
เปิดผลสอบข้อเท็จจริงฯ ‘โซลาร์ฟาร์ม’ 2.3 หมื่นล. ก่อน ‘PEA ENCOM’ ยื่น ‘ป.ป.ช.’ เอาผิด ‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ ที่เกี่ยวข้อง พบมีการกระทำส่อขัด ‘มติ กพอ.-กฎหมาย-ระเบียบ’ 5 ประเด็น
............................
จากกรณีที่ นายธีระ ศรีใหม่ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) บริษัทในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (เลขาธิการ ป.ป.ช.) เรื่อง แจ้งผลการสอบข้อเท็จจริงกรณีพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อนำเสนอเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ แนบผลการสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไม่เกิน 500 MW มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งเอกสารประกอบการสอบสวน จำนวน 1,650 แผ่น เพื่อประกอบการพิจารณาในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. นั้น (อ่านประกอบ : ยื่น‘ป.ป.ช.’เอาผิด! PEA ENCOM ส่งผลสอบข้อเท็จจริง‘โซลาร์ฟาร์ม’พบมีผู้กระทำขัดระเบียบ-กม.)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ส่งให้ ป.ป.ช. นั้น คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ตรวจสอบพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในโครงการดังกล่าว สรุปได้เป็น 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
ประเด็นที่ 1 การที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG จัดตั้งบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นั้น อาจขัดต่อมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2563 เนื่องจาก มติ กพอ. ดังกล่าว ไม่ได้ระบุว่า ให้มีการจัดหาเอกชนมาร่วมทุนแต่อย่างใด
อีกทั้งในการดำเนินโครงการดังกล่าว กฟภ. และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ได้รับอนุมัติ อนุญาต และได้รับสิทธิในการดำเนินการจาก กพอ. ตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ดังนั้น การที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ลงนามในสัญญาร่วมทุนใน บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่่เมืองใหม่ EEC จึงอาจขัดต่อมติ กพอ. ครั้งที่ 1/2563
ประเด็นที่ 2 การลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จำนวน 3 ฉบับ ระหว่าง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ได้แก่ 1.สัญญาความร่วมมือโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) และสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) ในพื้นที่โครงการเขต EEC วันที่ 26 มี.ค.2563
2.สัญญาร่วมจัดหาพลังงานไฟฟ้าพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์) และพลังงานสำรอง(ระบบกักเก็บพลังงาน) เพื่อใช้ในเขตพื้นที่ EEC วันที่ 5 ส.ค.2563 และ 3.สัญญามอบหมายให้จัดหาพลังงานไฟฟ้าพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์) และพลังงานสำรอง (ระบบกักเก็บพลังงาน) เพื่อใช้ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) วันที่ 21 ส.ค.2563
คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ พบว่า การลงนามสัญญาทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว ไม่ได้นำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท ก่อนการลงนามสัญญาแต่อย่างใด ในขณะที่สัญญาฯฉบับวันที่ 5 ส.ค. 2563 และสัญญาฯฉบับวันที่ 21 ส.ค. 2563 ได้ถูกนำมาอ้างถึงในการขออนุมัติลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระหว่างบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด ในเวลาต่อมา
ประเด็นที่ 3 สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเลขที่ PEA ENCOM PVEEC 2563 ลงวันที่ 26 พ.ย.2563 ระหว่าง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด อาจขัดต่อมติ กพอ. ครั้งที่ 1/2563 ,พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบพาณิชย์โดยตรงของ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ
โดยคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ พบว่า ตามคำสั่งบริษัท ENCOM ที่ 22/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติ เงื่อนไข และข้อกำหนดของผู้ประกอบการ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง นั้น มีการระบุหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการจัดจ้างฯจากบริษัทในเครือหรือกิจการร่วมค้าที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง เช่น การกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นฯและระยะเวลาการถือหุ้นเอาไว้ ได้แก่
ข้อ 1(3) การจัดซื้อจัดจ้างจากบริษัทในเครือหรือกิจการร่วมค้าที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ถือหุ้นรวมอยู่ด้วยในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ซึ่งได้ร่วมกันจัดตั้งมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
ข้อ 1(4) การจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการที่มีสัญญาหรือข้อตกลง ความร่วมมือกับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ในงานที่มี ลักษณะเป็นงานวิจัยหรือการพัฒนา ร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และได้ร่วมลงทุนกันในรูปแบบของบริษัทหรือ กิจการร่วมค้า ซึ่ง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ถือหุ้นรวมอยู่ด้วยในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 25
แต่ปรากฏว่า ณ วันที่ 17 ส.ค.2563 บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ถือหุ้นใน บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เพียง 20% ในขณะที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2562 ซึ่งยังไม่ครบกำหนดเวลา 1 ปี ดังนั้น สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเลขที่ PEA ENCOM PVEEC 2563 ระหว่าง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด จึงอาจขัดต่อเงื่อนไขในการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามคำสั่งที่ 22/2563
ขณะเดียวกัน การลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว อาจขัดต่อ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อีกด้วย เพราะแม้ว่า บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ จะขอยกเว้นมิให้ใช้ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐฯ ตามมาตรา 7 (1) แต่ก็ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐฯ มาตรา 8 ที่กำหนดว่าจะต้องดำเนินการด้วยความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และตรวจสอบได้
นอกจากนี้ การที่ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ดำเนินการคัดเลือกบริษัทเอกชนรายใด เพื่อร่วมทุนกับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นั้น ยังจะต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นไปตามมติ กพอ. ครั้งที่ 1/2563 ที่ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ เป็นผู้ดำเนินการ
ประเด็นที่ 4 การดำเนินการจัดซื้อที่ดินของบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เพื่อดำเนินโครงการฯ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านบาท แต่กลับดำเนินการขัดต่อบันทึกข้อตกลง (MOU) ฉบับลงวันที่ 27 ธ.ค.2562 ระหว่าง กฟภ. และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด และ MOU ฉบับวันที่ 21 ส.ค.2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ลงนามกับ กฟภ.เอาไว้
อีกทั้งการดำเนินการจัดซื้อที่ดินดังกล่าว ดำเนินการโดยเร่งรีบ ขาดการทำประเมินความเสี่ยง ไม่ได้มีการนำเรื่องเข้าคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงฯ และไม่เคยสอบถาม สกพอ. ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการว่า จะจัดหาที่ดินให้ได้หรือไม่ หรือหากจะให้ ดำเนินการจะต้องดำเนินการบริเวณพื้นที่ใด
ประเด็นที่ 5 การโอนสิทธิและหน้าที่ของผู้ผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเลขที่ PEA ENCOM PVEEC 2563 ระหว่าง บริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ และบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด โดยบริษัท พีอีเอ เอ็นคอมฯ ได้โอนสิทธิและหน้าที่ของผู้ผลิตไฟฟ้าฯไปให้ บริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด นั้น ปรากฏว่า สกพอ. ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบในการดำเนินการการโอนสิทธิและหน้าที่ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฯ ดังนั้น การโอนสิทธิฯดังกล่าว จึงยังไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงาน กกพ. ปฏิเสธไม่พิจารณาคำขอใบอนุญาตฯ ของบริษัท เซท เอนเนอยี จำกัด เนื่องจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไม่สอดคล้องตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) และยังไม่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามาแสดงประกอบการขอรับใบอนุญาตฯ
อ่านประกอบ :
ยื่น‘ป.ป.ช.’เอาผิด! PEA ENCOM ส่งผลสอบข้อเท็จจริง‘โซลาร์ฟาร์ม’พบมีผู้กระทำขัดระเบียบ-กม.
ฉบับเต็ม! ‘ศาลปค.’ไม่รับฟ้อง‘SPCG’เรียกค่าเสียหาย‘กฟภ.’3.7 พันล.ยกเลิกสิทธิซื้อขายไฟฟ้า
ไม่ใช่คู่สัญญา! 'ศาลปค.'ไม่รับฟ้อง'SPCG'เรียกค่าเสียหาย'กฟภ.'3.7 พันล.-รอลุ้นผล'คดีแพ่ง'
‘มท.1’สั่งสอบฯโซลาร์ฟาร์ม‘พีอีเอ เอ็นคอม’ 2.3 หมื่นล. หลัง‘บอร์ด กฟภ.’พบความไม่ปกติ
รอมติกพช.! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ ชะลอลงทุนโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน-ยันพร้อมเปิดประมูล
ฉบับเต็ม! ‘ก.พลังงาน’ ไข 6 ปม แตะเบรก 'กฟภ.-SPCG' ลงขันโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล.
เบรกโซลาร์ฟาร์ม'กฟภ.' 2.3 หมื่นล.! สนพ.ชี้ต้องเสนอ 'พลังงาน-ครม.' อนุมัติ-เปิดประมูล
ให้‘กฟภ.’ดำเนินการ! ‘สกพอ.’ แจงปมเลือกเอกชนร่วมลงทุนโซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน
ยึดพ.ร.บ.อีอีซี! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ แจงร่วมทุนโซล่าร์ฟาร์ 2.3 หมื่นล.ไม่ต้องเปิดประมูล
พลิกกม.ร่วมทุนฯ! โซล่าร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน เข้าข่ายต้องเปิดประมูล?
ขอชี้แจงผู้ตรวจการฯก่อน! ‘พีอีเอ เอ็นคอม’ ยังไม่ตอบปมโซลาร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน
มีผู้ร้องไม่เปิดประมูล! ‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’ สอบข้อเท็จจริงโซลาร์ฟาร์ม 2.3 หมื่นล้าน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา