'ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร' เข้าให้ข้อมูลรายชื่อบนซองใส่เงินคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ ที่ บก.ปปป.แล้ว ย้ำเชื่อมั่นในหลักฐาน ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง ระบุชัดยุคนี้ให้ส่วยเป็นเงินทอน ปัดตอบปมตำรวจไม่ตรวจค้นบ้านพัก 'รัชฎา' ทันที
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กรณีที่เป็นคนยื่นข้อมูลหลักฐานให้ ปปป.ตรวจสอบ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ที่เรียกรับเงิน และมีความผิดในฐาน ตามมาตรา 149 'เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ' และ มาตรา 157 'ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่' ซึ่งนายรัชฎา ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้นำเอกสารข้อมูล เข้าไปให้ปากคำและรายละเอียดให้กับกรรมการของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะเดินทางมายัง บก.ปปป. ซึ่งวันนี้จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่ปรากฎบนซองเงินว่าเป็นใครบ้าง อยู่ส่วนไหนบ้าง และเชื่อมั่นในหลักฐานของ ปปป.และ ป.ป.ช. ที่เข้าไปตรวจค้น และมีการถ่ายคลิปไว้อย่างชัดเจนและเผยแพร่ต่อสังคม และยืนยันการที่ออกมาครั้งนี้ไม่เป็นการกลั่นแกล้ง หรือมีข้อขัดแย้งส่วนตัว และไม่คิดว่าจะมีการล้มคดี เพราะสังคมเห็นพฤติกรรมหมดแล้ว ส่วนข้อมูลที่ได้รับการเรียกร้องมา รับรู้มาตั้งแต่ตอนกลับเข้ามารับตำแหน่งว่ามีการรังแกมาโดยตลอดต้องโดนจ่ายรายเดือน การเก็บเปอร์เซนต์ และผลของการเก็บเงินเหล่านั้นส่งผลให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเดือดร้อนในการใช้ชีวิต
นายชัยวัฒน์ ยังบอกอีกว่า เคยเข้าไปคุยกับนายรัชฎา เมื่อปลายเดือนตุลาที่ผ่านมา ซึ่งพยายามติดต่อผ่านหน้าห้อง ถึง 2 ครั้ง จนได้เข้ามาคุย ตอนนั้นก็บอกว่า 'ขออย่าเก็บเลย' และชี้แจงปัญหาของลูกน้องชั้นผู้น้อยที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา มันมีความเดือดร้อน 'มันไม่ไหวหรอก ถ้าเก็บขนาดนี้ พวกเขาจะทำงานกันอย่างไร' เมื่อก่อนมันเคยทำกันอย่างนี้ ซึ่งตอนนั้น อธิบดีตอบกลับมาว่า 'ไม่ยอม ยังยืนยันให้จ่าย' จึงพูดทิ้งท้ายไว้ว่า 'สุดท้ายผมต้องจ่ายใช่ไหม' ตนจึงนำข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่กระบวนการจับกุมในวันที่ 27 ธ.ค. 2565 โดยได้นำเงินจำนวน 98000 บาทไปมอบให้และนำไปสู่การจับกุมของ บก.ปปป. ปปท. และป.ป.ช.
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการจ่ายเงินแบบนี้ภายในองค์กรหรือไม่ นายชัยวัฒน์ ตอบว่า การให้เป็นวัฒนธรรมของคนไทย ทั้งการให้ด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ยอมรับว่ามี แต่วัฒนธรรมการเรียกเก็บแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน ที่เรียกเก็บทุกขั้นแบบนี้ ส่วนใครจะจ่ายหรือไม่จ่าย ตนไม่รู้เห็น แต่ตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่เคยต้องจ่ายหรือเรียกเก็บใครมาก่อน แต่ปัจจุบันนี้ต้องมีการจ่ายให้ในลักษณะทอนเงินบริหารในอัตรา 18.5 ต่อไป เช่นงบลงไป 100 บาทต้องทอนคืน 18.50 บาท จากนั้นก็นำมาหาร 12 เดือนเพื่อเป็นจำนวนยอดส่งรายเดือน และหลังจากที่เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น ก็มีหลายส่วนที่เข้ามาให้กำลังใจ และดีใจ ขอบคุณที่ทำเผื่อพวกเขาและจะตอบแทนในการช่วยรักษาป่า และก็มีบางส่วนที่เป็นกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ได้มีการข่มขู่ผ่านแชทไลน์ ซึ่งตนเองไม่ได้สนใจและไม่ได้กลัวอะไร
ส่วนประเด็นที่นายชัยวัฒน์และนายรัชฎาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสถาบันเดียวกัน นายชัยวัฒน์ตอบว่า "ไม่ได้สนว่าจะจบจากมหาลัยเดียวกันหรือเป็นนาย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องรับผิด และยึดการพิทักษ์ป่าเป็นหลัก"
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงข้อสงสัยของสังคมว่า ทำไมตำรวจจึงไม่ดำเนินการตรวจค้นบ้านพักของนายรัชฎา เพื่อขยายผลการจับกุมต่อ นายชัยวัฒน์บอกว่า "ไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว เพราะเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช.และ บก.ปปป. มีความตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ในคดีนี้"
หลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปปป. ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ทุกคนไม่ต้องกังวล คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกไปไม่มีมุมไหนที่มีการปกปิด การที่ปล่อยคลิปออกไปแสดงว่า ป.ป.ช. และ บก.ปปป. ตั้งใจทำหน้าที่และอยากให้สังคมรับรู้ วันนี้ที่มาพบพนักงานสอบสวนได้ให้การเพิ่มเติมไว้ทั้งหมด ได้ยื่นเอกสาร 53 แผ่น ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเกี่ยวกับซอง โดยวันนี้มีตนเองและเจ้าหน้าที่รวม 2 คน ที่เข้ามาให้ปากคำ และจะมีอีก 17 ปาก จะมาให้ข้อมูลวันศุกร์ที่ 6 ม.ค. นี้ ซึ่งอยู่ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ส่วนเรื่องซองเงินพนักงานสอบสวนได้สอบถามรายละเอียดว่ามีใครบ้าง ทั้งหมดมี 13 รายชื่อ มีทั้งระดับผู้อำนวยการสำนักลงไปถึงหัวหน้าหน่วยงาน
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า มีที่จะให้ข้อมูลรวมตนเองทั้งหมด 19 คน แบ่งเป็น 13 คน เป็นกรณีการรวมเงินที่เรียกรับรายเดือน 98,000 บาท ส่วน 4 คนเป็นผู้ที่เดือดร้อนในชุดแรกที่ร้องเรียนกับป.ป.ช. อีกหนึ่งคนเคยมีกรณีถูกโยกย้ายตำแหน่งโดยการจ่ายเงินก็จะมาให้ข้อมูลด้วย
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ไม่ทราบว่ามีการเรียกรับมาแล้วกี่เดือน เพราะมารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนตุลาคมหลังจากนั้นก็มารับทราบปัญหา มีเรียกเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม รวมเป็นเงิน 98,000 บาท ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการนำเงินส่วนตัวที่หาได้ในครอบครัว หรืออาจเป็นเงินกู้สหกรณ์ เงินที่หาได้ นำไปจ่ายก่อน เพราะงบประมาณส่วนราชการเงินเดือนต.ค.และเดือนพ.ย. เงินยังไม่ออก เงินที่สัญญากันว่าหรือตกลงกันไว้ เป็นเงินส่วนตัวไม่ได้มาจากเงินงบประมาณ ที่ยังอยู่กับลูกน้องยืนยันได้ว่าลูกน้องไม่กล้าทำเพราะเงินงบประมาณที่มีอยู่ไม่พอทำงาน ลูกน้องที่จะไปทุจริตต่องบประมาณที่มีเป็นไปไม่ได้
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน่าสงสารยอมจ่ายกันหน่วยละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 12,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของเดือนต.ค. มีหัวหน้าหน่วยงานหลายคนที่ถูกรังแก ต้องหาเงินมาจ่ายแบบนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับในสำนวนและในซองที่ประสานงานมาให้ปากคำกับปปป.เพิ่มมากกว่า 7 ปาก
ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์ได้มาให้การเพิ่มเติมกับ ปปป. ส่วนสำนวนคดีขอให้เป็นเรื่องของคดี วันนี้นายชัยวัฒน์ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พนักงานสอบสวนได้เอาคำให้การที่มีเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะส่งหมายเรียกไปทุกหน่วยงานโดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เจ้าของซองสามารถมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมาให้การได้ก่อนจะไม่ถือว่ามีความผิด เพราะการจับกุมใครสักคนต้องแสวงหาความร่วมมือ สั่งไปแล้วให้ติดต่อรอบนอกด้วยและเร่งสอบให้เสร็จและจะส่งป.ป.ช.โดยเร็ว ทั้งนี้หมายเรียกพยานจะทยอยส่ง วันนั้นที่เราเข้าไปยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เมื่อให้ความร่วมมือ พยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ ยืนยันมีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐได้
เมื่อถามถึงประเด็นการไม่ขยายผลไปค้นบ้านพักพล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ปปป.จะทำงานทุกมิติให้ได้ข้อเท็จจริง โดยจะทำงานอย่างเต็มที่ ปปป.และป.ป.ท.จะทำอะไรทุกอย่างจะต้องมีหลักฐานรัดกุมให้มากกว่านี้ เล่นกับพายุใหญ่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ไม่ขยายผล
"เราขยายผลแต่เราใช้วิธีการของเราในการขยาย ทำไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่กระทำการไม่กระทำการ ถ้าเขาปฏิบัติตัวดีเรื่องก็ไม่เกิด ผมเชื่อว่ากรมอุทยานอยู่มานานปัญหาไม่มี เมื่อบุคคลไปสร้างปัญหาก็เป็นเรื่องของบุคคลก็ต้องว่ากันไป" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำเพิ่ม ส่วนเงินจะส่งต่อให้ใครอีกบ้าง ชุดสืบสวนได้ทำงานอยู่ ฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับซองให้มาให้ปากคำ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมให้ความเป็นธรรมยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง
"ส่วนเรื่องคลิปขอแก้ข่าวว่าตำรวจกับป.ป.ช.ไม่ได้ปล่อยคลิป ผมจะทำทุกมิติให้กระจ่างให้ได้ว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีบิดเบี้ยวว่ากันด้วยพยานหลักฐาน อะไรที่เป็นของใครก็ต้องชี้แจงให้ได้ ชี้แจงไม่ได้ก็อาจจะตกเป็นจำเลยก็ได้ ส่วนหน้าซองสีน้ำตาลส่วนใหญ่ชื่อหน้าซองเป็นชื่อหน่วยงาน และมีชื่อบุคคลก็มีปะปนกันไป"
สำหรับไทม์ไลน์ เรื่อง ร้องเรียนการทุกจริต ของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มีดังนี้
1. วันที่ 23 ก.พ. 2565 นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ได้รับการแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
2. วันที่ 24 ก.ค. 2565 นายรัชฎา ฯ ได้ลงนาม ในหนังสือแจ้งเวียนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0901.304/ว3952 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ แจ้งให้ข้าราชการในสังกัดถือปฏิบัติ ดังนี้
2.1. กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการในสังกัดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ให้ปฏิบัติราชการตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่ง เปลี่ยนแปลง
2.2. กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการ หรือไปช่วยปฏิบัติราชการต่างสังกัด (ภายในกรม) รวมทั้งผู้ที่มาช่วยปฏิบัติราชการจากส่วนราชการอื่น ให้ปฏิบัติราชการตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายต่อไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565
2.3. กรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งมอบหมายให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ราชการทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้ากลุ่ม และ/หรือ หัวหน้าหน่วยงานใดแล้ว ให้ผู้ซึ่งทำหน้าที่นั้นอยู่เดิม กลับไปปฏิบัติราชการต้นสังกัด หรือไปปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป
2.4. ให้ผู้อำนวยการสำนักทุกสำนัก ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทุกสำนัก ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษาสาขา ผู้อำนวยการกองทุกกอง และหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกอื่นที่ขึ้นตรงต่ออธิบดี จัดทำคำสั่งมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบให้ข้าราชการซึ่งกลับไปปฏิบัติราชการ ต้นสังกัดตามข้อ 3 ทุกราย
3. วันที่ 28 ก.พ. 2565 นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย ผู้อำนวยการสำนักสาขา ผู้อำนวยการส่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกรด A (ขนาดใหญ่) ทั้งทางบกทางทะเล ทั่วประเทศ จำนวนหลายคำสั่ง และมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยออกคำสั่งแต่งตั้งทุก 3 วัน เป็นต้นมา
4. จากนั้น นายชัฒวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่ามีการเรียกรับเงินในการโยกย้ายตำแหน่งของอธิบดีกรม อส. จากอดีตผู้บังคับบัญชา เพื่อน รุ่นน้อง จำนวนมาก
5. วันที่ 4 ส.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ฯ มีหนังสือร้องเรียนขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง (ในทางลับ) กรณีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มรพฤติกรรมทุจริต และปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายประการ ถึงนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา
6. วันที่ 15 ส.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ เข้าพบนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการพูดคุยถึงการทุจริตเรียกรับเงินโดยนายรัชฎา อธิบดีกรมอุทยานฯ ในการเรียกรับ วิ่งเต้น โยกย้าย ข้าราชการของข้าราชการในกรม ซึ่งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ได้แจ้งว่าตนไม่รู้ไม่เห็น และไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน หากมีหลักฐานให้นำมาแสดงมาแจ้งได้เลย
7. วันที่ 3 ต.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ กลับไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ได้รับแจ้งจากผู้ใต้บังคับบัญชามีอธิบดีมีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากหัวหน้าหน่วยงาน
8. ปลายเดือนต.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ ได้เข้าพบอธิบดีที่ห้องทำงานจึงได้ทราบว่าอธิบดีมีการเรียกเก็บเงินจากหน่วยงานที่เป็นผู้บังคับบัญชาอยู่จริง และเงินดังกล่าวให้ตนเป็นผู้นำมาส่ง
9. วันที่ 22 ธ.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เรียกตนเพื่อสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมกรณีที่มีการร้องเรียน อธิบดีกรมอุทยานฯ ตามหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 4 ส.ค. 2565
10. วันที่ 26 ธ.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ฯ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าตำรวจ ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อมูลพยานข้อเท็จจริง และมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
11. วันที่ 27 ธ.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มาที่ห้องทำงานอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมแจ้งเหตุ และตรวจสอบพบเงินที่ดำเนินการล่อซื้อและขยายผลตรวจพบเงินและเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับเงินดังกล่าว โดยตรวจยึดไว้เป็นของกลางจำนวน 21 รายการ เป็นเงินจำนวน 4,843,300 บาท พร้อมจับกุมตัวรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐาน เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
อ่านประกอบ :
- ปปป.เรียก หน.ชัยวัฒน์พร้อมพยานชุดแรกให้การพรุ่งนี้ เอาผิดคดีสินบนอธิบดีอุทยานฯ
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- โชว์คำสั่งย้าย 'รัชฎา' เข้ากรุสำนักนายกฯ ตัดหน้า ทส.? 'วิษณุ' ชง 'บิ๊กตู่' ลงนาม
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- วางเงินสด 4 แสน! 'รัชฎา' ได้ประกันตัวชั่วคราว พนง.สอบสวนเชื่อไม่น่ามีพฤติการณ์หลบหนี
- เจอชื่อบนซอง! เตรียมออกหมายเรียก 20คนให้ปากคำคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ
- นายกฯสั่งอธิบดีอุทยานฯถูกกล่าวหารับสินบนเข้าทำเนียบ-เจ้าตัวยันถูก 'ชัยวัฒน์' กลั่นแกล้ง