อสส.ตั้งข้อไม่สมบูรณ์คดี 'รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา' อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับสินบน ตีกลับ 2 สำนวนรวด 'โดนล่อซื้อจับกุมตัว พร้อมของกลาง-ซองเงินอื่นในห้องทำงาน' ทำหนังสือแจ้งประธาน ป.ป.ช. ตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย ชี้ประเด็นหลักเป็นทรัพย์สินเรียกรับโดยมิชอบมิใช่ได้โดยเสน่หา- พฤติการณ์เข้ามาตรา 148 โทษสูงสุดประหารชีวิต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้คความผิดทางอาญา นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวก เรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดเพื่อมิให้ถูกโยกย้ายตำแหน่งและเก็บเงินรายเดือนที่ได้รับการจัดสรรจากหมวดงบประมาณต่าง ๆ พร้อมให้ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) ตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เกี่ยวกับคดีนี้ อสส.ได้มีการพิจารณาสำนวนไต่สวนคดี ที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้แล้ว จำนวน 2 สำนวน คือ 1.กรณีการล่อซื้อจับกุมนายรัชฎา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดใบละ 1,000 บาท จำนวน 98 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 98,000 บาท และซองสีขาวจำนวน 3 ซอง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา พร้อมพวกรวม 8 ราย และ 2. กรณีซองเงินอื่นๆ ที่ตรวจยึดได้ในห้องทำงานของนายรัชฎา ที่รวบรวมจากหัวหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหลายคน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายรัชฎา พร้อมพวกรวม 12 ราย
เบื้องต้น อสส.เห็นว่าทั้ง 2 สำนวน มีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะดำเนินคดีได้ และได้มีหนังสือแจ้งถึงประธาน ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย ระหว่าง อัยการ และป.ป.ช.เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีร่วมกัน แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ ป.ป.ช.ก็สามารถยื่นฟ้องคดีเองตามขั้นตอนทางกฎหมายได้
สำหรับสำนวนแรก กรณีการล่อซื้อจับกุมนายรัชฎา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดใบละ 1,000 บาท จำนวน 98 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 98,000 บาท และซองสีขาวจำนวน 3 ซอง นั้น อสส.เห็นว่า ควรมีการไต่สวนให้ได้ความว่าการกระทำของนายรัชฎา ในคดีนี้ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 ตามที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เรียกรับโดยมิชอบ มิใช่ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากการให้โดยเสน่หาตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติดังกล่าว
ขณะที่กระทำความผิดในคดีนี้ของนายรัชฎา ยังเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และการที่นายชัยวัฒน์ลิ้มลิขิตอักษร นำเงินไปมอบให้นายรัชฎา ที่ห้องทำงาน ในคราวเดียว เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 เพียงกรรมเดียว ส่วนกระทำของผู้ถูกกล่าวหารายอื่นในคดีนี้ ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 176 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล รวมไปถึงประเด็นอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีด้วย
ส่วนสำนวนที่สอง กรณีซองเงินอื่นๆ ที่ตรวจยึดได้ในห้องทำงานของนายรัชฎา ที่รวบรวมจากหัวหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหลายคน นั้น อสส.พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรไต่สวนให้ได้ความว่า การกระทำของนายรัชฎา ในคดีนี้ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 ตามที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เรียกรับโดยมิชอบ มิใช่ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากการให้โดยเสน่หาตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติดังกล่าวเช่นกัน
อสส. ยังเห็นควรไต่สวนให้ได้ความว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งในคดีนี้ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 173 ตามที่คณะกรรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และการที่มีผู้รวบรวมนำเงินไปให้ นายรัชฎา แม้จะรวบรวมจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามจำนวนหลายคน ใส่ซองไปจำนวนซองเดียวหรือหลายซองในแต่ละครั้งก็ตาม แต่เมื่อ นายรัชฎารับเงินจำนวนดังกล่าวไว้ในคราวเดียว การข่มขืนใจหรือจูงเพื่อให้หามาให้ซึ่งเงินดังกล่าวของ นายรัชฎา ในการรับเงินแต่ละครั้งจึงเป็นการกระทำความผิดเพียงกรรมเดียว จึงให้ไต่สวนให้ได้ความว่าการรับเงินในคดีนี้เป็นความผิดหลายกรรมต่างกรรมต่างวาระกันโดยระบุชัดว่าเป็นความผิดกี่กรรม แต่ละกรรมมีการกระทำผิดอย่างไร
นอกจากนี้ อสส.ยังเห็นควรให้ไต่สวนให้ได้ความว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหารายอื่นๆ ในคดีนี้ ไม่เป็นความผิดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่ง ควรไต่สวนให้ได้ความว่าเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของนายรัชฎาจำนวนกี่กรรม แต่ละกรรมมีการกระทำผิดอย่างไร รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีด้วย
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า อสส. ได้แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีนายรัชฎาและพวก ทั้ง 2 สำนวนมาให้ ป.ป.ช.รับทราบจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้มีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว โดยที่มีประชุมมีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์สำนวนคดีร่วมกับฝ่ายอัยการต่อไป
สำหรับความผิดประมวลกฎหมายอาญา ที่อสส. เสนอมานั้น มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ระบุว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
- ยุคนี้ให้ส่วยเป็นเงินทอน! 'ชัยวัฒน์' ให้ปากคำคดีอธิบดีอุทยานฯ-ปัดตอบปมไม่ค้นบ้าน 'รัชฎา'
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- เช็คที่นี่! เปิดครบเงินสด-สิ่งของ 21 รายการ 4.8 ล.ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ใครส่งมาบ้าง?
- แอ่นแอ๊น! แกะซองเงินที่ 7 คดี 'รัชฎา' เจอตารางจ่ายรายเดือนงบปี 66 ด้วย 38 ล.+5% 1.9 ล.
- ฉบับเต็ม! คำสั่ง ทส. ให้ 'รัชฎา' ออกจากราชการไว้ก่อน เซ่นปมเรียกเงินสินบน
- มีผล 3 ก.พ.! ให้ออกจากราชการ 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกเงินสินบน
- ป.ป.ช.มีมติไต่สวนคดีสินบนอธิบดีอุทยานฯ-ยันมีหลักฐานรู้ตัวแล้วสาวถึงใครบ้าง
- ชี้ทำตามหน้าที่! ศาลคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง 'จรูญเกียรติ-พวก' กลั่นแกล้ง 'รัชฎา' ปมสินบน