‘ศาลฎีกา’ พิพากษายกฟ้อง คดี ‘กลุ่มคิงเพาเวอร์’ ฟ้อง ‘ชาญชัย’ เรียกค่าเสียหายทางละเมิดกว่า 720 ล้าน กรณีให้สัมภาษณ์พาดพิงกลุ่มคิงเพาเวอร์ พร้อมสั่ง 'โจทก์' ชดใช้ค่าทนาย 5 แสนบาท
....................................
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีแพ่งที่ 4547/2565 ซึ่งเป็นคดีที่กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะอนุกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 720 ล้านบาท กรณีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสัญญาร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.
โดยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องนายชาญชัย โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องในส่วนคดีอาญา ที่นายชาญชัยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำสัญญาดิวตี้ฟรี ระหว่างกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ว่า ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ข้อเท็จจริงในส่วนแพ่ง จึงต้องรับฟังตามคดีอาญาว่า ไม่เป็นละเมิด จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
ทั้งนี้ ศาลฎีกายังพิพากษาให้กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ชดใช้ค่าขึ้นศาลแทนนายชาญชัย ทั้ง 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยกำหนดให้ชดใช้ค่าทนายความแก่นายชาญชัยเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท
“ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์ทั้งสามเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ตามหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 ตามลำดับ โจทก์ที่ 1 (บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมือง มีร้านค้าตั้งอยู่ที่ซอยรางน้ำกรุงเทพมหานคร
โจทก์ที่ 2 (บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด) ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานภูมิภาค โจทก์ที่ 3 (บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด) ประกอบธุรกิจโครงการบริหารจัดการกิจการเชิงพาณิชย์ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จำเลยที่ 1 (นายชาญชัย) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามประกาศคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เอกสารหมาย จ.7
ฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.4 ที่ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 จำเลยที่ 1 แถลงข่าวหรือป่าวประกาศหรือให้สัมภาษณ์ เผยแพร่ออกไปโดยจงใจกล่าวหรือไขข่าวให้แพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง ใส่ความหมิ่นประมาทและกระทำ ละเมิดต่อโจทก์ที่ 2 และที่ 3 นั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความอันผ่าฝืนต่อความจริง ทำให้เสียหายแก่ชื่อเสียง หรือทางทำมาหาได้หรือทางเจริญของโจทก์ที่ 2 และที่ 3 เมื่อโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ไม่ฎีกา ฟ้องในข้อนี้จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ตามฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.1 ข้อ 2.2 ข้อ 2.3 และข้อ 2.ถ เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งสามหรือไม่ ปรากฎข้อเท็จจริงว่า มูลคดีเดียวกันนี้ โจทก์ทั้งสามกับพวกยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 ในคดีนี้เป็นจำเลย เรื่อง หมิ่นประมาท ลหุโทษ ต่อศาลอาญารวมแปดสำนวน ซึ่งศาลมีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาคดีเข้าด้วยกัน
ฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.1 ระบุว่า จำเลยที่ 1 แถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 มีเนื้อหาและวันเวลาเกิดเหตุตรงกับคดีอาญาในสำนวนที่ 1 ฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.3 ระบุว่าจำเลยที่ 1 แถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2559 มีเนื้อหาและวันเวลาเกิดเหตุตรงกับคดีอาญาในสำนวนที่ 2
ฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.5 ระบุว่า จำเลยที่ 1 แถลงข่าวระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2560 มีเนื้อหาตรงกับคดีอาญาในสำนวนที่ 3 ในส่วนที่ระบุว่า จำเลยที่ 1 แถลงข่าวระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2560 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2560
และฟ้องโจทก์ทั้งสามในข้อ 2.2 ระบุว่าจำเลยที่ 1 แถลงข่าวระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2559 กล่าวถึงการขายสินค้าปลอดอากรที่ซอยรางน้ำแล้วไปรับสินค้าที่สนามบิน โดยไม่จ่ายส่วนแบ่ง 15 เปอร์เซ็นต์ตามสัญญา เป็นการผูกขาดและไม่มีใครแข่งขันได้ ก็มีเนื้อหาตรงกับคดีอาญาในสำนวนที่ 1
คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาแล้วว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 3694 ถึง 3701/2565 ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยอย่างเดียวกันว่าจำเลยที่ 1 แถลงข่าวใส่ความโจทก์ทั้งสามต่อผู้อื่นอันฝ่าฝืนต่อความจริงหรือไม่
ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 คดีนี้จึงต้องรับฟังว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ทั้งสาม ที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ให้โจทก์ทั้งสามใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนจำเลยที่ 1 โดยกำหนดค่าทนายความรวม 500,000 บาท” คำพิพากษาศาลฎีกา ความแพ่งที่ 4547/2565 ลงวันที่ 22 พ.ย.2565 ระบุ
นายชาญชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ต่อสู้ในคดีเกี่ยวกับสัญญาดิวตี้ฟรี โดยต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมาเป็นเวลา 6 ปี จนกระทั่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีอาญา 2 คดี และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีแพ่ง 1 คดี รวม 10 สำนวนคดี โดยพิพากษายกฟ้องตนในทุกคดี อย่างไรก็ตาม เมื่อตนได้ส่งเนาคำพิพากษาไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ
"ผมได้ส่งสำเนาฎีกาอาญาไปให้พล.อ.ประยุทธ์ รมว.คลัง รมว.คมนาคม และคณะกรรมการ ทอท. ให้แก้ไขปัญหาที่ศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยถึงการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและสัญญา (ดิวตี้ฟรี) จนทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐที่ต้องสูญเสียเงินรายได้แผ่นดินที่ควรเข้ารัฐหลายหมื่นล้านบาทตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานราชการใดเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหานี้
ดังนั้น ผมจะดำเนินคดีอาญาและแพ่งกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ศาลลงโทษคนทำผิด และนำเงินรายได้แผ่นดินกลับคืนเข้ารัฐ ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของผมและทีมทนายความที่ร่วมต่อสู้ในเรื่องนี้ แต่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและส่วนรวมสาธารณะของชาติทั้งสิ้น” นายชาญชัยระบุ
อ่านประกอบ :
ไม่มีข้อความพาดพิง-แสดงความเห็นสุจริต! ศาลฎีกายกฟ้อง‘ชาญชัย’คดีหมิ่นประมาท‘คิงเพาเวอร์’
ไม่ใช่ผู้เสียหาย! 'ศาลอาญาคดีทุจริตฯ'ยกฟ้องคดี'ทอท.'แก้สัญญาดิวตี้ฟรี-'ชาญชัย'จ่ออุทธรณ์
พลิกคำแถลงฯ‘อัยการ’แก้ต่าง คดีฟ้อง‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี’มิชอบ ก่อนศาลฯนัดชี้มูล ก.พ.66
‘ศาลคดีทุจริตฯ’นัดชี้มูล คดี‘ทอท.’แก้สัญญา‘ดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์’ 28 ก.พ.ปีหน้า
ศาลคดีทุจริตฯ นัดสืบพยานปาก 'ผู้แทน สศค.' คดี 'ทอท.' แก้สัญญา' ดิวตี้ฟรี 7 ธ.ค.นี้
'ศาลคดีทุจริตฯ'นัด'พยานปากสุดท้าย'ไต่สวนมูลฟ้อง คดี'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี' ต.ค.นี้
ย้อนบันทึก'บอร์ด ทอท.' ต่อเวลาอุ้ม'สายการบิน-ดิวตี้ฟรี' พยุงรายได้ปี 65 แตะ 2 หมื่นล.
'ศาลคดีทุจริตฯ'แจ้ง'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ส่งผู้แทนเบิกความเป็นพยาน คดีแก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'
ศาลคดีทุจริตฯ เรียก 5 หน่วยงาน ให้ข้อเท็จจริง คดีฟ้อง'ทอท.'แก้สัญญา'ดิวตี้ฟรี'มิชอบ
เป็นอำนาจบอร์ด! 'ทอท.' ย้ำแก้สัญญา ‘ดิวตี้ฟรี’ ไม่เข้าข่ายพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ
‘สคร.กลับลำ! ร่อนหนังสือแจ้ง‘ทอท.’แก้สัญญาดิวตี้ฟรี ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.วินัยการเงินฯ
'ศาลอุทธรณ์' พิพากษากลับ ยกฟ้อง ‘ชาญชัย’ คดีหมิ่นประมาท ‘คิงเพาเวอร์’