ร้อง ‘นายกฯ’ ตรวจสอบสอบข้อเท็จจริง กรณี ‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ อ้างเหตุ ‘พื้นที่ทับซ้อน’ เขตป่าสงวนฯ ผลักดันชาวบ้านที่ได้เอกสารสิทธิ์ ‘ที่ดิน ส.ป.ก.’ ในพื้นที่บริเวณรอบ ‘เหมืองทองอัคราฯ’ ออกจากที่ดินทำกิน
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. ถูกเจ้าหน้าที่รัฐฟ้องดำเนินคดีในข้อหาตัดไม้หวงห้ามในที่ดิน ส.ป.ก. ของตัวเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าที่ดิน ส.ป.ก. ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ
นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. มีชาวบ้านในพื้นที่ ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เข้ามาร้องเรียนกับทางกลุ่มฯว่า ถูกพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบูรณ์ฟ้องดำเนินคดีในข้อหาตัดไม้หวงห้ามในเขตพื้นที่ป่าสงวน ทั้งๆที่ต้นไม้ที่ชาวบ้านตัดไปนั้น เป็นต้นไม้ที่อยู่ในเขตที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งชาวบ้านรายนี้ได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. โดยชอบด้วยกฎหมาย มาตั้งแต่ปี 2536 แล้ว
“เดิมชาวบ้านรายนี้ได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. โดยชอบด้วยกฎหมาย และเข้าทำกินในที่ดินผืนนี้มา 20 ปีแล้ว ซึ่งมีหลักฐานเป็นต้นมะขามหวานที่ได้ปลูกเอาไว้ในพื้นที่เกือบ 20 ปี แต่ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ามาจับกุมชาวบ้านรายนี้ โดยอ้างว่ามีการตัดไม้หวงห้ามในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ ทั้งๆที่ต้นไม้ดังกล่าวอยู่ในเขตที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งชาวบ้านได้สิทธิ์ครอบครองมานานแล้ว” นางวันเพ็ญกล่าว
นางวันเพ็ญ ยังระบุว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มฯได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งได้รับเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่บริเวณโดยรอบเหมืองทองอัคราฯ ว่า ถูกเจ้าหน้าที่รัฐผลักดันให้ออกจากที่ดิน ส.ป.ก.ของตนเองโดยเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าที่ดิน ส.ป.ก.ดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ รวมทั้งมีการดำเนินการด้วยวิธีการต่างๆที่จะให้ประชาชนที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. หรืออาศัยทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. นั้น ต้องขาดสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. ไป
"การที่เจ้าหน้าที่รัฐพยายามผลักดันชาวบ้านที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งอาศัยอยู่รอบเหมืองทองอัคราฯ ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. ของตนเอง เพื่อทำให้ที่ดินดังกล่าวตกเป็นที่ดินของรัฐ นั้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเอกชนบางรายหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมได้อนุญาตอาชญาบัตรพิเศษทำเหมืองทองคำในเขตท้องที่ อ.วังโป่ง และอ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ กว่า 4.4 แสนไร่ ให้เอกชนรายหนึ่ง" นางวันเพ็ญ ระบุ
นางวันเพ็ญ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มฯได้เข้ายื่นหนังสือต่อ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพื่อขอเร่งรัดตรวจสอบและปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งอยู่บริเวณโดยรอบเหมืองทองอัคราฯ แต่กลับถูกเพิกเฉย และไม่เคยมีการแก้ปัญหาที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด
“ขอเรียกร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะทำงาน แก้ปัญหากรณีดังกล่าวนี้ด่วนที่สุด เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชน และปกป้องคุ้มครองไม่ให้ประชาชนถูกดำเนินคดี” นางวันเพ็ญ กล่าว
อ่านประกอบ :
‘ศาลปค.สูงสุด’นัดพิจารณาคดีเพิกถอนคำสั่งอนุญาตย้าย‘บ่อทิ้งเก็บกากแร่’เหมืองอัคราฯ 1 พ.ย.
อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง!‘ป.ป.ช.’แจ้งความคืบหน้าปมกล่าวหา‘สุริยะ’ไม่ดำเนินคดี‘บ.อัคราฯ’
ครม.รับทราบคืบหน้าเจรจา 'คิงส์เกต' ชี้สัญญาณดี ปมเหมืองทองอัครา
อภิปรายไม่ไว้วางใจ :‘จิราพร’ ย้ำปมเหมืองทองอัครา เตือน 9 ครั้ง ไม่ฟังทำชาติเสียหาย
ดีเอสไอยุติสืบสวนคดีออกอาชญาบัตรพิเศษ'เหมืองทองอัครา'ส่งสำนวน ป.ป.ช.ดูต่อตามกฎหมาย
'อนุญาโตฯ'เลื่อนชี้ขาด'คดีเหมืองทองอัครา'-'กพร.'แจงปมอนุมัติประทานบัตรฯ 3 แปลง'รุกป่า'
‘ดีเอสไอ’ ตั้งเรื่องสอบ คดี ‘บอร์ดแร่ฯ’ ออกอาชญาบัตรฯสำรวจทองให้ ‘บ.อัครา’ ผิดกม.ฮั้ว
ฟื้น'เหมืองทองอัครา'! ดีลให้'ประทานบัตร'แลกถอนฟ้อง? จับตา'อนุญาโตฯ'เลื่อนชี้ขาดคดี
ร้องตร.ป.ป.ป.เอาผิดDSIละเว้นปฎิบัติหน้าที่-จี้สอบปมขอประทานบัตรเหมืองทองอัคราฯ
'รัฐบาลไทย' อนุมัติประทานบัตรฯ 4 ฉบับ พื้นที่ 'เหมืองทองคำชาตรี' ให้ 'คิงส์เกต'
ถอดบทเรียน! ก่อนปิด ‘เหมืองทองอัครา’ ปมผลกระทบ ‘สุขภาพ’ ที่ยังไม่คลี่คลาย?
รบ.ยังไม่เสียสักบาท! ‘วิษณุ’สวนฝ่ายค้านแนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่เหมืองอัคราฯแค่เฟกนิวส์
ฝ่ายค้านขุดเอกสารลับ!แนวโน้มไทยแพ้ค่าโง่ 2 หมื่นล.อัคราฯ ‘สุริยะ-บิ๊กตู่’ปัดเอื้อ ปย.