"...ในส่วนข้อมูลรายชื่อ หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏอยู่บนซองเงิน นั้น จากการตรวจสอบภาพในคลิป ของ สำนักข่าวอิศรา พบว่า มีความชัดเจนแล้วอย่างน้อย 2 แห่ง คือ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ส่วนประสานโครงการพระราชดำริ และกิจการพิเศษ และส่วนจัดการต้นน้ำ สบอ.16 โดยซองของ ส่วนจัดการต้นน้ำ สบอ.16 มีการเขียนข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับเงิน ว่า เดือน ต.ค.-พ.ย. 800,000 X 2 = 1,600,000 บาท แต่ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดว่าเป็นเงินอะไร ..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าทำการจับกุมกรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยมีการล่อซื้อ มีการติดกล้องวงจรปิด ตำรวจตามเข้าไปค้นพบเงินสดบนโต๊ะทำงาน และห้องแต่งตัวประมาณ 5 ล้านบาท
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับมอบคลิปหลักฐานการเจรจาต่อรองระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. และป.ป.ช. กับ นายรัชฎา ช่วงที่ขอเข้าไปค้นโต๊ะทำงาน ซึ่งพบว่ามีซองเงินอยู่จำนวนมาก มีความยาวประมาณ 5 นาที โดยช่วงแรก นายรัชฎา ไม่ยอมเปิดให้ ต้องมีการเจรจาต่อรองอยู่นั้น ถึงจึงยอมไขกุญแจเปิดลิ้นชักให้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจของตนเอง พร้อมระบุว่า ได้รับซองมา แต่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไรเพราะไม่ได้เปิดดู ก่อนที่จะมีการตรวจค้นห้องทำงาน ห้องพักผ่อน และกระเป๋าลายพรางกรมอุทยานฯ พบว่ายังมีเงินสดอยู่อีกจำนวนกว่า 5 ล้านบาท (ดูคลิป)
สำหรับความคืบหน้าคดีนี้ ในช่วงก่อนหยุดเทศกาลปีใหม่ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ในช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 27 ธ.ค.2565 หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสอบปากคำ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ได้ยื่นประกันตัว โดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ก่อนจะถูกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งย้ายตัว นายรัชฎา เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา
ขณะที่ พนักงานสอบสวนจะมีการทำหนังสือออกหมายเรียกเชิญตัวหัวหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฎรายชื่อตามซองเงินของกลางที่ตรวจพบภายในห้องทำงานของนายรัชฎา มาทำการสอบปากคำในฐานะพยานอย่างละเอียดถึงที่ไปที่มา ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ที่มีชื่ออยู่บนซองเงินมาสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเสร็จแล้ว ทาง ป.ป.ช.จะดึงสำนวนทั้งหมดมาไต่สวนเอง เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้บริหารระดับสูงหลายราย
นอกจากนั้น จะมีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด เพื่อดูเรื่องที่เกี่ยวข้องในข้อหาร่ำรวยผิดปกติด้วย
โดยในส่วนกลุ่มบุคคล หรือ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่ปรากฎรายชื่ออยู่ในซองเงินต่างๆอย่างชัดเจน และ ต้องถูกเชิญตัวมาให้ปากคำนั้นมีด้วยกันเกือบ 20 ราย อีกทั้งจากการตรวจสอบซองเงินต่างๆพบว่า ตัวเลขยอดเงินภายในซองแต่ละซองค่อนข้างแตกต่างกัน อาทิ บางซองมีมากถึง 1.6 ล้านบาท ส่วนบางซองก็เป็นยอดเงินเพียงหลักหมื่น แต่มีเศษปลีกย่อยหลักร้อยบาท ไม่ใช่ตัวเลขกลมๆ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลพยานหลักฐานที่เชื่อว่ามีการเรียกรับเงินอัตราส่วนแบ่งคิดเป็นเปอร์จากงบประมาณที่ได้รับ จึงทำให้ยอดเงินไม่ใช่ตัวเลขกลมๆ ด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนข้อมูลรายชื่อ หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏอยู่บนซองเงิน นั้น จากการตรวจสอบภาพในคลิป ของ สำนักข่าวอิศรา พบว่า มีความชัดเจนแล้วอย่างน้อย 2 แห่ง คือ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ส่วนประสานโครงการพระราชดำริ และกิจการพิเศษ และส่วนจัดการต้นน้ำ สบอ.16
โดยซองของ ส่วนจัดการต้นน้ำ สบอ.16 มีการเขียนข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับเงิน ว่า เดือน ต.ค.-พ.ย. 800,000 X 2 = 1,600,000 บาท
แต่ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดว่าเป็นเงินอะไร (ดูภาพประกอบ)
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยังสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ส่วนประสานโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ , ส่วนจัดการต้นน้ำ สบอ.16 เพื่อขอให้ผู้บริหารหน่วยงานชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้
แต่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยงาน แจ้งว่า ผู้บริหารออกไปปฏิบัติภารกิจนอกพื้นที่ ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์
สำหรับความคืบหน้าส่วนอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามตรวจสอบมานำเสนอต่อสาธารณชนต่อไป
อย่างไรก็ดี คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตร. ปปป. และ ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการสรุปผลการสอบสวนเป็นทางการ นายรัชฎา และผู้เกี่ยวข้องจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่