‘อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ’ เช็นคำสั่งแต่งตั้ง ‘คณะทำงานฯ’ คดีปั่นหุ้น MORE แล้ว หลังรับสำนวนคดีจาก ‘ดีเอสไอ’ ขณะที่ 'ศาลแพ่ง' นัดไต่สวนฯ ริบทรัพย์ 4.4 พันล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน ต.ค.67
.............................
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งสำนักงานคดีพิเศษ แต่งตั้งคณะทำงานคดีสำคัญในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นคดีระหว่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กับพวกรวม 12 คน ผู้กล่าวหา กับนายอภิมุข บำรุงวงศ์ กับพวกรวม 42 คน
ในข้อหาร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และมีลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อขาย หลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด, ร่วมกันฉ้อโกง, เป็นอั้งยี่ และช่องโจร ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตรา 244/3 และมาตรา 244/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210
สำหรับรายชื่อของพนักงานอัยการที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานฯ ในคดีหลักทรัพย์ MORE ดังกล่าว ประกอบด้วย นายนิรันดร์ นันตาลิต อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ ,นายนราธิป ธารากรสันติ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นรองหัวหน้าคณะทำงานฯ ,นายณัฏฐ์ศาสน์ สิทธิชัย อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นคณะทำงาน ,นายเทพประทานพร ทองคลัง อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน
นายศุภเศรษฐ์ คงแข็ง อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานเเละเจ้าขอสำนวนร่วม ,นายพงศ์ธรย์ ศิริรัตน์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเจ้าของสำนวน ,นายสมุทร ลีพชรสกุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าคณะทำงานฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการคดีพิเศษได้รับสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 66/2566 คดีระหว่าง ก.ล.ต. โดย นางวิไลลักษณ์ เจนอนันต์พร ผู้รับมอบอำนาจ กับพวกรวม 12 ราย ผู้กล่าวหา กับ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ กับพวกรวม 42 คน ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE และมีลักษณะต่อเนื่องกันโดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ร่วมกันฉ้อโกง, เป็นอั้งยี่ และซ่องโจร ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 244/3 และมาตรา 244/5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบ มาตรา 83 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 และมาตรา 210 และมีการรับตัวผู้ต้องหาจนครบเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยพฤติการณ์ในการกระทำความผิดในคดีนี้ กล่าวคือ ผู้ต้องหามีพฤติกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ในลักษณะของการแบ่งหน้าที่กันทำกับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ต้องหารายอื่นๆ ในการซื้อขายผลักดันราคาอย่างต่อเนื่อง โดยส่งคำสั่งซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดในขณะนั้น ทำให้ราคาหลักทรัพย์ MORE ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้ผู้ต้องหาอื่นๆ สลับเข้ามาทยอยขายทำกำไรเป็นระยะๆ
มีการส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อให้เกิดการจับคู่ซื้อขายกันเองภายในกลุ่ม อันมีลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MORE ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด อันเป็นการทำให้นักลงทุนรายอื่นหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์
โดยเฉพาะการที่ผู้ต้องหาขายหลักทรัพย์ MORE ที่มีอยู่ทั้งหมดในบัญชี ผ่านบริษัท อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปริมาณจำนวนหุ้นรวม 6,500,000 หุ้น สั่งขายที่ราคา 2.90 บาท รวมมูลค่า 18,850,000 บาท และเกิดการจับคู่ซื้อขายกับคำสั่งซื้อขายของผู้ต้องหาที่ 1 ที่ได้ส่งคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้า โดยเกิดการจับคู่ซื้อขายกันเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ซึ่งเป็นการส่งคำสั่งขายในช่วงระยะเวลาก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ เพื่อให้เกิดการจับคู่ซื้อขายทันทีเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ ซึ่งผิดปกติวิสัยของนักลงทุนทั่วไป
จากพฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาหรือบุคคลซึ่งทำการส่งคำสั่งขายหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ต้องหาล่วงรู้ถึงแผนการ ขั้นตอน วิธีการ และทราบข้อมูลเป็นอย่างดีว่าบัญชี ซื้อขายของผู้ต้องหาที่ 1 ทำการสั่งซื้อหุ้นไว้ล่วงหน้าเป็นปริมาณมาก และจะเกิดการจับคู่ซื้อขายกับคำสั่งขายของผู้ต้องหาทันทีเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ อันเป็นการส่งคำสั่งขายโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเองหรือบุคคลอื่นซึ่งร่วมกระทำการได้สั่งซื้อหลักทรัพย์เดียวกันในจำนวน ราคา และภายในเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อให้ได้ไปซึ่งผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงเป็นวงกว้าง
การกระทำของผู้ต้องหากับพวก จึงเป็นความผิดฐาน ร่วมกันกระทำการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขาย และมีลักษณะต่อเนื่อง โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และการกระทำดังกล่าวยังเป็นการใช้กลอุบายหลอกลวงบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากบริษัทหลักทรัพย์อันเป็นการฉ้อโกงบริษัทหลักทรัพย์ โดยผู้ต้องหากับพวกมีการรวมกลุ่มพร้อมปกปิดวิธีดำเนินการ
โดยมุ่งหมายเพื่อก่อเหตุในการสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์และฉ้อโกง อีกทั้งยังเป็นการสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดดังกล่าวซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ หนึ่งปีขึ้นไป อันมีลักษณะเป็นอั้งยี่และซ่องโจรมูลค่าความเสียหาย 4,507.11 ล้านบาท คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ สื่อมวลชนเสนอเป็นข่าวใหญ่ และเป็นคดีนโยบายของรัฐ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับคดีนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ช.) ได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลฯสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายนายอภิมุข บำรุงวงศ์ กับพวกตกเป็นของแผ่นดิน รวม 59 รายการ รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4,470.87 ล้านบาท โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 ได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 ซึ่งศาลฯได้นัดสืบพยานในวันที่ 22 ต.ค.2567
อ่านประกอบ :
‘พนักงานสอบสวนฯ’ส่ง‘สำนวนฯ-ผู้ต้องหา’ คดีร่วมกันปั่นหุ้น MORE ให้‘อัยการ’แล้ว
มีพยานหลักฐานสนับสนุน! ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้กระทำผิดเพิ่มอีก 8 ราย ร่วมกันปั่นหุ้น MORE
ตร.ออกหมายจับ'อภิมุข'คดีปั่นหุ้น MORE-3 แม่ลูก‘พรประภา’เข้าพบตำรวจ‘ปอศ.’รับทราบข้อหา
DSI คาดสรุปสำนวนคดี STARK ส่งอัยการสิ้นเดือนนี้-เรียก28‘ว่าที่ผู้ต้องหา’ให้การปมหุ้นMORE
DSI คาดสรุปสำนวนคดี STARK ส่งอัยการสิ้นเดือนนี้-เรียก28‘ว่าที่ผู้ต้องหา’ให้การปมหุ้นMORE
‘เลขาธิการ ก.ล.ต.’ เผย DSI จ่อชงนายกฯ เซ็นแต่งตั้งคณะทำงานร่วมฯ เอาผิดคดีปั่นหุ้น MORE
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘อภิมุข บำรุงวงศ์-พวก’รวม 32 ราย แบ่งหน้าที่ปั่นหุ้น MORE โกย 800 ล้าน
‘รมว.คลัง’สั่งเพิกถอนใบอนุญาต‘เอเชีย เวลท์’ เซ่นนำเงินลูกค้าจ่ายค่าหุ้น MORE แล้วไม่คืน
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘เอเชีย เวลท์’ต่อ‘บก.ปอศ.’ คดีนำสินทรัพย์ลูกค้าไปใช้ประโยชน์เพื่อบริษัท
‘ศาลแพ่ง’สั่งยึด-อายัดทรัพย์สิน คดีฉ้อโกงกรณีหุ้น MORE รวม 4.47 พันล้าน ไว้ชั่วคราว
เงินกองทุนฯต่ำเกณฑ์! 'ก.ล.ต.' สั่ง 'บล.เอเชีย เวลท์' ระงับการดำเนินธุรกิจทุกประเภท
‘ตลท.’คุ้ยหลักฐานสอบปั่นหุ้น MORE-แจงวิธีโอนหลักทรัพย์ หลัง‘ก.ล.ต.’สั่งปิด‘เอเชีย เวลท์’
ก.ล.ต.กล่าวโทษ ‘อภิมุข-คนตระกูลพรประภา-พวก’ รวม 18 ราย ต่อ ‘บก.ปอศ.’ คดีปั่นหุ้น MORE
‘ก.ล.ต.’ แจ้งความ ‘บก.ปอศ’ เอาผิด ‘กลุ่มบุคคล’ ปั่นหุ้น MORE
‘ปปง.’ส่ง‘อัยการ’ยื่นคำร้อง‘ศาล’สั่งให้ทรัพย์คดีฉ้อโกงหุ้น MORE 4.47 พันล.เป็นของแผ่นดิน
ออกหมายเรียกผู้ขายหุ้น MORE ให้ปากคำสัปดาห์หน้า-ตร.ชี้หลักฐานมีน้ำหนักแจ้งข้อหา‘เสี่ย ป.’
‘ตำรวจ’พบหลักฐานส่อปั่นหุ้น MORE ส่ง‘ก.ล.ต.’เอาผิด-จ่อออกหมายเรียก‘อภิมุข’ให้การรอบ 2