คดี ‘บอส’ หายไปไหน?
ใครคืออัยการปริศนา? ‘เทปลับ-ภาพถ่าย’ หลักฐานใหม่คดี ‘บอส’ ปั้นความเร็วรถเฟอร์รารี่
ความจริง 7 หน้า 9 ประเด็น บทสรุปจาก 'วิชา' ถึงคดี 'บอส อยู่วิทยา'
ทำสำนวนสมยอม-เปลี่ยนวันเท็จ! 'วิชา' สรุปคดี 'บอส' จี้สอบจริยธรรมร้ายแรง 'ผู้นำองค์กร'
‘สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง’ อยู่หรือไม่?! สรุปผลสอบ 'วิชา’ งัดหลักฐานชี้ขาดใครพลิกความเร็วคดี 'บอส'
ผิดพลาดบกพร่องมากกว่า 10 ราย!'วิชา' ชงรื้อคดี 'บอส อยู่วิทยา' ส่งนายกฯ 31 ส.ค.นี้
ทำทุกวิถีทางที่ให้เกิดเรื่องนี้!'วิชา'เผยมหากาพย์คดี 'บอส' มีผู้ร่วมในขบวนการทุกภาคส่วน
รู้อยู่แก่ใจใครต้องรับผิดชอบ!'วิชา'เตรียมส่งรายงานคดี'บอส'ให้นายกฯ 31ส.ค.นี้
2 ข้อหาอายุความ 15 ปี! ศาลอนุมัติหมายจับ 'บอส' หลัง ตร.ใช้หลักฐานใหม่ยื่นคำร้อง
ปริศนาใครถอนหมายแดง ‘บอส อยู่วิทยา’!อินเตอร์โพล ตอบอีเมลอิศรา แนะให้ถาม ตร.ไทย
เลือกปธ.ฟีฟ่าอยู่สวิส!'สมยศ' กางหลักฐานโต้พา 'สายประสิทธิ์' ให้ข้อมูลความเร็วรถบอส
ถูกกดดันจนไม่มีเวลาคิด!'ธนสิทธิ'แจงเหตุเปลี่ยนความเร็วรถคดี'บอส'-เรียก'สมยศ'แจงคิวต่อไป
ตร.เจ้าของสำนวน'บอส'ยอมรับแต่งตัวเลขสอบ'ธนสิทธิ' 2 ครั้งทั้งที่ทำจริงหนเดียว
17 วันค้นหาความจริง 'บอส' กก.สางคดีของ 'วิชา' พบอะไร ?
กาง กม.-ไทม์ไลน์ตำแหน่ง‘เนตร’จากอธิบดีอัยการฯ-รอง อสส.สั่งไม่ฟ้องคดี‘บอส’ตอนไหน?
Exclusive : 'อิศรา' ถาม 'ร.อ.สอาด' ตอบ ข้อเท็จจริงคดีบอส "ไม่เคยได้ไปหาจักรกฤชเลย"
ยังไม่เป็นโดยสมบูรณ์!'อรรถพล' เผย 'เนตร' แค่รักษาราชการรอง อสส.ขณะสั่งคดี'บอส'
โรมโชว์หลักฐาน‘ตัวละครลับ’ชนวนเหตุเปลี่ยนวิธีคำนวณความเร็วรถคดี‘บอส อยู่วิทยา’?
‘สิระ’เตือน‘ธานี’ถ้าไม่แจง กมธ.อาจออกคำสั่งเรียก-เชิญ 3 คณะทำงานฯสางคดี‘บอส’ด้วย
พร้อมให้สอบเส้นทางเงิน! ‘เนตร’แจง 2 กมธ.สภาฯ-ยันใช้ดุลพินิจตามสำนวนจึงไม่สั่งฟ้อง‘บอส’
เป็นทางการ!'เนตร'ไขก๊อกรอง อสส.-ตั้งคณะทำงานสอบการใช้ดุลพินิจไม่สั่งฟ้อง'บอส'
ละเอียด!แกะ 3 ปมคณะทำงานอัยการฯชง อสส.สอบต่อคดี‘บอส’-เบื้องหลัง‘เนตร’สั่งไม่ฟ้อง?
เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ’ พยานพลิกคดี'บอส' ให้การปี55-ไปไต้หวัน-ให้การปี 62-ตายต้นปี 63
INFO: เส้นทางชีวิต ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนเสียชีวิตกะทันหัน
INFO : สรุปคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
รองอสส.ถือว่าทำผิดกม.! 'คณิต' ชี้คดี 'บอส' อัยการสูงสุดสั่งฟ้องไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้
ร่วมทำบุญผ้าป่า-เดินทางไปงานบวช! ไขข้อมูล 'ส.ว.ก๊อง - อสส.' รู้จักกันจริงไหม?
ผบช.ภ.5แถลงสอบลูกน้อง‘ชูชัย’ สารภาพ ทำลายโทรศัพท์‘จารุชาติ’พยานคดีบอส อ้างมีรูปตัวเองเยอะ
ถอดคลิป18 ช็อต! อุบัติเหตุ 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตำรวจตั้งข้อหาถูกแล้วหรือ?
เจาะ บ.นิติชัยฯ นายจ้าง 'จารุชาติ' - อดีต ส.ว.ก๊อง รวมก่อตั้ง - แจ้งมีเงินให้กก.กู้ยืม 7.1 ล.
ก่อนเล่าหลังฉากพยานคดี‘บอส’!โพรไฟล์ ‘ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร’อ้างรู้จัก‘เฉลิม อยู่วิทยา’?
ชำแหละคำแถลงคณะทำงาน อสส.แค่’เอาตัวรอด-โยนความผิด’?ไร้ผลนำ‘บอส’ขึ้นศาล
ใครเป็นใคร? เปิดชื่อ-หน้าที่ 3 คณะทำงาน-4 กมธ.2 สภาลุยสอบปมไม่ฟ้องคดี‘บอส อยู่วิทยา’
ผบก.ป.ตั้ง 2 สมมติฐานชันสูตรศพ‘จารุชาติ’-ลั่นหลักฐานต้องชัดเจนไม่ว่าผลเป็นอย่างไร
ผู้การเชียงใหม่'เร่งรัดผลตรวจหาสารในร่าง'จารุชาติ'-กองปราบฯ ลงพท.สืบปมการตาย
ทางการ! 'บิ๊กตู่'สั่งอายัดศพ'จารุชาติ'พยานคดี'บอส'ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่แล้ว
'บวรศักดิ์'จี้ชันสูตรศพพยานคดี’บอส’ให้ชัดเจน ก่อนญาติฌาปนกิจพรุ่งนี้
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage