นายกฯสั่งศึกษาตั้ง ‘กองเรือพาณิชย์ไทย’ หวังลดต้นทุนขนส่งสินค้าไทย ด้าน ‘สุริยะ’ แจ้งขอชะลอโครงการ ‘รถเก่าแลกรถใหม่’ ระบุมีรายละเอียดต้องศึกษาอีกมาก ขณะที่ ครม. อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้ข้าวเป็น 4.68 หมื่นล้านบาท เพิ่มวงเงินชดเชยส่วนต่างราคากว่า 4.57 หมื่นล้านบาท
................
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ (1 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งกองเรือพาณิชย์ของประเทศไทย เพราะหากไทยมีกองเรือพาณิชย์สำหรับใช้ขนส่งสินค้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ต่างๆไปยังตลาดโลก ก็จะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์และลดต้นทุนสินค้า ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันกับประเทศต่างๆได้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังสั่งการให้ทุกกระทรวงไปพิจารณาว่ามีโครงการอะไรบ้างที่คิดว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนบ้าง และให้นำเสนอที่ประชุมครม.ครั้งหน้า
นอกจากนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ชี้แจงในที่ประชุมครม. โดยระบุว่า กระทรวงฯขอชะลอโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ออกไปก่อน เนื่องจากมีรายละเอียดที่ต้องจัดทำค่อนข้างมาก เช่น รถที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นแบบใด จำนวนรถที่จะเข้าโครงการจะมีเป็นเท่าไหร่ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างไร รวมทั้งจะต้องปรึกษากับผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง ก่อน
“รมว.อุตสาหกรรม ขอชะลอโครงการออกไปก่อน จนกว่าจะมีการสรุปรายละเอียดและพูดคุยถึงผลกระทบทั้งหมดก่อน จึงอยากให้ประชาชนที่จะไปร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายรถยนต์ไม่ต้องรอ เพราะโครงการนี้จะไม่ออกมาในระยะอันใกล้แน่นอน” นายอนุชากล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบมีการปรับปรุงรายละเอียด 'โครงการคนละครึ่ง' โดยให้ขยายขอบเขตประเภทร้านค้าให้รวมถึงร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพ.ร.บ.กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 หรือวิสาหกิจชุมชนตามพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อครอบคลุมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และร้านค้าชุมชน ซึ่งจะส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายไปยังชุมชนเพิ่มขึ้น
ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุม ครม. ว่า ครม.มีมติเห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 เป็นวงเงิน 46,807 ล้านบาท จากเดิมที่ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ย. มีมติอนุมัติกรอบวงเงินไว้ที่ 18,096 ล้านบาท หรือมีกรอบวงเงินเพิ่มขึ้น 28,711 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายชดเชยส่วนต่างประกันรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
“เนื่องจากวงเงินที่ครม.อนุมัติไว้เดิมไม่ครบถ้วนเพียงพอกับการจ่ายเงินชดเชยงวดต่อๆไป และจ่ายได้ครบถ้วนทั้งโครงการ ครม.จึงอนุมัติขยายกรอบวงเงินให้ ดังนั้น ขอให้เกษตรกรที่มีสิทธิ์และขึ้นทะเบียนถูกต้องสบายใจได้ว่าจะได้รับเงินชดเชยจากโครงการประกันรายได้อย่างแน่นอน” น.ส.รัชดากล่าว
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ณ วันที่ 26 พ.ย.2563 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว งวดที่ 1 ซึ่งจ่ายครบแล้ว และจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างงวดที่ 2 ซึ่งจ่ายไปแล้วบางส่วน โดยมีเกษตรกรได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง 1.42 ล้านครัวเรือน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 15,260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.3% ของกรอบวงเงินเดิมที่ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2563
สำหรับวงเงินที่ใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ 46,807 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.เงินชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาเกณฑ์อ้างอิง โดยใช้แหล่งเงินทุนของธ.ก.ส. วงเงิน 45,754 ล้านบาท จากเดิม 17,676 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28,078 ล้านบาท 2.ค่าใช้จ่ายในการชดเชยต้นทุนเงิน ธ.ก.ส. ในอัตรา 2.25% เพิ่มวงเงินเป็น 1,029 ล้านบาท และ 3.ค่าบริหารจัดการ ธ.ก.ส. เพิ่มวงเงินเป็น 22.88 ล้านบาท
น.ส.รัชดา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดประชาสัมพันธ์การดำเนินมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้ เช่น โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก โครงการสินเชื่อรวบรวมข้าวเปลือกโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก เพื่อดูดซับอุปทานข้าวในตลาด เพื่อไม่ให้ข้าวเปลือกออกสู่ตลาดมากเกินไป ซึ่งจะเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกในประเทศ
ขณะที่นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า วันนี้ (1 ธ.ค.) ธ.ก.ส.ได้เริ่มโอนเงินโครงการสนับสนุน ค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ในอัตราไร่ละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโดยตรงแล้ว 4 แสนครัวเรือน เป็นเงิน 1,600 ล้านบาท และจะทยอยโอนเงินที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ธ.ค.2563
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2563 ครม.มีมติอนุมัติโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 วงเงิน 28,046 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 4.56 ล้านครัวเรือน
นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้จากพ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติมใน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ของกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน 1,601 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว โดยเพิ่มเติมชุดเครื่องชั่งบรรจุพร้อมระบบจัดเรียงแบบอัตโนมัติ 20 ชุด และระบบไฟฟ้าควบคุมเครื่องจักร 18 ชุด
2.โครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม วงเงิน 176 ล้านบาท โดยมีกิจกรรม เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนโดยใช้ทุนชุมชน สำหรับประชาชนทั่วไป (CCPOT ระดับโท) 5,000 รายการ สำหรับตลาดระดับพรีเมียม (CCPOT ระดับเอก) 76 รายการ ศึกษาข้อมูลทุติยภูมิและลงพื้นที่เก็บข้อมูลปฐมภูมิชุมชนวัฒนธรรม 30 ชุมชน เพื่อพัฒนาคุณค่าวัฒนธรรม เป็นต้น
อ่านประกอบ :
ข้าวเปลือกดิ่งรัฐจ่ายเพิ่ม! นบข.เคาะขยายวงเงินประกันรายได้ชาวนาเป็น 4.68 หมื่นล้าน
ยุคข้าวไทย‘โรยรา’! ส่องงบประกันรายได้ 'รบ.บิ๊กตู่' 2 ปี 2.2 แสนล.-‘นักการเมือง..ชาวนาชอบ’
ข้าวไทยแพง! 2 สมาคมฯคาดปีนี้ส่งออก 6 ล้านตัน-ชาวนาปลื้ม 'ประกันรายได้' แต่ห่วงถูกกดราคา
เท 6.1 หมื่นล้าน! ครม.เคาะประกันรายได้ ‘ชาวนา-สวนยาง’-ช่วยค่าจัดการข้าวครัวละ 1 หมื่นบาท
อุ้ม ‘มันฯ-ข้าวโพด-ยาง’! ครม.เคาะประกันรายได้-มาตรการคู่ขนาน 1.44 หมื่นล้าน
รัฐค้างเงิน ธ.ก.ส.เพียบ! หนี้จำนำข้าวเหลือ 3.37 แสนล้าน-พบ 1 ปี ‘บิ๊กตู่’ เพิ่มอีก 9.3 หมื่นล.
จับชาวนาขังอยู่กับที่! ‘นักวิชาการ’ ห่วงโครงการ ‘ประกันรายได้’ ไม่กระตุ้นภาคเกษตรปรับตัว
ต่ำสุดในรอบ 20 ปี! เอกชนหั่นเป้าส่งออกข้าวไทยเหลือ 6.5 ล้านตัน เสียตลาดให้ 'จีน-เวียดนาม'
ไฟเขียวประกันรายได้ชาวนา! นบข.เคาะราคาเท่าปีที่แล้ว-ครึ่งทางไทยส่งออกข้าว 3.15 ล้านตัน
ปัจจัยลบรุมเร้า-พ่ายแพ้ยุทธศาสตร์ ส่งออก ‘ข้าวไทย’ ใกล้ถึงทางตัน?
หมดเวลากินบุญเก่า! ส่งออกข้าวไทย ‘ระส่ำหนัก’ จีน-เวียดนาม-พม่า รุกแย่งตลาด
ส่องงบรบ.เชียงกง บิ๊กตู่ 2/1 ซื้อใจ‘ชาวนา’ แจกสะบัด 8 หมื่นล. แต่ฟันเฟืองศก. ‘ไม่หมุน’
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/