“…หากการบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อาจทำให้สถานบันเทิงครบวงจรเป็นศูนย์รวมอบายมุข และแหล่งอาชญากรรม ซึ่งจะกระทบต่อเด็กและเยาวชน ตลอดจนวัยแรงงาน และกลุ่มเปราะบางต่างๆ และส่งผลในภาพรวมของประเทศในการที่อาจต้องจัดสรรงบประมาณ เพื่อใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการมีสถานบันเทิงครบวงจร…”
..........................................
จากกรณีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญในกำหนดแนวทางให้ ‘กาสิโน’ เข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีรายได้จากภาษี และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและท่องเที่ยว
โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นฯจากหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชน ระหว่างวันที่ 2-18 ส.ค.2567 เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป นั้น (อ่านประกอบ : เปิด‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ดัน‘กาสิโน’ถูกกม.-ค่า'ใบอนุญาตฯ'ครั้งแรก 5 พันล้าน)
ล่าสุด สศค. เผยแพร่สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นฯ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ประกอบด้วย 45 ประเด็น อย่างไรก็ดี รายงานสรุปผลการรับฟังความเห็นฯ ไม่ได้ระบุว่า มีผู้ร่วมแสดงความเห็นเท่าไหร่ และไม่มีการระบุว่ามีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่าไหร่ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ สรุปได้ดังนี้
@‘คกก.นโยบายฯ’มีอำนาจมากไป-ต้องให้‘ปชช.’ร่วมสรรหา
ประเด็น ชื่อของร่าง พ.ร.บ.
สรุปความคิดเห็น
-ชื่อมีความกว้างเกินไป ควรจะเจาะจงกว่านี้
-การตั้งชื่อกฎหมายไม่สะท้อนเป้าหมายหลักของกฎหมาย
-ควรแก้ไขชื่อร่างเป็น “พระราชบัญญัติสถานประกอบการท่องเที่ยวครบวงจร” (Integrated Resort Act) เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของประเทศอื่นที่มองกิจการประเภทนี้ว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และน่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในเชิงบวกต่อโครงการมากกว่า
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ)
สรุปความคิดเห็น
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดควรมาจากการเปิดรับสมัครสรรหา
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรมีด้านพัฒนาชุมชน สิทธิมนุษยชนทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เด็กเยาวชน ผู้ทำงานด้านลดผลกระทบจากอบายมุข เศรษฐกิจมหภาค เศรษฐศาสตร์ชุมชน สังคมวิทยา มานุษยวิทยา สุขภาพจิต ธุรกิจ SMEs และภาคประชาสังคมจากพื้นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร
-กรรมการโดยตำแหน่ง ควรมีผู้แทนจากคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สภาองค์กรชุมชน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้ตรวจการแผ่นดิน
-ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการคัดเลือกคณะกรรมการเพื่อความโปร่งใส
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (คณะกรรมการนโยบายฯ)
สรุปความคิดเห็น
-คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจมากเกินไป ควรกำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหาร หรือกำหนดหลักเกณฑ์ของการประกอบสถานบันเทิงครบวงจรไว้ในร่าง พ.ร.บ. เลย
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหาร
สรุปความคิดเห็น
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดควรมาจากการเปิดรับสมัครสรรหาที่ตรวจสอบได้โดยประชาชน
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ควรมีด้านพัฒนาชุมชน สิทธิมนุษยชนทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เด็กเยาวชน ผู้ทำงานด้านลดผลกระทบจากอบายมุข เศรษฐกิจมหภาค เศรษฐศาสตร์ชุมชน สังคมวิทยา มานุษยวิทยา สุขภาพจิต ธุรกิจ SMEs ภาคประชาสังคมจากพื้นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ภาคธุรกิจเอกชนและภาคการท่องเที่ยว
-กรรมการโดยตำแหน่ง ควรมีผู้แทนจากคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สภาองค์กรชุมชน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ หากมีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรใกล้ชายแดน ควรมีผู้แทนจากกระทรวงกลาโหมหรือฝ่ายความมั่นคงอื่น
-ควรมีคณะกรรมการบริหารระดับพื้นที่จังหวัดที่มีการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจในการพิจารณาสั่งยกเลิกสถานบันเทิงครบวงจรในพื้นที่ที่ทำแล้วผลเสียมากกว่าผลดี
-ไม่ควรมีคณะกรรมการบริหาร เนื่องจากเลขาธิการสามารถดำเนินการได้
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
@เสนอกำหนดสัดส่วนพื้นที่‘กาสิโน’ 5-20%-เพิ่มธุรกิจบัญชีแนบท้าย
ประเด็น ประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ในสถานบันเทิงครบวงจร
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดเพิ่มจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติอย่างน้อย 4 ประเภท เป็น 7 ประเภท
-ควรสนับสนุนให้มีพื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทย เพื่อเพิ่มคุณภาพของสถานบันเทิงครบวงจร และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
-ควรเพิ่มรายละเอียดของแต่ละประเภทธุรกิจสถานบันเทิง เช่น ห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดพื้นที่อย่างน้อย 500,000 ตารางเมตร โรงแรมระดับ 5 ดาว ขึ้นไป
-ควรเปลี่ยน “ห้างสรรพสินค้า” เป็น “ศูนย์การค้า” เนื่องจากมีความหมายที่กว้างกว่า โดยหมายความรวมถึงห้างสรรพสินค้าและพื้นที่ให้เช่า
-“สถานที่เล่นเกม” ไม่มีความหมายที่ชัดเจน ควรกำหนดนิยาม เพื่อมิให้ซ้ำซ้อนกับพื้นที่เพื่อการเล่นเกมในกาสิโน
-ควรกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP ในสถานบันเทิงครบวงจร
-ควรกำหนดประเภทธุรกิจสถานบันเทิงให้หลากหลายและมีประเภทธุรกิจที่น่าจะพัฒนาประเทศไทยได้มากขึ้น เช่น ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ พิพิธภัณฑ์ หรือสนามแข่งรถ
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น พื้นที่กาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดพื้นที่การเล่นเกมให้ชัดเจน โดยไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป
-ควรกำหนดอัตราส่วนของพื้นที่กาสิโนไว้ในร่าง พ.ร.บ. โดยอาจกำหนดไว้ที่ร้อยละ 5-20
-ควรกำหนดพื้นที่กาสิโนตามสัดส่วนประมาณการรายได้ของสถานบันเทิงครบวงจร
-พื้นที่กาสิโนควรสามารถเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น ประเภทของกาสิโน
-ควรกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายฯ มีอำนาจกำหนดการเล่นชนิดอื่นเพิ่มเติมจากมาตรา 52 ได้
-ควรกำหนดให้มีการเล่นมวย หรือม้า
-ควรกำหนดให้มีพนันออนไลน์
-ควรกำหนดให้มี Sport Betting และการเล่นที่ใช้ทักษะของผู้เล่นประกอบด้วย เช่น Poker
-ควรศึกษาว่าประเภทของกาสิโนที่เล่นในต่างประเทศเทียบเคียงด้วย
-ไม่จำเป็นต้องกำหนดห้ามการพนันออนไลน์ในร่าง พ.ร.บ. เนื่องจากการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการพนันอยู่แล้ว
คำชี้แจง-หลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียดของกาสิโน จะเป็นไปตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
-มาตรา 53 ของ ร่าง พ.ร.บ. กำหนดห้ามเฉพาะการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน ซึ่งทำผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกสถานประกอบการกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้
@แนะกำหนด‘อัตราภาษีพนัน’ให้ชัดเจน-คนไทยถือหุ้นฯ 30-51%
ประเด็น ภาษี
สรุปความคิดเห็น
-ควรมีการกำหนดอัตราภาษีจากการพนันให้ชัดเจน เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ประกอบการ โดยอาจแยกอัตราภาษีตามประเภทของลูกค้าเทียบเคียงกับต่างประเทศ
-ควรกำหนดยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้ประกอบการไว้อย่างชัดเจน
-ไม่ควรจัดเก็บภาษีเงินได้จากผู้เล่นที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ
-ควรกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ผู้รับใบอนุญาตในช่วง 10 ปีแรก
-ควรกำหนดให้ 10 ปี นับแต่ได้รับใบอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระภาษีเงินได้แก่รัฐไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของเงินได้สุทธิของธุรกิจกาสิโน
คำชี้แจง-มาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 กำหนดให้การจัดเก็บรายได้แผ่นดินที่เป็นภาษีอากร จะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย และการยกเว้นหรือการลดภาษีอากรใด จะกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้อำนาจการจัดเก็บภาษีอากรนั้น
ดังนั้น ภาษีใดที่จัดเก็บอยู่ตามกฎหมายอื่น การจัดเก็บ การยกเว้น หรือการลดภาษี ย่อมจะกระทำได้แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้อำนาจการจัดเก็บภาษีอากรนั้น
ประเด็น การกระจายรายได้จากสถานบันเทิงครบวงจรให้ท้องถิ่น
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดเงินที่ได้รับจากค่าธรรมเนียมและภาษีเป็นรายได้ของจังหวัด
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
@เสนอเปิดประมูลใบอนุญาตฯ-ค้าน‘ต่างชาติ’ถือครองที่ดินเกิน 25 ปี
ประเด็น สัดส่วนผู้ถือหุ้นของผู้รับใบอนุญาต
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นไทย เช่น กำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นไทยอย่างน้อยร้อยละ 30-51 เพื่อสนับสนุนเอกชนในไทยให้มีรายได้มากยิ่งขึ้น
-ควรกำหนดให้เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทย และป้องกันนอมินีต่างชาติ
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น กระบวนการคัดเลือก ผู้รับใบอนุญาต (สถานบันเทิงครบวงจร)
สรุปความคิดเห็น
-ควรมีการเปิดประมูลโดยชอบธรรม และเปิดโอกาสให้ต่างชาติมาลงทุน
คำชี้แจง-โครงสร้างการกำกับสถานบันเทิงครบวงจรตามร่าง พ.ร.บ.เป็นการคัดเลือกและให้ใบอนุญาตแก่ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายเพื่อให้ประโยชน์แก่รัฐสูงสุด ,ร่าง พ.ร.บ. มิได้กำหนดห้ามมิให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในสถานบันเทิงครบวงจร
ประเด็น เอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ
สรุปความคิดเห็น
-ควรให้คณะกรรมการนโยบายฯ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอในการประมูลเพื่อเข้าประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
คำชี้แจง-โครงสร้างการกำกับสถานบันเทิงครบวงจรตามร่าง พ.ร.บ. เป็นการคัดเลือกและให้ใบอนุญาตแก่ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายเพื่อให้ประโยชน์แก่รัฐสูงสุด
ประเด็น สัญญาเช่า
สรุปความคิดเห็น
-ไม่ควรอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาเช่าหรือถือครองที่ดินเกินกว่า 25 ปี
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
@แนะจำกัดใบอนุญาตฯ-มองต่างมุมกำหนดอายุไลเซนส์ 30 ปี
ประเด็น อายุใบอนุญาต
สรุปความคิดเห็น
-การกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนั้น มีความยาวนานเกินไป อาจปรับลดเป็น 10 ปี
-การกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนั้น สั้นเกินไป เมื่อเทียบกับการลงทุน เช่น ควรอนุญาตให้มีอายุ 30 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 30 ปี หรือกำหนดให้มีอายุ 50-60 ปี
-ควรเริ่มนับอายุใบอนุญาต 30 ปี นับจากวันที่เริ่มดำเนินกิจการได้ เนื่องจากการก่อสร้างใช้ระยะเวลามาก
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น จำนวนใบอนุญาต
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้ชัดเจนไว้ในร่าง พ.ร.บ. โดยไม่ควรกำหนดให้มีใบอนุญาตมากเกินไป เช่น ไม่เกิน 3-7 ราย ในประเทศไทย
-ควรกำหนดให้ชัดเจนไว้ในร่าง พ.ร.บ. ว่า แต่ละพื้นที่มีใบอนุญาตได้กี่ใบ เช่น ในกรุงเทพฯ ไม่เกิน 2-3 ราย นอกกรุงเทพฯ ไม่เกิน 5-7 ราย
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น สถานที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้ชัดเจนไว้ในร่าง พ.ร.บ. เช่น ต้องมีที่ตั้งนอกเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อกระจายรายได้
-ควรกระจายไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง หัวหิน หรือกรุงเทพมหานคร
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
สรุปความคิดเห็น
-ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสูงเกินไป อาจทำให้มีผู้ประกอบการจำนวนน้อยราย
-ควรกำหนดเพิ่มค่าใบอนุญาตรายปี
-ไม่ชัดเจนว่าในปีแรกที่ได้รับอนุญาต เมื่อได้ชำระค่าธรรมเนียมครั้งแรกแล้ว จะต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรกด้วยหรือไม่
-ไม่ควรกำหนดค่าธรรมเนียมในร่าง พ.ร.บ. เพราะใบอนุญาตมีอายุ 30 ปี อาจไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต
คำชี้แจง-ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามร่าง พ.ร.บ. เป็นเพียงเพดานในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเท่านั้น การกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ใช้จัดเก็บจริง และรายละเอียดต่างๆ จะเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
@ชี้ค่าธรรมเนียมเข้าเล่นกาสิโนสูงเกินไป-แนะลดเหลือ 1-2 พันบาท
ประเด็น ค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-กำหนดค่าธรรมเนียมการเข้าเล่นของคนไทยไว้สูงเกินไป ควรกำหนดไว้ประมาณ 1,000-2,000 บาท
-ควรพิจารณากำหนดมีค่าธรรมเนียมการเข้าเล่นรายปีไว้ด้วย โดยอาจกำหนดไว้ประมาณ 20,000-40,000 บาท
-ควรกำหนดไม่ให้เพิ่มค่าธรรมเนียมการเข้าเล่นของคนไทยเป็นระยะเวลา 10 ปี เหมือนประเทศสิงคโปร์
-ควรกำหนดค่าธรรมเนียมการเล่นของคนไทยในกาสิโนให้เท่ากันทั่วประเทศ
คำชี้แจง-ค่าธรรมเนียมการเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยตามร่าง พ.ร.บ. เป็นเพียงเพดานในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเท่านั้น การกำหนดค่าธรรมเนียมการเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยที่ใช้จัดเก็บจริง และรายละเอียดต่างๆจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ประเด็น การกำหนดหลักเกณฑ์การเล่นกาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-ไม่ควรกำหนดให้ต้องขออนุญาต เพื่อความคล่องตัว
-ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน ต้องเป็นการเล่นโดยใช้บัญชีของตนเองเท่านั้น เพื่อป้องกันการเล่นพนันผ่านบัญชีของผู้อื่นนอกสถานประกอบการกาสิโน
-ควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับชิป โดยอาจให้คณะกรรมการนโยบายฯหรือคณะกรรมการบริหาร ประกาศเป็นหลักเกณฑ์ก็ได้
-ควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกติกาและเครื่องมือในการเล่นหรือการเข้าพนัน เพื่อป้องกันการโกง
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น การเข้ากาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดอนุญาตให้สามารถใช้ข้อมูลชีวภาพ สำหรับควบคุมการเข้าออกสถานประกอบการกาสิโน เพื่อรักษาความปลอดภัย
คำชี้แจง-การใช้ข้อมูลชีวภาพ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
ประเด็น บุคคลที่อาจเข้าสถานประกอบการกาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้บุคคลที่จะเข้าสถานประกอบการกาสิโนแสดงรายการบัญชีหรือเงินสด เพื่อที่จะนำไปเข้าเล่นหรือเข้าพนัน
-ควรกำหนดให้เฉพาะคนต่างชาติ หรือคนไทยที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ หรือกลับเข้ามาในประเทศไทย เข้าเล่นในสถานประกอบการกาสิโนเท่านั้น
-การกำหนดห้ามมิให้ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการนโยบายฯ ประกาศกำหนด ยังขาดความชัดเจนว่า ลงทะเบียนและค่าธรรมเนียมดังกล่าวหมายความว่าอย่างไร
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น การเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้ชัดเจนในร่าง พ.ร.บ. ว่า ผู้รับใบอนุญาตสามารถจัดให้มีบรรดากิจกรรมส่งเสริมการขายที่กระทำกันตามปกติประเพณีของการประกอบสถานบันเทิงครบวงจรในระดับสากลได้ เช่น การให้สิทธิประโยชน์หรือแลกของรางวัลแก่ลูกค้า
-ควรกำหนดห้ามมิให้มี Junket โดยควรระบุนิยามของ Junket ไว้ในร่าง พ.ร.บ. โดยอาจศึกษาเทียบเคียงกับกฎหมายต่างประเทศ
คำชี้แจง-มาตรา 58 ของร่าง พ.ร.บ. จะกำกับเฉพาะการดำเนินการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับกาสิโนเท่านั้น มิได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมการขายของสถานบันเทิงครบวงจร
-มาตรา 58 วรรคสอง และวรรคสาม ของร่าง พ.ร.บ. ได้กำหนดให้กิจกรรมในลักษณะที่เป็น Junket เป็นการเชิญชวน โฆษณา หรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย ที่ห้ามดำเนินการ เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนดอยู่แล้ว
ประเด็น การให้สินเชื่อกับผู้เข้าเล่น
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้สามารถให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ
-ควรกำหนดให้เข้มงวด โดยอาจกำหนดวงเงินที่อาจให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ย และกำหนดเวลาชำระหนี้
-ควรกำหนดห้ามให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในสถานประกอบการกาสิโน ที่เป็นคนไทยหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทยและควรกำหนดอนุญาตให้ ให้สินเชื่อได้เฉพาะแก่ลูกค้าชั้นดีเช่นเดียวกับต่างประเทศ
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
@แนะตั้งกองทุนเยียวยาฯ-ห่วงผลกระทบทางสังคมหลายด้าน
ประเด็น บทกำหนดโทษ
สรุปความคิดเห็น
-โทษเบาเกินไป
-ควรกำหนดให้มีโทษพักใบอนุญาต เพื่อแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการจึงเพิกถอนใบอนุญาตและห้ามมิให้ขออนุญาตได้อีก หรือระงับการต่อใบอนุญาตไปอีกอย่างน้อย 5 ปี
-ควรเพิ่มค่าปรับของผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในสถานประกอบกาสิโน จากหนึ่งแสนบาทเป็นห้าแสนบาท
-ควรนำองค์ประกอบเรื่องการ “ปล่อยปละละเลย” กรณีบุคคลต้องห้ามเข้าไปในสถานประกอบกาสิโน
-ควรกำหนดให้ชัดเจนว่า การที่ผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 54 ,56-58 ไม่เป็นเหตุแห่งการเพิกถอนใบอนุญาต
-ควรกำหนดให้มีโทษอาญา เช่น ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามหรือปล่อยให้บุคคลต้องห้ามเข้าไปในสถานประกอบการกาสิโน
-ควรกำหนดให้มีโทษเพิกถอนกิจการ และอายัดทรัพย์สินหรือที่ดินของกิจการที่เพิกถอน โดยให้ตกเป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
-ควรกำหนดเรื่องการระงับการให้บริการ การดำเนินกิจการ และการเพิกถอนใบอนุญาต ของผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ
ประเด็น การจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผลกระทบทางสังคม
สรุปความคิดเห็น
-ควรกำหนดให้มีกองทุนเพื่อเยียวยาผลกระทบทางสังคม โดยให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนที่สรรหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทนภาคประชาชน และกำหนดให้มีสำนักงานกองทุน
คำชี้แจง-มาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 กำหนดให้การจัดตั้งทุนหมุนเวียน จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับทุนหมุนเวียนที่จัดตั้งไว้แล้ว ซึ่งปัจจุบันอาจมีกองทุนที่มีวัตถุประสงค์ดังกล่าวอยู่แล้ว
ประเด็น การฟอกเงิน
สรุปความคิดเห็น
-สถานบันเทิงครบวงจรอาจกลายเป็นแหล่งของการฟอกเงิน
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
ประเด็น ปัญหาด้านสังคม
สรุปความคิดเห็น
-อาจก่อให้ปัญหาด้านการติดพนัน ความแตกแยกของสถาบันครอบครัว อาชญากรรม ศีลธรรม และความสงบเรียบร้อยของประเทศ
-การตรากฎหมายอนุญาตให้มีกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรอาจไม่สามารถแก้ปัญหาบ่อนหรือการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายได้
-อาจก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ
คำชี้แจง-จะนำความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ต่อไป
@‘คลัง’ชี้บังคับใช้กฎหมายไม่เคร่งครัด อาจเป็นศูนย์รวมอบายมุข
นอกจากนี้ สศค. ในฐานะหน่วยงานที่เสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายฯ ดังนี้
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
-นักลงทุน/นักธุรกิจมีช่องทางในการลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่ม Fun Economy ผ่านการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
-เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินมีโอกาสในการพัฒนาที่ดินที่ถือครองให้เกิดเป็นรายได้และเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบสถานบันเทิงครบวงจร
-ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสในการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ ตลอดจนการประกอบอาชีพในสถานบันเทิงครบวงจร
-เจ้าหน้าที่รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น
ผลกระทบต่อสังคม
หากการบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อาจทำให้สถานบันเทิงครบวงจรเป็นศูนย์รวมอบายมุข และแหล่งอาชญากรรม ซึ่งจะกระทบต่อเด็กและเยาวชน ตลอดจนวัยงาน และกลุ่มเปราะบางต่างๆ และส่งผลในภาพรวมของประเทศในการที่อาจต้องจัดสรรงบประมาณ เพื่อใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการมีสถานบันเทิงครบวงจร
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาวะ
การตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจรแบบมีกาสิโนรวมอยู่ด้วยนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น เสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนจากการแสดง ดนตรีสด การเปิดเพลงเสียงดังของสถานบันเทิง การรวมกลุ่มมั่วสุม การดื่มสุรา เสียงจากการก่อสร้าง และการประกอบกิจการ รวมถึงสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป มลภาวะจากขยะ ฝุ่น และผง เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของบรรดาผู้อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานบันเทิงครบวง
เหล่านี้เป็นสรุปผลการรับฟังความคิดเห็น ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่ สศค. จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ‘แพทองธาร ชินวัตร’ เพื่อประกอบการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ
อ่านเพิ่มเติม : การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....
อ่านประกอบ :
วงเสวนาฯจี้รัฐบาลทำประชามติ‘กาสิโนถูกกม.’-ห่วง‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’มีช่องโหว่
'อนุทิน'ยัน รบ.เดินหน้า พ.ร.บ.กัญชาฯ พร้อมหนุน'กาสิโน'แจงเป็นมารยาทพรรคร่วม
ดัน‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ พ่วง‘กาสิโนถูกกฎหมาย’ ได้ไม่คุ้มเสีย-เอื้อทุนใหญ่?
‘ตีเช็คเปล่า-เอื้อทุนใหญ่’! วงเสวนาฯชำแหละ‘ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
เปิด‘ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ’ดัน‘กาสิโน’ถูกกม.-ค่า'ใบอนุญาตฯ'ครั้งแรก 5 พันล้าน
บทวิเคราะห์สื่อสิงคโปร์: นโยบายคอมเพล็กซ์คาสิโน นำไทยสู่ผู้นำท่องเที่ยวเชิงการพนัน?
เอกชนลาสเวกัส สนใจลงทุนเปิดบ่อนพนันที่ไทย เชื่อคาสิโนแห่งแรกเกิดได้ในปี 72
สื่อมาเลย์วิเคราะห์ นโยบายฟรีวีซ่าจีนส่งผลไทยอาจผ่าน กม.หนุนจัดตั้งคาสิโนภายในปีนี้
รายงาน UN แฉโครงข่ายธนาคารใต้ดินฟอกเงิน คาสิโนริมฝั่งแม่น้ำโขง-ชายแดนไทย เม็ดเงินมหาศาล
วงเสวนาชี้ 'กาสิโนถูก กม.' ผลกระทบเพียบ! ย้ำหากเปิดต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีก่อน
ชงโหวตรับรายงานกาสิโนถูกกฎหมาย 27 ก.ค. 65 สกัด 5 ประเด็นศึกษาเชิงลึก
นิด้าโพลเผย ปชช.ส่วนใหญ่ 46.51% ไม่เห็นด้วยกับ 'บ่อนกาสิโน' ถูกกฎหมาย