พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ยะลา ปัตตานี ติดตามงานด้านการพัฒนาของ ศอ.บต. ยอมรับการขับเคลื่อนมีอุปสรรคจากปัญหาระบบราชการ กำชับทุกหน่วยช่วยประสานความร่วมมือเพื่อให้ประสบความสำเร็จ พร้อมสั่ง รมช.คลัง หาช่องทางช่วยโรงงานเฟอร์นิเจอร์ปัตตานีที่เตรียมย้ายฐานการลงทุน หลังเจอสารพัดปัญหา ลุยเร่งยกระดับโลจิสติกส์ ทั้งขนส่งทางราง และก่อสร้างท่าเรือ
วันเสาร์ที่ 17 ต.ค.63 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชายแดนใต้ ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าตัวได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามที่นายกฯประกาศ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ไปกันแบบเป็นคณะ นอกจาก พล.อ.ประวิตร แล้ว ยังมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และ พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
จุดหมายปลายทางของคณะ พล.อ.ประวิตร คือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ที่ อ.เมืองยะลา เพื่อตรวจและติดตามงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบความก้าวหน้า ปัญหา และอุปสรรคการทำงานต่างๆ ของหน่วยงานในพื้นที่ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ให้การต้อนรับ กล่าวรายงาน พร้อมเสนอวาระพิเศษการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพแม่และเด็กในพื้นที่ด้วย
ขณะที่ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้บรรยายสรุปการรักษาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบาย และเยี่ยมชมนิทรรศการซึ่งเป็นผลจากการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาในพื้นที่ ตลอดจนพบปะเครือข่ายภาคประชาชน เสร็จแล้วจึงเดินทางต่อไปร่วมทอดกฐินสามัคคี และเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารและสถูปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด ที่วัดราษฏร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ยอมรับงานพัฒนามีอุปสรรคจากระบบราชการ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากการตรวจและติดตามงานมีความพอใจในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ เพราะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับทราบงานจากนโยบายของรัฐบาลที่นำไปปฏิบัติในพื้นที่จนเกิดผลสำเร็จหลายโครงการ สามารถสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนได้เป็นอย่างมาก อย่างเช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ศอ.บต.ได้ร่วมกับส่วนราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำนโยบายสู่การปฏิบัติ ผ่านโครงการต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ได้แก่ โครงการปลูกพืชเศรษฐกิจร่วมกับแปลงเกษตรเดิม ส่งเสริมการปลูกไผ่ ปลูกไม้เศรษฐกิจตามมติคณะรัฐมนตรี ปลูกพืชกาแฟ พืชอัตลักษณ์ งานปศุสัตว์ที่สำคัญในพื้นที่ ยกระดับจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น "เมืองปูทะเลโลก" ให้ได้จริง รวมทั้งวางแผนและประสานแผนร่วมกับภาคเอกชนที่ประสงค์จะลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการสร้างงาน สร้างรายได้ และการใช้ผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
แต่ยอมรับว่าการทำงานบางเรื่องยังมีปัญหาและอุปสรรคจากการประสานงานระหว่างส่วนราชการในพื้นที่และราชการส่วนกลาง หลังจากนี้จะได้มีการนำประเด็นปัญหาและอุปสรรคไปหารือในคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต.มากขึ้น เพื่อให้การพัฒนาเดินหน้าต่อไปได้ เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมิติของความมั่นคง จำเป็นจะต้องมีระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อการพัฒนามากเป็นพิเศษ
สั่งเร่งยกระดับโลจิสติกส์ "ขนส่งทางราง-ก่อสร้างท่าเรือ"
นอกจากนี้ ยังจะได้มีการเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ เช่น การปรับพื้นที่สถานีรถไฟในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นสถานีเพื่อการขนส่งสินค้า พร้อมกับการจัดรถไฟขนส่งเพื่อบริการด้านการขนส่งแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกระดับ, การเร่งรัดก่อสร้างท่าเรือขนส่งตามแผนของรัฐบาล เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในระดับอนุภูมิภาค เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ
ที่สำคัญคือการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ทั้งในพื้นที่ของรัฐและที่ไม่ใช่ของรัฐ ซึ่งเป็นปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมากว่าครึ่งศตวรรษ โดยจะดำเนินการตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2565 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเร่งดำเนินการให้เสร็จ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดินทำกินให้มากที่สุด
เร่งรัดแก้ปัญหาสาธารณสุข-คุณภาพชีวิตเด็กกำพร้า
พล.อ.ประวิตร บอกด้วยว่า รัฐบาลได้เร่งรัดงานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในพื้นที่ ด้วยการขยายการเข้าถึงวัคชีน และจัดการภาวะทุพโภชนา (ภาวะขาดสารอาหาร) ในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก รวมทั้งโรคติดต่ออื่นๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนเชื่อมโยงมาจากสภาพศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง
ขณะเดียวกันก็ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตของเด็กกำพร้า เพื่อให้ได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกับเด็กในครอบครัวปกติ ต้องมีคุณภาพชีวิต จิตใจ และจิตวิญญาณ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้
สั่ง รมช.คลัง หาแนวทางช่วยเหลือโรงงานเฟอร์นิเจอร์ฯ
นายชนธัญ แสงพุ่ม หรือ "ดร.เจ๋ง" รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวเสริมว่า รองนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันผลักดันแก้ไขปัญหาและอุปสรรค กรณีที่ ศอ.บต.ในฐานะที่เป็นหน่วยประสานงานได้ประสานไปแล้ว อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณหรือระเบียบกฎหมาย ทำให้บางเรื่องอาจจะทำได้ แต่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งรองนายกฯก็มีนโยบายว่าเรื่องที่อยากให้ทำได้เร็ว ก็ขอให้ ศอ.บต.ผลักดันกันขึ้นไปตามลำดับอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งพิจารณา
"ตรงส่วนนี้จะเร็วหรือไม่เร็วอยู่ที่การสั่งการ ซึ่งท่านรองนายกฯก็ได้สั่งการให้ทางจังหวัดต้องร่วมมือสนับสนุนด้วย เพราะว่าท่านได้เน้นย้ำการพัฒนาทั้งหมดให้กับประชาชน ท่านสั่ง 2 เรื่อง คือทำให้ดีที่สุดและทำให้เร็วที่สุด" ดร.เจ๋ง กล่าว
ในส่วนของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ บริษัท ซูเพิร์บ ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาลงทุนตั้งโรงงานใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่เดินเครื่องผลิตได้เพียงปีเดียวก็เตรียมย้ายฐาน เพราะมีปัญหาค่าขนส่งแพง และไมได้รับการชดเชย อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องผังเมืองของที่ดินที่จะก่อสร้างโรงงานเป็น "สีเขียว" หรือพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้ตั้งโรงงานไม่ได้นั้น
รองเลขาธิการ ศอ.บต. บอกว่า รองนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทางกระทรวงการคลัง โดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาหาแนวทางแก้ไข และจะนำข้อเสนอรายงานต่อ พล.อ.ประวิตร ในวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุม กพต.นัดต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
เปิดเอกสาร ศอ.บต.ถึง"ประยุทธ์" บทพิสูจน์ลอยแพ รง.เฟอร์ฯหมื่นล้าน?
"สุเมธ vs ดร.เจ๋ง" โรงงานเฟอร์ฯ(ใกล้)เจ๊ง...ใครรับผิดชอบ
"ดร.เจ๋ง" ขอ 3 เดือนจบปัญหา ดึงการรถไฟฯช่วยลดราคาค่าขนส่ง รง.เฟอร์ฯ
ลูกจ้าง รง.เฟอร์ฯเสียใจย้ายฐานผลิตพ้นปัตตานี เปรยไม่มีบริษัทไหนดีเท่านี้อีกแล้ว
แกะรอย "ที่ดินร้อยล้าน" อีกหนึ่งปมเหตุ รง.เฟอร์ฯ ย้ายฐานพ้นปัตตานี