‘ธปท.’ เผยไตรมาส 4/67 สินเชื่อระบบ ‘ธนาคารพาณิชย์’ หดตัว 0.4% พบ ‘สินเชื่อ SMEs’ ติดลบ 5% ‘สินเชื่อเช่าซื้อ’ หด 9.9% ขณะที่ ‘หนี้เสีย’ ลดลงเหลือ 2.78%
.....................................
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 4/2567 และปี 2567 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง โดยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 4/2567 หดตัว 0.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน และลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (3/2567) ที่หดตัว 2%
ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจกลับมาขยายตัว โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมภาครัฐ) ขยายตัว 2% ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจ SMEs ยังคงหดตัวต่อเนื่อง แต่หดตัวลดลงเหลือหดตัว 5% จากไตรมาสก่อน (3/2567) ที่หดตัว 5.7% อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังมีการสนับสนุนสินเชื่อให้กับ SMEs เดิม ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือเป็นกลุ่ม SMEs รายกลางที่มีศักยภาพในการแข่งขัน
ด้านสินเชื่ออุปโภคบริโภคหดตัวต่อเนื่อง โดยสินเชื่อเช่าซื้อหดตัว 9.9% ซึ่งหดตัวต่อเนื่อง 4 ไตรมาส เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและรายได้กลุ่มเปราะบางที่ฟื้นตัวช้า ทำให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ประกอบกับหนี้เสียปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4/2567 มีภาพบวกเกี่ยวกับรถยนต์ คือ มีสัญญาณว่ารถยนต์ที่เข้ามาสู่ลานประมูลลดลง ทำให้ราคารถมือสองในเดือน ธ.ค.2567 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
น.ส.สุวรรณี กล่าวว่า ในด้านคุณภาพสินเชื่อ ยอดคงค้างสินเชื่อ NPL ไตรมาส 4/2567 ลดลงมาอยู่ที่ 552.1 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวม ลดลงมาอยู่ที่ 2.78% จากระดับ 2.97% ในช่วงไตรมาสก่อน (3/2567) โดยหลักๆมาจากสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการคุณภาพหนี้และการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่องของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ NPL สินเชื่อรายย่อยปรับลดลง ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ NPL ปรับเพิ่มขึ้น
“NPL สินเชื่อธุรกิจ ปรับตัวลดลงในหลายเซ็กเตอร์ นำโดยกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ที่พักแรม โรงแรม ร้านอาหาร ขนส่ง และอสังหาฯ ในขณะที่สินเชื่อรายย่อย ยอดคงค้างที่เป็น NPL ในหลายๆภาคปรับลดลง ยกเว้นสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ยังเห็น NPL ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดย NPL อยู่ที่ 3.88% แต่คาดว่าการตอบรับเข้าโครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ของสินเชื่อบ้าน ที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น จะช่วยทำให้ NPL ไม่ปรับเพิ่มขึ้น” น.ส.สุวรรณี กล่าว
น.ส.สุวรรณี ยังระบุว่า ในช่วงไตรมาส 4/2567 ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้น แต่ปริมาณสินเชื่อและ NPL ลดลง เนื่องจากมีการชำระหนี้เพิ่มขึ้น ทั้งจากการปรับเพิ่มการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต (minimum pay) เป็น 8% ตั้งแต่ปี 2567
สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.98% จากไตรมาสก่อน (3/2567) ที่อยู่ที่ 6.86% โดยมาจากการที่ลูกหนี้ธุรกิจบางส่วนปรับขั้นจาก Stage 3 (NPL) มาเป็น Stage 2 เนื่องจากสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ ประกอบกับมีการจัดชั้นเชิงคุณภาพของสินเชื่อธุรกิจเพิ่มเติม
น.ส.สุวรรณี กล่าวว่า ในส่วนผลการดำเนินงานระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส ปี 2567 ปรับดีขึ้นจากปีก่อน จากทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยตามการวัดมูลค่าตราสารทางการเงินเป็นสำคัญ และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ประกอบกับค่าใช้จ่ายสำรองลดลงจากการตั้งสำรองสูงในปีก่อน แต่หากเทียบไตรมาส 4/2567 กับไตรมาสก่อน (3/2567) ผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดลงเล็กน้อย จากรายได้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของธุรกิจ SMEs และครัวเรือนบางกลุ่มที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีภาระหนี้สูง รวมถึงธุรกิจในกลุ่มที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันปรับลดลง ตลอดจนติดตามผลสำเร็จของการให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการคุณสู้เราช่วย โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 89% ต่อจีดีพี ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลง
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ปรับลดลงมาอยู่ที่ 84.9% ต่อจีดีพี ตามการหดตัวของสินเชื่อและตราสารหนี้ ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะภาคการผลิต แม้จะมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว
ส่วนความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการ Responsible Lending ของสถาบันการเงินนั้น ในปี 2567 มีจำนวนบัญชีที่ได้รับความช่วยเหลือสะสม 7.18 ล้านบัญชี แบ่งเป็น ธนาคารพาณิชย์และนอนแบงก์ 2.42 ล้านบัญชี และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) 4.76 ล้านบัญชี โดยมียอดหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือสะสม 2.66 ล้านล้านบาท (ธนาคารพาณิชย์และนอนแบงก์ 1.07 ล้านล้านบาท และ SFIs 1.59 ล้านล้านบาท
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ มีลูกหนี้ทยอยสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านระบบ ธปท. และสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2567-16 ก.พ.2568 มีลูกหนี้ลงทะเบียน 8.2 แสนราย จำนวนบัญชีลงทะเบียน 9.9 แสนบัญชี ทั้งนี้ ธปท.ได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.2568 และขยายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยของนอนแบงก์บางรายด้วย
น.ส.สุวรรณี กล่าวด้วยว่า ล่าสุดมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาหารือกับ รองผู้ว่าการฯ ธปท. สายนโยบายการเงิน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ LTV (Loan to Value) ต่างๆ ซึ่งผู้รับผิดชอบยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องนี้
อ่านประกอบ :
‘สินเชื่อแบงก์-รวมเครือ’ไตรมาส 3/67 ลบ 2% หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 53-‘หนี้เสีย’ 2.97%
สินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ไตรมาส 2/67 โต 0.3%'หนี้เสีย'ขยับ 2.84%-NIM แตะ 3.04%
‘ธปท.’เผยสินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ปี 66 หด 0.3%-สศช.แนะหั่นดอกเบี้ยอุ้ม‘ภาคครัวเรือน-SMEs’
แบงก์ระวังปล่อยกู้ SMEs! ‘ธปท.’เผยสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/66 หดตัว 0.9%
คืนเงินกู้-ออกตราสารหนี้! ‘ธปท.’เผยสินเชื่อ‘แบงก์พาณิชย์’ไตรมาส 2/66 หด 0.4%-NPL 2.67%
'ธปท.' เผยไตรมาส 1/65 สินเชื่อ'แบงก์พาณิชย์' เติบโต 6.9%- 'หนี้เสีย'ทรงตัวที่ 2.93%
ไตรมาสแรก '6 แบงก์ใหญ่' กำไรเพิ่มทั่วหน้า ตั้งสำรองฯลดลง-คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น
‘ธปท.’ เผยปี 64 ระบบแบงก์พาณิชย์ มีกำไรสุทธิ 1.81 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 23.6%-NPL 2.98%
ธปท.ประกาศให้ 'แบงก์พาณิชย์' จ่ายเงินปันผล ไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ ปี 64