กู้บริโภคหด-เช่าซื้อรถฯดิ่ง9.9%! ธปท.เผยสัดส่วน‘หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี’Q1/68 เหลือ 87.4%

bot 30 06 25 d pic

‘ธปท.’ เผยตัวเลข ‘หนี้สินครัวเรือน’ ไตรมาส 1/68 ลดเหลือ 16.35 ล้านล้าน คิดเป็น 87.4% ต่อจีดีพี สินเชื่อ ‘อุปโภคบริโภค’ หดตัว เช่าซื้อรถฯดิ่งหนัก 9.9% เทียบกับปีก่อน

.....................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ปรากฎว่าหนี้สินครัวเรือน มีจำนวน 16,351,063 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 87.4% ต่อจีดีพี ลดลง 19,374 ล้านบาท หรือลดลง 0.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2567) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,370,438 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90.7% ต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 กับไตรมาสก่อน (4/2567) ที่หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 16,425,381 ล้านบาท (คิดเป็น 88.4% ต่อจีดีพี) พบว่า หนี้สินครัวเรือนมีจำนวนลดลง 74,318 ล้านบาท หรือลดลง 0.45%

เมื่อพิจารณารายละเอียดเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,644,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104,860 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,539,176 ล้านบาท แต่ลดลง 9,691 ล้านบาท หรือลดลง 0.17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีจำนวน 5,653,727 ล้านบาท

ส่วนเงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,589,033 ล้านบาท ลดลง 176,297 ล้านบาท หรือลดลง 9.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2567) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,765,330 ล้านบาท และลดลง 33,374 ล้านบาท หรือลดลง 2.05% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2567) ที่เงินกู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีจำนวน 1,622,407 ล้านบาท

สำหรับเงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,636,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112,611 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.49% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,523,832 ล้านบาท แต่ลดลง 29,516 ล้านบาท หรือลดลง 0.63% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลอื่น มีจำนวน 4,665,959 ล้านบาท

ขณะที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,919,756 ล้านบาท ลดลง 12,467 ล้านบาท หรือลดลง 0.43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 1/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพมีจำนวน 2,932,223 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 12,635 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (4/2567) ที่เงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ มีจำนวน 2,907,121 ล้านบาท

bot 30 06 25 d 1

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 พบว่าหนี้สินครัวเรือนส่วนใหญ่ หรือ 13,134,252 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมจากสถาบันรับเงินฝาก ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ จำนวน 6,141,247 ล้านบาท ,สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน จำนวน 4,496,709 ล้านบาท ,สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2,433,063 ล้านบาท และสถาบันรับฝากเงินอื่นๆ จำนวน 63,233 ล้านบาท

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงหนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ ที่มีจำนวน 6,141,247 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 พบว่าลดลง 192,105 ล้านบาท หรือลดลง 3.03% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,333,352 ล้านบาท และลดลง 68,042 ล้านบาท หรือลดลง 1.09% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2567 ที่หนี้สินที่ครัวเรือนกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ที่มีจำนวน 6,209,289 ล้านบาท

สำหรับหนี้สินครัวเรือนที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินอื่น ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีจำนวน 2,467,256 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 1,939,707 ล้านบาท , บริษัทประกันภัยและประกันชีวิต จำนวน 195,022 ล้านบาท ,บริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 76,333 ล้านบาท ,ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน จำนวน 91,558 ล้านบาท ,โรงรับจำนำ จำนวน 103,496 ล้านบาท และสถาบันการเงินอื่นๆ จำนวน 61,139 ล้านบาท

bot 30 06 25 d 2