"...นายรัชฎา มีศักดิ์เป็นน้องชายคนเล็กของ “บิ๊กยาว” พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ..“บิ๊กยาว” เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเมื่อปี 2557 แต่ต่อมาเจ้าตัวได้ลาออกเมื่อปี 2561 โดยระบุว่ามีปัญหาทางสุขภาพ ทั้งนี้ “บิ๊กยาว” ถือเป็น “ลายพรางธุรกิจ” คนหนึ่ง เพราะเจ้าตัวและภริยาเข้าไปทำธุรกิจ นั่งเป็นกรรมการ-ถือหุ้น ในบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง..."
ปรากฏเป็นข่าวดังส่งท้ายรับปีใหม่ไทย!
กรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าทำการจับกุมกรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยมีการล่อซื้อ มีการติดกล้องวงจรปิด ตำรวจตามเข้าไปค้นพบเงินสดบนโต๊ะทำงาน และห้องแต่งตัวประมาณ 5 ล้านบาท
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
เบื้องต้น นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ยังให้การปฏิเสธ ผลการต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ในชั้นการสอบสวนของเจ้าพนักงานและชั้นศาลเป็นอย่างไร ตรงคอยติดตามดูกันต่อไป
แต่ถ้าย้อนกลับไปดูข้อมูลประวัติของ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา จะพบว่า นับเป็นข้าราชการระดับ “อธิบดี” รายแรกของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ถูก ป.ป.ช.เข้าตรวจค้นและจับกุมลักษณะนี้
หลังจากในช่วงหลายสิบปีก่อน ที่กรณีนายประวัติ ถนัดค้า อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกในคดีเงินสินบน 5 ล้านบาท ไม้สาละวิน มาแล้ว
สำหรับประวัติส่วนตัว นายรัชฎา มีศักดิ์เป็นน้องชายคนเล็กของ “บิ๊กยาว” พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
“บิ๊กยาว” เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเมื่อปี 2557 แต่ต่อมาเจ้าตัวได้ลาออกเมื่อปี 2561 โดยระบุว่ามีปัญหาทางสุขภาพ ทั้งนี้ “บิ๊กยาว” ถือเป็น “ลายพรางธุรกิจ” คนหนึ่ง เพราะเจ้าตัวและภริยาเข้าไปทำธุรกิจ นั่งเป็นกรรมการ-ถือหุ้น ในบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง
ส่วนประวัติการศึกษา นายรัชฎา จบปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตรบัณฑิต (วนศาสตร์) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบปริญญาโท จากคณะศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เส้นทางการเป็นข้าราชการค่อนข้างสดใส เติบโตมาอย่างต่อเนื่องในกระทรวงฯ
เริ่มจากปี 2554 -2555 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดชัยนาท 4
ปี 2556 เป็นผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟ่า กรมป่าไม้ และรองอธิบดีกรมป่าไม้
ปี 2557 เป็นผู้ตรวจราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ปี 2558 เป็นรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ปี 2560 เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
หลังจากนั้นเมื่อ 28 ก.พ. 2565 ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่อยู่ในตำแหน่งได้ไม่ถึงปี ก็ถูกนายชัยวัฒน์ ร้องเรียนกล่าวหา กระทั่งนำไปสู่ ป.ป.ช.สนธิกำลังร่วมกับ บก.ปปป.บุกตรวจค้นห้องทำงาน และจับกุมดังกล่าว
สำหรับข้อมูลในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน นายรัชฎา ที่แจ้งต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. พบว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 ช่วงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3 ปี ระบุว่าคู่สมรส คือ นางมัณฑนา สุริยกุล ณ อยุธยา มีบุตรในสมรส 3 ราย เป็นบุตรสาว 2 คน บุตรชาย 1 คน มีพี่น้องรวมบิดามารดา 4 คน ต่างบิดา 3 คน
แจ้งมีรายได้รวม 3,124,321 บาท มีรายจ่ายรวม 3,161,115 บาท รวมทรัพย์สิน 63,053,292.02 บาท รวมหนี้สิน 6,533,375.12 บาท
ทรัพย์สิน 63,053,292.02 บาท แยกเป็นของตนเอง 45,564,115.70 บาท คู่สมรส 17,341,415.60 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 147,760.72 บาท
ในจำนวนทรัพย์สิน เป็นเงินฝาก แยกเป็นของตนเอง 19,317,224.53 คู่สมรส 2,169,415.60 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 147,760.72 บาท
เงินลงทุน แยกเป็นของตนเอง 4,994,891.17 บาท คู่สมรส 1,000,000 บาท
ที่ดิน มีจำนวน 9 แปลง บ้าน 5 หลัง (รวมของคู่สมรสทั้งสองรายการ) รถยนต์ 3 คันของผู้สมรสทั้งหมด (ดูรายละเอียดในเอกสารประกอบ)
ทรัพย์สินอื่นที่มีราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป จำนวน 10 รายการ มูลค่ารวม 2,550,000 บาท เป็นของตัวเองทั้งหมด สร้อยทอง รวม 75 บาท จำนวน 11 เส้น มูลค่ามากสุด 1,500,000 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
สำหรับข้อมูลบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ช่วงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักข่าวอิศรา ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน จึงทำให้ไม่ทราบว่า ทรัพย์สินและหนี้สินปัจจุบัน เพิ่มหรือลดลง จากช่วงดำรตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม อย่างไรบ้าง?
กล่าวสำหรับคดีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามที่ปรากฏเป็นข่าวดังในปัจจุบันนั้น
ในการเปิดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะ ระบุว่า นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มีพฤติการณ์ เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ โดยหากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ก็จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา จึงทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท
นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือน เพิ่มเติมจากที่เรียกเก็บ ในอัตราดังกล่าว
สาเหตุที่มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นและบุกจับกุมนายรัชฎา เป็นผลมาจากการร้องเรียนของ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่อ้างว่า พบพฤติการณ์ความไม่เหมาะสมของนายรัชฎา รวมถึงอาจมีการเรียกรับเงิน
ส่งผลให้ ป.ป.ช.สนธิกำลังกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ล่อซื้อ และบุกจับกุมนายรัชฎา ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานสำคัญเป็น “เบอร์แบงก์” ที่ตรงกัน รวมถึงจากการบุกค้นห้องพบเงินสดกว่า 5 ล้านบาทซุกอยู่ด้วย
พร้อมกับแจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่าเป็นความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ
เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวน บก. ปปป. จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดี กระบวนการจับกุมนายรัชฎา เป็นเพียงกระบวนการชั้นต้น นายรัชฎายังมีสิทธิต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. ต่อไป จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
บทสรุปเส้นทางชีวิตข้าราชการ ของ นายรัชฎา นับจากนี้เป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันอย่างใกล้ชิดต่อไป