‘ตลาดหลักทรัพย์ฯ’ ลุยเก็บข้อมูลสอบปั่นหุ้น MORE ก่อนส่งให้ ‘ก.ล.ต.’ ประสาน ‘ตร.-ปปง.’ สอบเส้นทางเงิน-ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกรรม พร้อมแจงแนวทางโอนหลักทรัพย์ลูกค้า หลัง ‘เอเชีย เวลท์’ ถูกสั่งหยุดประกอบธุรกิจชั่วคราว
...................................
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แจ้งว่าให้ได้สั่งให้ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด หรือ AWS หยุดการประกอบธุรกิจเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบว่าบริษัทนำเงินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอม นั้น
จากคำสั่งของ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งระงับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จาก AWS เป็นการชั่วคราว ในส่วนของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าก็จะอนุญาตให้เฉพาะคำสั่งซื้อขายที่เป็นการล้างสถานะที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ จนกว่าสำนักงาน ก.ล.ต. จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ในส่วนของหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นกับ AWS ได้ แต่ผู้ลงทุนสามารถขอโอนหุ้นที่ฝากกับ AWS ไปฝากยังบัญชีของตนที่เปิดกับโบรกเกอร์อื่นเพื่อซื้อขายต่อได้ กรณีไม่มีบัญชีที่โบรกเกอร์อื่นสามารถโอนเข้าบัญชี Issuer Account (600) ที่ TSD ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเมื่อเปิดบัญชีที่บริษัทหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้วก็สามารถที่จะโอนหุ้นจาก ‘บัญชี 600’ ไปบริษัทหลักทรัพย์อื่นและซื้อขายต่อไปได้
สำหรับในส่วนของอนุพันธ์ ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อปิดสถานะได้เท่านั้น ไม่สามารถเปิดสถานะได้ หากลูกค้าปิดสถานะแล้ว ลูกค้าก็สามารถที่จะขอถอนหลักประกันออกไปได้ตามปกติ กรณีลูกค้าไม่ประสงค์จะปิดสถานะแต่ต้องการโอนไปซื้อขายต่อที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ตนมีบัญชีอยู่ก็สามารถแจ้งต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้เช่นกัน
“เหตุการณ์นี้ เป็นเหตุเฉพาะรายบริษัทหลักทรัพย์ AWS เท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่น ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์อื่นยังให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ มีการติดตามฐานะการเงินของบริษัทหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด” นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวว่า ตลท.ไม่ทราบว่า AWS นำเงินของลูกค้าไปทำอะไร และคงต้องไปสอบถามกับทาง AWS ว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ AWS ทำอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ก.ล.ต.จะเป็นผู้ที่ทราบเรื่องราวตรงนี้มากที่สุด จึงอยากให้ไปสอบถามทาง ก.ล.ต. ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า AWS นำเงินของลูกค้าไปจ่ายค่าหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของแต่ละบริษัท
ส่วนความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ที่มีความผิดปกติ นั้น นายภากร กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบกรณีฉ้อโกง ซึ่งมีโบรกเกอร์เป็นผู้ได้รับความเสียหายนั้น ทาง ตลท.เองได้ทำงานร่วมกับตำรวจ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ (18 พ.ย.) ตลท.จะส่งข้อมูลหรือหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับตำรวจ หลังจากก่อนหน้านี้ตำรวจได้ประสานขอข้อมูลดังกล่าวมา
ขณะที่การตรวจสอบกรณีการปั่นหุ้น MORE นั้น ตลท. กำลังทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. โดยขณะนี้ ตลท.อยู่ในขั้นตอนเก็บข้อมูล และจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้ ก.ล.ต.ได้ดำเนินการต่อได้ ซึ่งในส่วนนี้ทางตำรวจ และปปง. ได้ให้ความช่วยเหลือ ตลท.ในเรื่องการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างธุรกรรมต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ในกรณีที่มีการฟ้องร้องการปั่นหุ้น
“เราต้องจับให้ได้ก่อนว่าใครโกง ใครฉ้อโกง ใครปั่นหุ้น ส่วนที่สอง มีใครบ้างไหมที่ทำอะไรไม่ถูกต้องในช่วงปัจจุบัน แล้วในอนาคตเราจะป้องกันสิ่งดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นได้อีกอย่างไรบ้าง ตอนนี้พวกเราทุกฝ่ายกำลังช่วยกันแก้ปัญหา และป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้ง่ายเหมือนอย่างในปัจจุบัน” นายภากร กล่าว
ด้าน นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า อยากให้นักลงทุนเข้าใจว่า ทรัพย์สินที่ลูกค้าฝากไว้กับบริษัทหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือหลักทรัพย์ ปกติแล้วจะมีการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับตลอดเวลาว่ามีการดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งกรณี AWS ดังกล่าว เป็นกรณีเฉพาะของบริษัทเอง ซึ่งนักลงทุนต้องไปติดต่อกับ AWS เพื่อโอนย้ายทรัพย์สินออกไปบัญชีกลาง หรือ ‘บัญชี 600’ หรือบัญชีที่มีกับโบรกเกอร์อื่นๆ เพราะไม่สามารถส่งคำสั่งจาก AWS ได้แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. โดยมติคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ได้มีคำสั่งให้บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระงับการประกอบธุรกิจเป็นการชั่วคราว เนื่องจากตรวจพบว่า บริษัทฯมีการนำเงินของลูกค้าที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอมให้ดำเนินการดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 157.99 ล้านบาท
สำหรับเอกสารข่าวของ ก.ล.ต. ระบุว่า ตามที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด แจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. ตรวจพบว่า บริษัทมีการนำเงินของลูกค้าที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไปชำระเป็นค่าซื้อหลักทรัพย์กับสำนักหักบัญชี โดยลูกค้าไม่ได้มีคำสั่งหรือยินยอมให้ดำเนินการดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 157.99 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินงานในลักษณะนี้อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทรัพย์สินของลูกค้าของบริษัท
คณะกรรมการกำกับตลาดทุน (ก.ต.ท.) ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 เห็นว่าการดำเนินงานของบริษัทอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์ของประชาชนได้ จึงมีมติโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 143 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) นำเงินของลูกค้าที่บริษัทนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุญาต มาคืนภายในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565
(2) ระงับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว เว้นแต่เป็นการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงโดยรวมในเงินลงทุนของบริษัทหรือการดำเนินการตามภาระผูกพันที่ค้างอยู่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะนำเงินลูกค้ามาคืน และได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ประกอบธุรกิจได้ตามปกติ
(3) จัดให้มีระบบงานในการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ภายในวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565
(4) อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าที่มีอยู่กับบริษัทได้ตามความประสงค์ของลูกค้า ภายในระยะเวลาที่ตกลงกับลูกค้า
สำหรับธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก.ล.ต. โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 ได้สั่งการให้บริษัทงดการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2565 ด้วย เว้นแต่เป็นการซื้อขายเพื่อล้างฐานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีฐานะอยู่เดิม จนกว่าบริษัทจะนำเงินลูกค้ามาคืน และได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้ประกอบธุรกิจได้ตามปกติ รวมทั้งให้บริษัทดำเนินการตามข้อ (1) (3) และ (4)
อ่านประกอบ :
'บช.ก.-ปอศ.'หารือ'ก.ล.ต.'ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-จ่อเรียก'เสี่ย ม.-เสี่ย ป.'ให้ปากคำ
ระงับโอนธุรกรรมน่าสงสัย! 'ตลท.'สอบสายสัมพันธ์หุ้น MORE ย้อนหลัง-โบรกฯร้องเสียหาย 4 พันล.
‘ตลท.’ ประสานตำรวจ ‘ปอศ.’ เร่งสืบสวนหาผู้กระทำผิด ปมซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ
‘ตลท.’ เดินหน้าตรวจสอบกรณีซื้อขายหุ้น MORE ผิดปกติ-ยันไม่กระทบเสถียรภาพตลาด