
จีนใช้กลุ่มอาชญากรข้ามชาติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ จีนไม่สนใจตราบใดที่พวกเขามีความรักชาติ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจินตนาการว่าจีนจะใช้ Prince Group เพื่อประโยชน์ของตนเอง
ส่องคดีทุจริตโลก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอกรณีบริษัทข้ามชาติในประเทศกัมพูชา ซึ่งผู้บริหารมีความเชื่อมโยงกับอาชญากรชาวจีน มีส่วนในการลงทุนที่ไม่โปร่งใสในต่างประเทศ
บริษัทดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Prince Group จำกัด ซึ่งในช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สื่อไทยได้รายงานข่าวว่านายเฉิน จือ (Chen Zhi) ประธานของ Prince Group Holdings แห่งนี้ ดำเนินการลงทุนในโครงการต่างๆ ในกัมพูชา รวมถึงคาสิโน โดยที่มีข้อครหาว่าบริษัท Prince Group Holdings มีส่วนในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ และหนึ่งในคาสิโนที่ Prince Group Holdings ลงทุน มีซาร์ ซกคา (Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวอิศราสืบค้นข้อมูลอ้างอิงจากสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียหรือ RFA พบว่าบริษัท Prince Group แห่งนี้อาจมีอิทธิพลในต่างแดนมากกว่าที่คิด
ย้อนไปเมื่อเดือน มี.ค. RFA รายงานข่าวว่ารัฐบาลทั้งไต้หวันประเทศเทศปาเลาทั้งสองรัฐบาลได้รับคำเตือนให้เฝ้าระวังข้อเสนอเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งมีผู้ลงทุนคือบริษัท Prince Group บริษัทข้ามชาติกัมพูชา เนื่องจากว่าบริษัทนี้อาจแสดงถึงภัยคุกตามต่อความมั่นคงและอธิปไตยของแต่ละชาติ
โดยสถาบันวิจัย Pacific Economics ซึ่งตั้งอยู่ในฮาวได้ทำบรรยายสรุปถึงประธานาธิดีปาเลาและรัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวันในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ระบุเนื้อหาว่าบริษัท Prince Group เป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งบรรยายสรุปดังกล่าวมีการอ้างถึงหลักฐานที่สืบพบได้โดย RFA และองค์กรอื่นๆ
Pacific Economics ระบุอีกว่านอกเหนือจากความเสี่ยงจากกิจกรรมผิดกฎหมายที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโดย Prince ซึ่งมีผู้นำเป็นคนสัญชาติจีนและมีสัญชาติกัมพูชาแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นความลับของบริษัทอาจใช้เป็นช่องทางหลังบ้านให้กรุงปักกิ่งใช้อิทธิพลในต่างประเทศได้
คำเตือนดังกล่าวเป็นผลจากการศึกษานักลงทุนต่างชาติในปาเลาเป็นเวลาครึ่งปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมอบหมายให้ Pacific Economics จัดทำรายงานสรุปข้อมูล
สถาบันแห่งนี้ได้มีการวิเคราะห์การที่บุคคลที่มีฐานะร่ำรวยจำนวนมากที่ลงทุนในประเทศเกาะเล็กๆ แห่งนี้ โดยนายจาโรด เบเกอร์ ผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยได้กล่าวว่านักลงทุนเหล่านี้หลายคนอาจมีความเกี่ยวพันกับอาชญากรรม และเขายังได้นำเสนอเรื่องนี้ไปถึงนายซูราเกล วิปส์ จูเนียร์ ประธานาธิบดีของปาเลา
นายเบเกอร์ให้สัมภาษณ์กับ RFA ว่าทุกคนในพื้นที่นั้นเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มีการใช้เงินไปอย่างมหาศาล
ขณะที่สำนักข่าวพนมเปญโพสต์ของกัมพูชาก็ได้ลงข่าวแถลงการณ์ของบริษัท Prince Group ซึ่งมีเนื้อหาตอบโต้ในช่วงเดือน มี.ค.เช่นกัน โดยระบุว่าผลงานของสถาบันแห่งนี้มีเนื้อหาที่หมิ่นประมาท และบริษัทขอปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่เคยลงทุนในปาเลาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามบริษัท Prince Group พบว่ามีนายเฉิน จือทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัท และเขายังเป็นผู้ถือหุ้น 37.5% ในบริษัทชื่อว่า Grand Legend International Asset Management Group ซึ่งจดทะเบียนในประเทศปาเลา ตามเอกสารบันทึกการจดทะเบียน

นายเฉิน จือ กับอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน
รายละเอียดแผนที่ผลงานบริษัทบนเว็บไซต์ของ Prince Group ระบุว่าปาเลาเป็นหนึ่งในสถานที่ลงทุนของบริษัท
อดีตพนักงานซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในเรื่องนี้ยืนยันกับ RFA ว่าประเทศเกาะแห่งนี้เป็นหนึ่งในดินแดนที่บริษัทถือครองกรรมสิทธิ์อยู่
สำนักข่าว RFA ทำข่าวสืบสวนซึ่งกินเวลาสามปี และมีการเผยแพร่เมื่อเดือน ก.พ.2567 โดยเปิดโปงข้อกล่าวหาว่าบริษัท Prince Group นั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับรัฐบาลกัมพูชา และบริษัทนี้มีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการค้ามนุษย์ครั้งใหญ่
@สัญญาเช่า 99 ปี
RFA รายงานว่าสถาบัน Pacific Economics ระบุถึงโครงการการลงทุนโรงแรมและรีสอร์ทจำนวนอย่างน้อย 3 โครงการในปาเลาที่เชื่อมโยงกับบริษัท Prince Group ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (32,540,000,000 บาท) ซึ่งมากกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจประจำปีของประเทศปาเลาถึง 3 เท่า
การลงทุนดังกล่าวรวมถึงสัญญาเช่า 99 ปีสำหรับเกาะ Ngerbelas ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่และปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่ปลายสุดทางเหนือของหมู่เกาะที่ประกอบเป็นประเทศปาเลา
ตามเอกสารที่ RFA ได้ข้อมูลมาพบว่าเกาะแห่งเดียวกันนี้ถูกระบุชื่ออยู่ในรายชื่อสถานที่ลงทุนของ Prince Group โดยนายเบเกอร์กล่าวว่าบริษัท Prince Group ได้ซื้อเกาะนี้มาในราคาถูกเพียง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (32,552,464 บาท)
“ที่ดินถือเป็นทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุดของปาเลา และสัญญาเช่าเหล่านี้จะผูกมัดมันไว้เป็นเวลา 5 ชั่วอายุคน โดยไม่มีภาระผูกพันใดๆ ในการบำรุงรักษาหรือสร้างงาน” นายเบเกอร์กล่าวกับ RFA
ส่วนโฆษกของประธานาธิบดีปาเลาตอบกลับผ่านอีเมลมายังสำนักข่าว RFA โดยเขาไม่ได้กล่าวถึงการลงทุนของบริษัท Prince Group โดยตรง แต่กล่าวว่าประเทศนี้เผชิญกับความท้าทายในการตรวจสอบนักลงทุนต่างชาติ” “เนื่องจากเราเป็นรัฐเกาะขนาดเล็กที่กำลังพัฒนา เราจึงแสวงหาพันธมิตรด้านการลงทุนและการพัฒนาอย่างเข้มข้น แต่ก็ตระหนักดีว่าบุคคลหรือองค์กรบางแห่งอาจมองเราเป็นเป้าหมายที่เสี่ยง
ดังนั้นเราจึงได้เสริมสร้างนโยบายของเราเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย และป้องกันผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” โดยปาเลาได้เข้าร่วมกับตำรวจสากลและเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองและหน่วยอาชญากรรมของสหรัฐฯ

เกาะ Ngerbelas ประเทศปาเลา
สถาบัน Pacific Economics ยังระบุถึงข้อกังวลอีกประการเกี่ยวกับหุ้นส่วนที่ทำงานร่วมกับนายเฉิน จือจากบริษัท Prince Group ในการซื้อที่ดินบนเกาะปาเลา โดยบุคลเหล่านี้มีชื่อว่านางโรส หวัง (Rose Wang) ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นกรรมการในบริษัทโฮลดิ้งที่เช่าที่บนเกาะ Ngerbelas
นางโรส หวัง รู้จักในอีกชื่อคือนางหวัง กัวตัน (Wang Guodan)
เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ในปาเลามาเป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษซึ่งทำให้เธอได้พัฒนาเครือข่ายผู้ติดต่อบนเกาะเอาไว้
ในปี 2565 รัฐบาลปาเลาระบุว่าเธอเป็นบุคคลต่างด้าวที่ไม่พึงปรารถนา ซึ่งสถานะนี้จะทำให้วีซ่าของบุคคลเป็นโมฆะและไม่สามารถขออนุมัติใบคำขอวีซ่าในอนาคตได้
กรณีที่นางโรสได้สถานะที่ไม่พึงปรารถนานั้นมาจากปัญหาก่อนหน้า ย้อนไปในปี 2561 นายทอมมี่ เรเมงเกซอ จูเนียร์ (Tommy Remengesau, Jr.) ประธานาธิบดีปาเลาตอนนั้นปรากฎภาพถ่ายคู่กับนายหวันก็กกอย (Wan Kuok-koi) หัวหน้ากลุ่มอาชญากรรม Triad 14k (หรือฉายาฟันหัก) ซึ่งถูกคว่ำบาตรจากทางการสหรัฐฯ โดยนายหวันกล่าวว่าการพบปะที่ว่านี้เกิดขึ้นได้เพราะการจัดการของนางโรส
อย่างไรก็ตามนางโรสได้กล่าวปฏิเสธเรื่องนี้ไป โดยอ้างว่าเธอไม่รู้จักกับนายหวัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนใน Prince Group และไม่รู้จักกันนายเฉิน จือ
อย่างไรก็ตาม RFA ได้ตรวจสอบบันทึกการจดทะเบียนบริษัท Grand Legend International Asset Management Group ซึ่งเป็นบริษัทที่นายเฉิน จือ ประธานของบริษัท Prince Group ถือหุ้นอยู่ 37.5%
โดยในเอกสารระบุว่านางโรส หวัง เป็นตัวแทนจดทะเบียนของบริษัทในเกาะแห่งนี้ และมีโรงแรมที่เธอเป็นเจ้าของเป็นที่อยู่ที่จดทะเบียน
RFA จึงได้มีการติดต่อสอบถามนางโรส หวังอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนางโรสก็ยืนยันว่าไม่รู้จักกันนายหวันก็กกอย แต่ยอมรับว่าเธอมีสถานะเป็นบุคคลต่างด้าวที่ไม่พึงปรารถนา เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดในการรายงานข่าว แต่ว่าทนายความของเธอสามารถลบชื่อของเธอออกจากรายชื่อบุคคลต่างด้าวที่ไม่พึงปรารถนาได้เป็นผลสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานอย่างแพร่หลายว่านางโรส หวังมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับรัฐบาลจีน และความสัมพันธ์ของเธอก็ทำให้เกิดคำถามว่าเธอพยายามที่จะโน้มน้าวให้ปาเลาเอียงข้างมาทางปักกิ่งหรือไม่
ตัวอย่างเช่น เธอดำรงตำแหน่งผู้นำในสมาพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลปาเลา ซึ่งดำเนินงานภายใต้การอุปถัมภ์ของกระทรวงการต่างประเทศของจีน และมีเป้าหมายที่จะรวมชาวจีนโพ้นทะเลของปาเลาให้สอดคล้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าองค์กรดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญในนโยบายต่างประเทศของจีนในประเทศในไม่กี่ประเทศ เช่น ปาเลา ที่รับรองไต้หวันเป็นประเทศเอกราช
โดยกรุงปักกิ่งปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับประเทศที่รับรองไต้หวัน และใช้องค์กรพลัดถิ่นและผู้ประกอบการชาวจีนโพ้นทะเลที่มีความสัมพันธ์ดีเป็นช่องทางในการทูตอย่างไม่เป็นทางการ
ส่วนนายเบเกอร์กล่าวว่าแม้เขาไม่เห็นหลักฐานว่า Prince Group มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามดังกล่าว แต่เขาก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ดังกล่าวออกไป
“จีนใช้กลุ่มอาชญากรข้ามชาติเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ จีนไม่สนใจตราบใดที่พวกเขามีความรักชาติ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจินตนาการว่าจีนจะใช้ Prince Group เพื่อประโยชน์ของตนเอง” นายเบเกอร์กล่าวและกล่าวต่อว่า “การที่นางโรส หวังมาลงทะเบียนกับนายเฉิน จือบอกผมว่า เฉิน จือ เป็นคนมีกลยุทธ์”
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจลับของจีนได้บอกกับ RFA ว่า Prince Group มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนลักพาตัวนักเคลื่อนไหวชาวจีนจากไต้หวัน ทว่า Prince Group ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

โครงข่ายและแผนงานบริษัท Prince Group
@Prince Group กับการปรากฎตัวที่ไต้หวัน
ตั้งแต่ปี 2018 Prince Group มีบทบาทสำคัญอย่างมากในไต้หวัน โดยสำนักงานใหญ่แห่งหนึ่งของบริษัทกินพื้นที่อาคารทั้งหลัง และมีตั้งห่างจากสำนักงานของประธานาธิบดีไต้หวันเพียงหนึ่งช่วงตึก
โดยเครือข่ายของบริษัทที่จดทะเบียนที่ไต้หวันระบุในบันทึกการจดทะเบียนว่าเป็นบริษัทซึ่งมีการลงทุนจากต่างชาติ แทนที่จะเป็นการลงทุนจากจีน ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจสอบตามกฎระเบียบและข้อจำกัดเกี่ยวกับเงินทุนของจีนในไต้หวัน
ตามบันทึกการจดทะเบียน การดำเนินงานของ Prince Group ในไต้หวันเน้นไปที่ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ การให้คำปรึกษาการลงทุน และโปรแกรมการย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุนเป็นหลัก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้ดึงดูดนักลงทุนชาวไต้หวันอย่างแข็งขัน โดยจัดการประชุมการลงทุนและจัดทริปไปกัมพูชา
บริษัทได้ทำการตลาดอพาร์ทเมนท์พร้อมบริการในกรุงพนมเปญ โดยโฆษณาว่าให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 6% ต่อปี บริษัทยังคงดำเนินกิจการอยู่ในไต้หวัน ณ เวลานี้ โดยมีการประกาศรับสมัครงานสำหรับตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่ง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและการตลาด
ขณะที่โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับ Prince Group แต่ยอมรับกับ RFA ว่า “จีนได้ใช้กลุ่มนักธุรกิจและแม้แต่กลุ่มอาชญากรที่มีภูมิหลังเป็นชาวจีนโดยเฉพาะเพื่อแทรกซึมเข้าไปในปาเลา ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทูตของเรามานานแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทใดๆ ที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในไต้หวัน จะถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยหน่วยงานในไต้หวัน”
สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของบริษัท Prince Group ตามหน้าสื่อนั้นพบว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเฉิน จือ หรือที่มียศว่าออกนาเฉิน จือ ได้ยกย่องให้เป็นผู้ประกอบการแห่งปีประจำของประเทศกัมพูชา ประจำปี 2568 โดยผู้มอบรางวัล World Business Outlook Awards ให้กับนายเฉิน จือได้แก่ บริษัทสื่อ World Business Outlook ในประเทศสิงคโปร์ และนอกจากนี้บริษัทของนายเฉิน จือ ยังได้มีการมอบทุนการศึกษา ส่งผลทำให้บริษัทได้รับรางวัล CSR ยอดเยี่ยมของกัมพูชาประจำปี 2568 ประกอบกัน
เรียบเรียงจาก:https://www.rfa.org/english/cambodia/2025/03/12/corruption-security-taiwan-palau/,https://www.media-outreach.com/news/cambodia/2025/05/26/384477/chairman-chen-zhi-named-cambodias-entrepreneur-of-the-year-prince-holding-group-recognized-for-scholarship-program/
- ส่องคดีทุจริตโลก:ตีแผ่เว็บคริปโตฯหลาน 'ฮุน เซน' เชื่อมโยงฟอกเงินเกาหลีเหนือพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: จนท.USAID-เอกชน สมคบขบวนการสินบนตั้งแต่ปี 56 ได้สัญญารัฐ 1.7 หมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ทวิตเตอร์ส่อโดนสอบ เหตุรับเงินผู้ก่อการร้าย ใช้งานบริการยืนยันตัวตน
- ส่องคดีทุจริตโลก: ข้อพิรุธจัดซื้ออาหารเด็กลัตเวีย ใช้วิธีจับสลาก เลือกผู้ชนะประวัติฉาว
- ส่องคดีทุจริตโลก:ผู้รับเหมาแฟลตฮ่องกง 2 หมื่นล. จ่ายสินบนหัวหน้างานแลกใช้เหล็กด้อยคุณภาพ
- ส่องคดีทุจริตโลก: นักธุรกิจฉาวพัวพัน 'ทรัมป์' เอี่ยวลงทุนศูนย์ข้อมูล TikTok ที่ฟินแลนด์
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.ออฟชอร์จ่ายให้! ลูกขุนคลังเซอร์เบียเรียน รร.นานาชาติ ค่าเทอมหลัก ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อครหา บ.จีน ส่งเอกสารปลอม เข้าประมูลเทคนิค โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่เนปาล
- ส่องคดีทุจริตโลก: เปิดประวัติคาร์ดินัลโดนคดีการเงิน อ้างมีสิทธิ์โหวตโป๊ปพระองค์ใหม่
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐสภาเนปาลสอบ จนท.เอื้อประโยชน์ บ.จีน หนีภาษี-ย้อมแมวสนามบิน 7พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: ธนาคารชั้นนำสวิสถูกสอบ เหตุทำธุรกรรมกับลูกค้าความเสี่ยงสูง 1,400 บัญชี
- ส่องคดีทุจริตโลก:ข้อพิรุธไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์ฯ ใช้นอมินีรับสัญญารถไฟแอฟริกาใต้หมื่น ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: แอฟริกาใต้จ้างเอกชนจีนมีประวัติโดนขึ้นบัญชีดำในต่างแดน สร้างถนน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ย้อนรอย บ.จีนจ้างแฟนเก่าอดีต ปธน.โบลิเวียนั่งบริหาร รับสัญญารัฐหมื่นล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ป.ป.ช.อินโดฯ เดินหน้าสอบบิ๊กธนาคาร เอี่ยวจ่ายคอมมิชชั่น บ.โฆษณา 449 ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก: รัฐวิสาหกิจจีนประวัติฉาว ทำสัญญาสร้างเขื่อน 1.8 หมื่นล. ที่ฮอนดูรัส
- ส่องคดีทุจริตโลก:เช็กเกียสั่งสอบ 17 ผู้ต้องหา เอี่ยวกินเปอร์เซ็นต์สัญญา รพ.มูลค่าพัน ล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:กห.ออสซี่ทำสัญญาหมื่นล.เอกชนถูกสอบฮั้วราคาอุปกรณ์-บริการฐานทัพทหาร
- ส่องคดีทุจริตโลก:สภายูเครนผ่านร่าง กม.ซื้อเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 หมื่นล.ส่อไม่โปร่งใส
- ส่องคดีทุจริตโลก:NGO ฉ้อโกงเงิน USAIDนับร้อยล้าน-ยักยอกอาหารผู้ลี้ภัยขายผู้ก่อการร้าย
- ส่องคดีทุจริตโลก:บ.สิงคโปร์ค้าน้ำมันให้กองทัพเมียนมา ก่ออาชญากรรมสงคราม ทำรายได้ พันล.
- ส่องคดีทุจริตโลก:ซาอุฯเดินหน้าสัญญาซื้ออาวุธรัสเซีย 7.7 หมื่นล.แม้ถูกคว่ำบาตรปมบุกยูเครน
- ส่องคดีทุจริตโลก:ก.คลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรธนาคารคีร์กีซ เหตุช่วยแบงก์รัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร
- ส่องคดีทุจริตโลก: CEO กรมน้ำฯแอลเอ บริหารงานล้มเหลว? ต้นเหตุหัวดับเพลิงไม่ทำงานช่วงไฟป่า
- ส่องคดีทุจริตโลก:แฉแผนทรมาน ปธ.กกต.เกาหลีฯช่วงอัยการศึก บังคับประกาศเหตุโกงเลือกตั้ง สส.
