‘สพ.รฟ.’อ่านประกาศหน้า‘องค์พระหลักเมือง’ ขอที่ดิน‘เขากระโดง’กลับเป็นของรฟท.โดยสมบูรณ์

kd 01 05 22 pic

ตัวแทน ‘สพ.รฟ.’ อ่านคำประกาศหน้า ‘องค์พระหลักเมือง’ ขอให้ดลบันดาลให้ที่ดิน ‘เขากระโดง’ กลับมาเป็นของ รฟท. โดยสมบูรณ์

.............................

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. นายสมบุญ แดงอร่าม รองประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) และกรรมการผู้แทนพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อ่านประกาศคนรถไฟบริเวณหน้า ‘องค์พระหลักเมือง’ กรุงเทพมหานคร โดยขอพึ่งบารมีองค์พระหลักเมืองให้ดลบันดาลให้มีการปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลฎีกา เพื่อให้ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ตกเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยสมบูรณ์

“เมื่อศาลฎีกาฯตัดสินแล้ว แต่ยังไม่ทำ คนรถไฟจึงต้องมาขอพึ่งพระบารมีขององค์พระหลักเมือง ดลบันดาลให้ที่ดินของการรถไฟฯ จงกลับคืนมาเป็นของการรถไฟฯดังเดิม” นายสมบุญกล่าว

สำหรับคำประกาศฯ มีเนื้อหาสรุปได้ว่า ด้วยปี พ.ศ.2462 มีประกาศ พ.ร.ฎ.ให้เขตพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นพื้นที่ของกรมรถไฟหลวง โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รกร้าง เป็นป่าทึบไม้เต็งไม่มีผู้อยู่อาศัย มีหินแกรนิตชั้นดีเหมาะสำหรับสร้างทางรถไฟ ซึ่งต่อมา “กรมรถไฟหลวง” ได้เปลี่ยนเป็น “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ตาม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494

ต่อมามีการตราประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 การรถไฟฯได้ไปขอออก ส.ค.1 บนที่ดินรถไฟฯเขากระโดง เมื่อปี 2513 แต่ปรากฏว่ามีการบุกรุกพื้นที่ การรถไฟฯ จึงได้ประชุมร่วมกับผู้บุกรุก ซึ่งผู้บุกรุกยอมรับว่า เป็นผู้บุกรุกที่ดินของการรถไฟฯ และขออยู่อาศัยอยู่ไปพลางก่อน แต่ในวันที่ 26 ต.ค.2515 ผู้บุกรุกได้นำพื้นที่เขากระโดงไปออกเป็นโฉนดเป็นรายแรก จากนั้นมีการขอออกโฉนดอีกหลายแปลง แล้วนำที่ดินขายต่อเป็นทอดๆ บางแปลงมีการนำไปจำนองกับธนาคาร

อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.จัดวางทางรถไฟแลทางหลวง พ.ศ.2464 ที่ระบุว่า “มาตรา 6 (1) ห้ามไม่ให้ยกกำหนดอายุความขึ้นต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟ หรืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นของรถไฟ” ซึ่งในเวลาต่อมาทั้งกฤษฎีกา คณะกรรมาธิการสภาฯ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมถึงการตัดสินของศาลในหลายคดี ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ต่างก็ตัดสินออกมาแนวเดียวกันว่า พื้นที่เขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ

ทั้งนี้ เมื่อศาลฎีกา ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดทางขบวนการยุติธรรม ตัดสินว่าพื้นที่เขากระโดง 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นของการรถไฟฯ แต่ผู้ที่ต้องทำหน้าที่เพิกถอนเอกสารสิทธิ ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก หรือเจรจาให้ผู้บุกรุกออกนอกพื้นที่ ไม่ได้ทำหน้าที่ หรือบ่ายเบี่ยงไม่ทำตามแนวทางที่ต้องทำ ประวิงเวลา และมีการใช้อำนาจบุกรุกครอบครองอยู่ในพื้นที่ ทั้งที่รู้อยู่ว่าครอบครองโดยมิชอบ ผิดกฎหมาย อันเป็นการขาดจริยธรรมร้ายแรง ทำให้ที่ดินเหล่านี้ไม่เป็นของรถไฟฯโดยสมบูรณ์

เมื่อปล่อยเวลาผ่านมาเนินนาน ไม่มีการปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลฎีกา เหล่าข้าพเจ้าคนรถไฟขอพึ่งบารมีองค์พระหลักเมือง ดลบันดาลปฏิบัติให้พื้นที่เขากระโดงเป็นของการรถไฟฯโดยสมบูรณ์ เพื่อให้การรถไฟฯสามารถนำพื้นที่ไปหาประโยชน์ให้การรถไฟฯ ประเทศชาติและประชาชน และถ้าเป็นไปได้ ขอให้ดลบันดาลให้ผู้ต้องทำหน้าที่ แต่ไม่ทำหน้าที่เพิกถอนโฉนดแลเอกสารสิทธิ หรือเบี่ยงเบนประวิงเวลา และผู้บุกรุกที่ใช้กลวิธีใช้อำนาจหน้าที่ไม่ออกจากพื้นที่เขากระโดง ประสบเคราะห์กรรมด้วย

kd 01 05 22 1