‘อธิบดีดีเอสไอ'ทำความเห็นแย้ง ยืนยันต้องฟ้อง 42 ผู้ต้องหา คดีปั่นหุ้น MORE หลัง ‘อัยการ' สั่งไม่ฟ้อง 8 ราย
แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีสร้างราคาหรือปั่นหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ประมาณ 7-8 ราย จากผู้ต้องหาทั้งหมด 42 ราย หลังจากก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด และต่อมาในวันที่ 7 พ.ค.2567 นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ที่มีนายนิรันดร์ นันตาลิต อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ เพื่อพิจารณาว่าจะมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่
ทั้งนี้ ในการพิจารณาสำนวนฯของคณะทำงานฯ นั้น คณะทำงานฯใช้เวลาพิจารณาสำนวนฯ หลายเดือน จนกระทั่งในช่วงปลายเดือน ก.ย.2567 คณะทำงานฯ ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 7-8 ราย จากผู้ต้องหาทั้งหมด 42 ราย ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่นายวิรุฬจะเกษียณอายุราชการ
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ได้ทำความเห็นแย้งเพื่อยืนยันความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 42 ราย ต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ไปแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว สำนักงานชี้ขาดคดี จะทำความเห็นและส่งให้ อสส. มีความเห็น ว่าสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป
ด้าน พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า ได้ทำความเห็นแย้งยื่นต่อ อสส. แล้ว คาดว่าอยู่ระหว่างการ พิจารณา ซึ่ง อสส. อาจมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 42 ราย ตามที่ดีเอสไอ มีความเห็นแย้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 สำนักงานอัยการคดีพิเศษได้รับสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 66/2566 คดีระหว่าง ก.ล.ต. โดย นางวิไลลักษณ์ เจนอนันต์พร ผู้รับมอบอำนาจ กับพวกรวม 12 ราย ผู้กล่าวหา กับนายอภิมุข บำรุงวงศ์ กับพวกรวม 42 คน ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และมีลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ร่วมกันฉ้อโกง, เป็นอั้งยี่ และซ่องโจร ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 244/3 และมาตรา 244/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบ มาตรา 83 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210 และมีการรับตัวผู้ต้องหาจนครบเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดในคดีนี้ กล่าวคือ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในลักษณะของการแบ่งหน้าที่กันทำกับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ต้องหารายอื่นๆ ในการซื้อขายผลักดันราคาอย่างต่อเนื่อง โดยส่งคำสั่งซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดในขณะนั้น ทำให้ราคาหลักทรัพย์ MORE ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้ผู้ต้องหาอื่นๆ สลับเข้ามาทยอยขายทำกำไรเป็นระยะๆ
มีการส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อให้เกิดการจับคู่ซื้อขายกันเองภายในกลุ่ม อันมีลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด อันเป็นการทำให้นักลงทุนรายอื่นหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์
โดยเฉพาะการที่ผู้ต้องหาขายหลักทรัพย์ MORE ที่มีอยู่ทั้งหมดในบัญชี ผ่านบริษัท อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปริมาณจำนวนหุ้นรวม 6,500,000 หุ้น สั่งขายที่ราคา 2.90 บาท รวมมูลค่า 18,850,000 บาท และเกิดการจับคู่ซื้อขายกับคำสั่งซื้อขายของผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้ส่งคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า โดยเกิดการจับคู่ซื้อขายกันเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ซึ่งเป็นการส่งคำสั่งขายในช่วงระยะเวลาก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ เพื่อให้เกิดการจับคู่ซื้อขายทันทีเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ซึ่งผิดปกติวิสัยของนักลงทุนทั่วไป
จากพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาหรือบุคคลซึ่งทำการส่งคำสั่งขายหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ต้องหาล่วงรู้ถึงแผนการ ขั้นตอน วิธีการ และทราบข้อมูลเป็นอย่างดีว่าบัญชี ซื้อขายของผู้ต้องหาที่ 1 ทำการสั่งซื้อหุ้นไว้ล่วงหน้าเป็นปริมาณมาก และจะเกิดการจับคู่ซื้อขายกับคำสั่งขายของผู้ต้องหาทันทีเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ อันเป็นการส่งคำสั่งขายโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเองหรือบุคคลอื่นซึ่งร่วมกระทำการได้สั่งซื้อหลักทรัพย์เดียวกันในจำนวน ราคา และภายในเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้ได้ไปซึ่งผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงเป็นวงกว้าง
การกระทำของผู้ต้องหากับพวก จึงเป็นความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขาย และมีลักษณะต่อเนื่อง โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และการกระทำดังกล่าวยังเป็นการใช้กลอุบายหลอกลวงบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากบริษัทหลักทรัพย์อันเป็นการฉ้อโกงบริษัทหลักทรัพย์ โดยผู้ต้องหากับพวกมีการรวมกลุ่มพร้อมปกปิดวิธีดำเนินการ
โดยมุ่งหมายเพื่อก่อเหตุในการสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์และฉ้อโกง อีกทั้งยังเป็นการสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดดังกล่าวซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ หนึ่งปีขึ้นไป อันมีลักษณะเป็นอั้งยี่และซ่องโจร มูลค่าความเสียหาย 4,507.11 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 18 ราย ได้แก่ (1) นายอภิมุข บำรุงวงศ์ (2) นายเอกภัทร พรประภา (3) นายอธิภัทร พรประภา (4) นางอรพินธุ์ พรประภา (5) นายประยูร อัสสกาญจน์ (6) นายวสันต์ จาวลา (7) Mr. Shubhodeep Prasanta Das (8) บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด (9) บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด
(10) นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (11) นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ (12) นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (13) นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์ (14) นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ (15) นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล (16) นายมั่นคง เสถียรถิระกุล (17) นายโสภณ วราพร และ (18) นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทMORE
ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย.2566 ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการกระทำความผิดเพิ่มเติม ในกรณีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และพบข้อเท็จจริงรวมถึงพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้เชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ได้แก่ (1) นายอภิมุข บำรุงวงศ์ (2) นายเอกภัทร พรประภา (3) นายอธิภัทร พรประภา (4) นางอรพินธุ์ พรประภา (5) นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล (6) บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด (7) บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด
(8) นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (9) นายโสภณ วราพร (10) นายวสันต์ จาวลา (11) Mr. Shubhodeep Prasanta Das (12) นายประยูร อัสสกาญจน์ (13) นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ (14) นางสาวสุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ (15) นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (16) นางสาวอัยลดา ชินวัฒน์ (17) นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ (18) นายมั่นคง เสถียรถิระกุล (19) นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์ (20) นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช
(21) นางสาวสิริรัตน์ สมณาศรี (22) นายธีรพงศ์ ด่านวณิชวงศ์ (23) นายวิศรุต เจียมจิตพลชัย (24) นายปรณัฐ นุชาชาติพงศ์ (25) นายภูดิท สุจริตกุล (26) นายวัชรินทร์ ยังให้ผล (27) นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา (28) นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง (29) นายภัทร ฉัตรเจริญสุข (30) นายชยพล พันธุ์แพ (31) นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย และ (32) นางศศินภา วราพร ได้ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค.2565-10 พ.ย. 2565
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำความผิดกรณีสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของ MORE เพิ่มเติม 8 ราย ได้แก่ (1) นายไพศาล เกษมศิรินาวิน (2) นายปรีชา วสุโสภณ (3) นายปนิษฐ์ ศุภธาดารัตน์ (4) นายเทียนประเสริฐ พลอำไภ (5) นายวรวุฒิ ศรีโสภิต (6) นายพรเดช อุยะนันทน์ (7) นางสาวปารณีย์ ชวาลา และ (8) นายปภิณวิช รอดบางยาง ต่อ DSI
อ่านประกอบ :
‘พนักงานสอบสวนฯ’ส่ง‘สำนวนฯ-ผู้ต้องหา’ คดีร่วมกันปั่นหุ้น MORE ให้‘อัยการ’แล้ว
มีพยานหลักฐานสนับสนุน! ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้กระทำผิดเพิ่มอีก 8 ราย ร่วมกันปั่นหุ้น MORE
ตร.ออกหมายจับ'อภิมุข'คดีปั่นหุ้น MORE-3 แม่ลูก‘พรประภา’เข้าพบตำรวจ‘ปอศ.’รับทราบข้อหา
DSI คาดสรุปสำนวนคดี STARK ส่งอัยการสิ้นเดือนนี้-เรียก28‘ว่าที่ผู้ต้องหา’ให้การปมหุ้นMORE
DSI คาดสรุปสำนวนคดี STARK ส่งอัยการสิ้นเดือนนี้-เรียก28‘ว่าที่ผู้ต้องหา’ให้การปมหุ้นMORE
‘เลขาธิการ ก.ล.ต.’ เผย DSI จ่อชงนายกฯ เซ็นแต่งตั้งคณะทำงานร่วมฯ เอาผิดคดีปั่นหุ้น MORE
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘อภิมุข บำรุงวงศ์-พวก’รวม 32 ราย แบ่งหน้าที่ปั่นหุ้น MORE โกย 800 ล้าน
‘รมว.คลัง’สั่งเพิกถอนใบอนุญาต‘เอเชีย เวลท์’ เซ่นนำเงินลูกค้าจ่ายค่าหุ้น MORE แล้วไม่คืน
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘เอเชีย เวลท์’ต่อ‘บก.ปอศ.’ คดีนำสินทรัพย์ลูกค้าไปใช้ประโยชน์เพื่อบริษัท
‘ศาลแพ่ง’สั่งยึด-อายัดทรัพย์สิน คดีฉ้อโกงกรณีหุ้น MORE รวม 4.47 พันล้าน ไว้ชั่วคราว
เงินกองทุนฯต่ำเกณฑ์! 'ก.ล.ต.' สั่ง 'บล.เอเชีย เวลท์' ระงับการดำเนินธุรกิจทุกประเภท
‘ตลท.’คุ้ยหลักฐานสอบปั่นหุ้น MORE-แจงวิธีโอนหลักทรัพย์ หลัง‘ก.ล.ต.’สั่งปิด‘เอเชีย เวลท์’
ก.ล.ต.กล่าวโทษ ‘อภิมุข-คนตระกูลพรประภา-พวก’ รวม 18 ราย ต่อ ‘บก.ปอศ.’ คดีปั่นหุ้น MORE
‘ก.ล.ต.’ แจ้งความ ‘บก.ปอศ’ เอาผิด ‘กลุ่มบุคคล’ ปั่นหุ้น MORE
‘ปปง.’ส่ง‘อัยการ’ยื่นคำร้อง‘ศาล’สั่งให้ทรัพย์คดีฉ้อโกงหุ้น MORE 4.47 พันล.เป็นของแผ่นดิน
ออกหมายเรียกผู้ขายหุ้น MORE ให้ปากคำสัปดาห์หน้า-ตร.ชี้หลักฐานมีน้ำหนักแจ้งข้อหา‘เสี่ย ป.’
‘ตำรวจ’พบหลักฐานส่อปั่นหุ้น MORE ส่ง‘ก.ล.ต.’เอาผิด-จ่อออกหมายเรียก‘อภิมุข’ให้การรอบ 2
ปปง.อายัดทรัพย์สินคดีฉ้อโกงหุ้น MORE เพิ่มอีก 19 ล้าน
‘อธิบดีอัยการฯ’เช็นตั้ง‘คณะทำงาน’คดีปั่นหุ้นMORE-ศาลฯนัดไต่สวนริบทรัพย์ 4 พันล. ต.ค.นี้