‘ศาลแพ่ง’ มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน ‘คดีฉ้อโกง’ กรณีหุ้น MORE จำนวน 59 รายการ กว่า 4.47 พันล้านบาท หลัง ‘อัยการ’ ยื่นคำร้องฯ ระบุเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำผิด
....................................
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีคดีหลักทรัพย์ บมจ.มอร์ รีเทิร์น หรือ MORE จำนวน 59 รายการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,470.87 ล้านบาท พร้อมดอกผล ไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นผู้ดำเนินการยึดหรืออายัด เก็บรักษาทรัพย์สิน ตลอดจนแจ้งคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
สำหรับคดีนี้ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ได้รายงานคดีสำคัญต่ออัยการสูงสุด ให้ทราบว่า สำนักงานคดีพิเศษได้รับสำนวนคดีการตรวจสอบและการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกรณีคดี MORE จาก ปปง. เพื่อขอให้พนักงานอัยการรับดำเนินการและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาตกเป็นของแผ่นดิน
ต่อมาคณะทำงานสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 โดย น.ส.แววตา ธวัชไพบูลย์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว พิจารณาแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานที่ได้รวบรวมมานั้น ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดร่วมกันฟอกเงินอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) และความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
ประกอบกับทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง จำนวน 59 รายการ เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณะเป็นความผิด มูลฐานตามมาตรา 3 (18 ) ดังกล่าว และยังมิได้ดำเนินการตามกฎหมายอื่น ซึ่งหากดำเนินการตาม พ.ร.บ.นี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เสียหายและแผ่นดินมากกว่า ทั้งมีเหตุพอที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของผู้เสียหายได้
ต่อมาในวันนี้ (16 ก.พ.) อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 สำนักงานคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอศาลได้โปรดทำการไต่สวนและมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว ก่อนมีคำสั่งตามมาตรา 51, 55 และยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหากับพวก จำนวน 59 รายการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,470,877,185.15 บาท พร้อมดอกผลของ เงิน หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น และให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นผู้ดำเนินการยึดหรืออายัด เก็บรักษาทรัพย์สิน ตลอดจนแจ้งคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
อ่านประกอบ :
ก.ล.ต.กล่าวโทษ ‘อภิมุข-คนตระกูลพรประภา-พวก’ รวม 18 ราย ต่อ ‘บก.ปอศ.’ คดีปั่นหุ้น MORE
‘ก.ล.ต.’ แจ้งความ ‘บก.ปอศ’ เอาผิด ‘กลุ่มบุคคล’ ปั่นหุ้น MORE
‘ปปง.’ส่ง‘อัยการ’ยื่นคำร้อง‘ศาล’สั่งให้ทรัพย์คดีฉ้อโกงหุ้น MORE 4.47 พันล.เป็นของแผ่นดิน
ออกหมายเรียกผู้ขายหุ้น MORE ให้ปากคำสัปดาห์หน้า-ตร.ชี้หลักฐานมีน้ำหนักแจ้งข้อหา‘เสี่ย ป.’
‘ตำรวจ’พบหลักฐานส่อปั่นหุ้น MORE ส่ง‘ก.ล.ต.’เอาผิด-จ่อออกหมายเรียก‘อภิมุข’ให้การรอบ 2
ปปง.อายัดทรัพย์สินคดีฉ้อโกงหุ้น MORE เพิ่มอีก 19 ล้าน