ฝ่ายค้าน-ชูวิทย์ ยื่นฟัน ‘ศักดิ์สยาม-ยุบภูมิใจไทย 17 มี.ค.นี้

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 16 มีนาคม 2566 เวลา 16:40 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

1541 views

Liang160366 Cover1

ฝ่ายค้านเตรียมยื่นศาลรธน.ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี พรุ่งนี้ (17 มี.ค.66) ‘อนุทิน’ ไม่หวั่น ‘ชูวิทย์’ ยื่นกกต.ยุบพรรคพรุ่งนี้ ด้าน ‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ร่ายยาว จ่อเอาคืนจอมแฉ เผยหลายหน่วยงานจ่อแจ้งความฐานทำให้เสียหายหลายกระทง

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 มีนาคม 2566 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 มีนาคม) เวลา 09.00 ตน และพรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 จะร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

สืบเนื่องจากกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยวันพรุ่งนี้ จะเป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ มาแล้ว พร้อมกับคำร้องมาตรา 170 และมาตรา 82 ที่มีผลให้นายศักดิ์สยามถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ตีความว่าความผิดตามมาตรา 144 นั้นไม่อยู่ในอำนาจของประธานสภาฯ ที่จะยื่น ทางพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติ จึงร่วมกันร่างคำร้องและรวบรวมรายชื่อ ส.ส. จำนวน 1 ใน 10 ของ ส.ส. ทั้งหมด เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง

นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ปัจจุบันได้รายชื่อ ส.ส. ครบแล้ว จังหวะการยื่นครั้งนี้ไม่ใช่การฉวยโอกาสทางการเมือง เพราะตั้งแต่แรกคำร้องตามมาตรา 144 เคยอยู่ในคำร้องเดียวกันกับคำร้องฉบับก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่เมื่อทางประธานสภาฯ แจ้งว่าไม่มีอำนาจในการยื่นตามมาตรา 144 ทำให้ต้องตัดเนื้อหาบางส่วนออก ดังนั้น คำร้องฉบับนี้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องยื่นอยู่แล้ว เพราะเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้คำร้องฉบับก่อนหน้านั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคาดว่าผลคำวินิจฉัยในคำร้องก่อนหน้า จะส่งผลต่อเนื่องมาถึงคำร้องนี้ด้วย

เมื่อถามถึง คำร้องเดิมที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไปแล้วนั้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เมื่อดูตามข้อกฎหมายแล้ว เรื่องนี้จะมีผลสืบเนื่องในอนาคต เพราะตามคุณสมบัติของรัฐมนตรีนั้น ระบุว่าหากเคยถูกวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ จะไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ไปอีก 2 ปี ดังนั้น คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าศักดิ์สยาม จะยังอยู่ในตำแหน่งในวันที่มีคำวินิจฉัยหรือไม่ก็ตาม

Liang160366 0.7

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

@ภูมิใจไทย ไม่แคร์ ชูวิทย์ยื่นยุบพรรค

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เตรียมยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคภูมิใจไทย ว่า ประชาชนมีสิทธ์ตรวจสอบการทำงานของพรรคการเมือง ซึ่งพรรคภูมิใจไทย พร้อมให้ตรวจสอบ ซึ่งหากชี้แจงไม่ได้ หรือกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรับชะตากรรม ส่วนผู้ที่ไปฟ้อง ไปกล่าวหา ก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากกล่าวว่าร้าย ด้วยความเท็จ ก็ต้องรับกรรมตามกฎหมาย สำหรับพรรคภูมิใจไทย มั่นใจว่า ไม่ได้มีการกระทำผิดตามที่กล่าวหากัน ซึ่งก็ต้องชี้แจงกันไป ตามแต่โอกาส ในทางหนึ่งภูมิใจไทย มีเป้าที่ใหญ่กว่านั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ไปตอบโต้แบบรายวัน เพราะเรามองไปที่การหาเสียงเลือกตั้ง ต้องทำให้ประชาชนไว้วางใจพรรค และ ผู้สมัคร เพื่อโอกาสในการได้กลับมารับใช้ประชาชน เราจึงไม่อยากเสียเวลามาโต้กันไป โต้กันมา

Liang160366 0.8

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

@ซัด ชูวิทย์ เป็นศาลเตี้ย

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะที่รัฐมนตรีของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ก็มีกระบวนการทางนิติบัญญัติในการตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน อาทิเช่น การร้องกล่าวหานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามเกินกว่าการตรวจสอบทั่วไป แต่เป็นการสร้างระบบศาลเตี้ยเข้ามาเพื่อทำการปลุกปั่นสังคมให้เกิดความเข้าใจผิด โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงเรื่องความผิดถูกที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ พรรคภูมิใจไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ หรือในฐานะรัฐมนตรีที่ได้เข้ากำกับดูแลในกระทรวงต่างๆ เราได้ใช้หน้าที่อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่โดยการทุ่มเท ไม่มีการโกงบ้านเมืองอย่างที่มีคนออกมาพยายามกล่าวหา

ทางพรรคภูมิใจไทยจึงต้องออกมายืนยันว่า สิ่งที่มีการกล่าวหานั้นเป็นการกล่าวร้ายพรรคโดยมีวาระซ่อนเร้นอยู่ ที่ผ่านมาเราพยายามปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการดำเนินการของพรรคอาจกระทบคนบางคน บางกลุ่ม หรือนิติบุคคลบางแห่ง ที่ผ่านมาเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และยืนหยัดเสมอมาที่จะให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าเราได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งเป็นการปฏิบัติทุกอย่างภายใต้กฎหมาย ดังนั้น เรื่องการถูกผิดจะต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

“แต่วันนี้กรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่ารับงานมาเพื่อมุ่งร้ายทำลายพรรคภูมิใจไทย กรณีนี้เป็นการใช้สิทธิ์ที่ไม่สุจริตในฐานะประชาชนที่จะติชมด้วยความเป็นธรรม แต่มีเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพของประชาชนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการแสดงพูดอาฆาตมาดร้าย และมีการแสดงออกตามพื้นที่ต่างๆ” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นถามว่ารับงานจากใคร ก็มีข่าวปรากฏออกมาค่อนช้างชัด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ในสิ่งที่พรรคออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น ในวันนี้พรรคจะดำเนินการกับบุคคลใดก็ตามที่เข้ามากล่าวร้าย บิดเบือน พรรคภูมิใจไทยในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เราเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม จะไม่ยอมให้กระบวนการที่ทำเหมือนเป็นศาลเตี้ยเข้ามาจนทำให้กระบวนการทางกฎหมายสั่นคลอน วันนี้นายชูวิทย์หรือใครก็ตามที่นำเรื่องที่นายชูวิทย์แถลง ไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง มุ่งร้าย บิดเบือนพรรคภูมิใจไทย เราจะดำเนินการทุกคดีกับใครก็ตามที่ใส่ร้ายพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสีย โดยพรรคยึดหลักการเคารพกฎหมาย ฉะนั้น เมื่อมีบุคคลที่ไม่เคารพกฎหมายมาทำแบบนี้ เราก็จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี และคะแนนนิยมของพรรค โดยจะดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่องกับทุกฝ่ายกับบุคคลทุกคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยว

@ยื่น กกต. สอบ ‘ชูวิทย์’ เตรียมระดมแจ้งความ

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พรรคจะดำเนินคดีเพื่อปกป้องสิทธิของเรา โดยยึดหลักบ้านเมืองที่ต้องมีขื่อมีแป เราไม่ได้ปิดปากนายชูวิทย์ เพราะถ้าจะใช้เสรีภาพติชมเราไม่มีปัญหา แต่ถ้าใส่ร้ายป้ายสีถือว่าเป็นการล่วงละเมิดต่อพรรค วันนี้ (16 มี.ค.) พรรคจะยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาตรา 22 ระบุว่า กกต.จะต้องมีหน้าที่ในการกำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ต้องให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม รวมถึงพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ซึ่งจะมีผลทำให้ประชาชนมีความเข้าใจหลงผิดในคะแนนนิยม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโทษทางอาญา บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายชูวิทย์จะมีการดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เช่น พรรคจะมีการดำเนินคดีโดยหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค หากพบว่าผิดก็จะดำเนินคดี รวมถึงมีหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่นายชูวิทย์ได้ไปดำเนินการหมิ่นประมาทใส่ร้าย ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็จะดำเนินคดีของแต่ละหน่วยงานไป

“ มีคนถามว่าทำไมพรรคถึงปล่อยให้นายชูวิทย์ดำเนินการไปเรื่อยๆ โดยที่ปล่อยปละละเลยอย่างนี้ ผมยืนยันว่า เรื่องนี้เราจะเริ่มดำเนินคดี สิ่งที่จะดำเนินคดีต่อไปโดยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทยทั้ง 400 เขต ซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายชูวิทย์ จะไปดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ในแต่ละเขตเลือกตั้ง และจะร้องกกต.จังหวัดแต่ละเขต รวมถึงฟ้องคดีอาญานายชูวิทย์ ผมเชื่อว่าท่านไม่กลัวติดคุก เพราะท่านเคยติดคุก อาจเสพติดเรื่องการติดคุก มีคดีมากๆ ท่านอาจจะชอบก็ได้ แต่พรรคต้องทำเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ ปกป้องชื่อเสียงเกียรติคุณของพรรค มีสุภาษิตกฎหมายคำหนึ่งว่า ... บุคคลจะต้องไปศาลด้วยมือที่สะอาด ซึ่งอาจจะหมายถึงว่าตัวผู้ร้องต้องเป็นบุคคลที่สะอาด ฉะนั้น การที่นายชูวิทย์ไม่ได้ใช้สิทธิโดยสุจริต แต่ไปโดยการกระทำด้วยการอาฆาตมาดร้าย นายชูวิทย์จึงไปร้องโดยที่มือไม่สะอาด เรื่องที่นายชูวิทย์ทำในอดีต เช่น การเปิดกิจการอาบอบนวด การรื้อบาร์เบียร์แล้วติดคุก นั่นอาจหมายถึงความสกปรก แต่การที่นายชูวิทย์จะไปดำเนินการร้องกล่าวหาพรรค หรือบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพรรคนายชูวิทย์ต้องเป็นมือสะอาด และไปด้วยเจตนาของตัวเอง ไม่ใช่เหตุผลว่ารับงานมา” นายศุภชัย กล่าว

@ทวงหลักฐานเงินทอน 30,000 ล้านบาท/ไล่ไปสอบสายสีเขียวด้วย

นายศุภชัย ยังกล่าวอีกว่า จากการที่นายชูวิทย์ ระบุว่ามีเอกสารการโอนเงิน หรือบอกว่ามีเงินทอน 3 หมื่นล้าน โอนจากประเทศไทยไปสิงคโปร์ธนาคาร HSBC ว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมถามไปว่าใครโอน ใครรับโอน ทั้งที่โครงการนี้ยังไปไม่ถึงไหน อีกทั้งเรื่องยังไม่เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ชูวิทย์ก็เฉไฉไม่ยอมตอบ เหตุเพราะสิ่งที่พูดไม่มีอยู่จริงใช่หรือไม่ นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหากรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว มีถูกกล่าวหา 13 คน คือ อดีตผู้ว่ากทม. บีทีเอส และผู้บริหาร ตนก็อยากถามนายชูวิทย์ ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณมือสะอาด ตั้งใจที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ กรณีสายสีส้มที่ยังไม่มีการดำเนินการขั้นไหนเลย และฝ่ายค้านยื่นไปแล้ว ท่านก็ช่วยไปตรวจสอบเรื่องสายสีเขียวด้วยได้หรือไม่ ว่ากรณีสายสีเขียวมีเงินทอนหรือไม่ และช่วยไปตามหน่อยถ้าวันนี้ท่านอยากทำงานเพื่อชาติ ใจสะอาด ก็ช่วยไปตามสายสีเขียวด้วย ถ้านายชูวิทย์แน่จริง วันนี้เมื่อนายชูวิทย์ ถูกต้อนเข้าจนมุมก็เลื้อยไปเรื่อย อย่างกรณีที่ออกมาต่อต้านเรื่องกัญชา แต่ท่านก็มีร้านของตัวเอง 2 ร้าน เมื่อปลดล็อกแล้วก็ออกมาทำธุรกิจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ วันนี้ร้านนายชูวิทย์ก็ยังเปิดอยู่

“ วันนี้นี่คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยบอกว่าเราจะดำเนินคดี ทุกท่านเตรียมรับหมายศาล และทุกคดีเราเก็บหมด เป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระกันเพราะฉะนั้น หนึ่งคดีมีโทษจำคุก ซ้อนๆ อยู่หลายโทษ” นายศุภชัย กล่าว

อ่านประกอบ

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage