กล่าวหาว่าทำผิดวินัย!ตั้งกก.สืบสวนฯ 7 ตร.คดี'บอส' -'ธนสิทธิ'โดนด้วย

02102563boss01

'พล.ต.ท.จารุวัฒน์' ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง 7 ตำรวจในคดี 'บอส อยู่วิทยา' หลังพบข้อบกพร่องเพิ่มเติมของตำรวจที่มีมูลควรกล่าวหาว่กระทำผิดวินัย โดยหนึ่งในนั้นมี 'พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น' ด้วย

---------------------------------------------

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการตามขั้นตอนการดำเนินคดีอาญากับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 โดยระบุว่า เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมเกี่ยวกับการดำเนินการของตำรวจเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อ 26 ก.ค.2563 ได้ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยได้พบข้อบกพร่องเพิ่มเติมของตำรวจที่เกี่ยวข้องอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยกับตำรวจ 7 คน ดังนี้

1.พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจจราจร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทองหล่อ พบข้อบกพร่อง 3 ประเด็น

ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ไม่ดำเนินการการตรวจปัสสาวะหรือเลือดเพื่อหาสารเสพติดเบื้องต้นในทันที ขณะที่รับมอบตัวผู้ต้องหาเวลา 09.30 น. ของวันที่ 3 ก.ย.2555 ซึ่งจะทำให้ได้ความแม่นยำกว่าการทอดเวลาไปตรวจตอนเวลา 16.03 น.ของวันที่ 3 ก.ย.2555

ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ไม่เก็บสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมช่วงระหว่างวันที่ 2 ก.ค.2556 – 4 มี.ค.2559 ไว้ตามระเบียบ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา

ในฐานะพนักงานสอบสวน ไม่ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น กรณี พ.ต.อ.ธนสิทธิ ให้ถ้อยคำว่าเป็นพยานที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนในวันที่ 26 ก.พ.2559 และในคราวเดียวกันนั้นได้สอบสวน พ.ต.อ.ธนสิทธิ อีกโดยลงวันที่ล่วงหน้าเป็นวันที่ 2 มี.ค.2559 และให้ลงลายมือชื่อในคำให้การล่วงหน้า และต่อมา 29 มี.ค.2559 ได้ติดต่อขอให้การเพิ่มเติมเพื่อขอแก้ไขคำให้การของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ในเรื่องความเร็วของรถยนต์คันเกิดเหตุ

2.พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.ทองหล่อ พบข้อบกพร่อง 3 ประเด็น

ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่กำกับ ดูแล ติดตามพนักงานสอบสวน กรณีพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการตรวจปัสสาวะหรือเลือด เพื่อหาสารเสพติดเบื้องต้นในทันทีที่รับมอบตัวผู้ต้องหา

ในฐานะผู้บังคับบัญชา ในช่วงวันที่ 5 เม.ย.2555 – 4 ก.พ.2557 หลังจากส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ ไม่กำกับ ดูแล ติดตามให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับตามคำสั่งของพนักงานอัยการ

ในฐานะผู้บังคับบัญชา ในช่วงวันที่ 5 เม.ย.2555 – 4 ก.พ.2557 ไม่กำกับ ดูแล ติดตามกรณีพนักงานสอบสวนไม่เก็บสำนวนกาสอบสวนเพิ่มเติมช่วงระหว่างวันที่ 2 ก.ค.2556 – 4 มี.ค.2559 ไว้ตามระเบียบ

3.พ.ต.อ.อัครวินต์ สุคนธวิท ผกก.สืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน สน.ทองหล่อ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่กำกับ ดูแล ติดตามพนักงานสอบสวน กรณีพนักงานสอบสวนไม่ตรวจปัสสาวะหรือเลือด เพื่อหาสารเสพติดขณะที่รับมอบตัวผู้ต้องหา

4.พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม รองผู้บังคับการ กองอัตรากำลัง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ (หัวหน้างานสอบสวน) สน.ทองหล่อ พบข้อบกพร่อง 2 ประเด็น

ในฐานะหัวหน้าสอบสวนและผู้บังคับบัญชา กรณีภายหลังส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการแล้ว ไม่กำกับ ดูแล ติดตามให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับตามคำสั่งของพนักงานอัยการ

ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่กำกับ ดูแล ติดตามพนักงานสอบสวน กรณีพนักงานสอบสวนไม่เก็บสำเนาสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 2 ก.ค.2556 – 4 มี.ค.2559 ไว้ตามระเบียบ

5.พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.ทองหล่อ พบข้อบกพร่อง 2 ประเด็น

ในฐานะผู้บังคับบัญชา ไม่กำกับดูแล ติดตามให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับตามคำสั่งของพนักงานอัยการ

ในฐานะผู้บังคับบัญชาในช่วงวันที่ 5 ก.พ.2557 – 14 ม.ค.2558 ไม่กำกับ ดูแล ติดตามพนักงานสอบสวน กรณีพนักงานสอบสวนไม่เก็บสำเนาสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 2 ก.ค.2556 – 4 มี.ค.2558 ไว้ตามระเบียบ

6.พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี กองบังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภูธรภาค 6 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.ทองหล่อ ในช่วงวันที่ 15 ม.ค.2558 – 4 มี.ค.2559 ไม่กำกับ ดูแล ติดตามพนักงานสอบสวน กรณีไม่เก็บสำเนาสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 2 ก.ค.2556 – 4 มี.ค.2559 ไว้ตามระเบียบ

7.พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ออกรายงาการตรวจพิสูจน์ในเรื่องความเร็วของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตามรายงานตรวจพิสูจน์ลงวันที่ 26 ก.ย.2555 ให้การต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2559 แตกต่างจากผลการตรวจพิสูจน์ที่ปรากฎรายงานการตรวจพิสูจน์ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และมีผลต่อรูปคดี

ทั้งนี้จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสืบสวนในเรื่องดังกล่าว โดยมี พล.ต.ท.พิทยา ศิริรักษ์ จเรตำรวจ (หัวหน้าจเรตำรวจ) เป็นประธานกรรมการ โดยกำหนดให้คณะกรรมการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนมาเพื่อพิจารณาต่อไป อนึ่งหากคณะกรรมการเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่ง หรือสืบสวนพาดพิงไปถึงตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการพิจารณาในเบื้องต้นเห็นว่าผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำ ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2563 พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ได้แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบเอาผิดทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวกับคดีนายวรยุทธ ที่พบว่ามีตำรวจ 21 นายเข้าไปเกี่ยวข้อง โดย 11 นายถูกส่งเรื่องไปดำเนินการต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วตั้งแต่ปี 2559

02102563boss02