ศาลปค.กลางนัด 5 ก.ย.67 พิจารณาครั้งแรก คดี 'ชาญ พวงเพ็ชร์-พวก 2 ราย ฟ้องนายก อบจ.ปทุมธานี หลังโดนเรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ อบจ.ได้รับความเสียหายจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น 44 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2567 ศาลปกครอง ได้เผยแพร่กำหนดนัดพิจารณาคดีที่น่าสนใจของศาลปกครองในระหว่างวันที่ 2-6 ก.ย.2567 ซึ่งมีคดี นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี กับพวกรวม 2 คน ฟ้อง นายก อบจ.ปทุมธานี กับพวกรวม 4 คน เรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ อบจ.ปทุมธานีได้รับความเสียหายต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็นจริง 44 ล้านบาท
ศาลปกครอง ระบุว่า ในวันที่ 5 ก.ย.2567 เวลา 10.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 7 ชั้น 3 ศาลอาคารปกครอง ศาลปกครองกลางนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ 1015/2565 ระหว่าง นายชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ นายก อบจ.ปทุมธานี ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยคดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า นายก อบจ.ปทุมธานี ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีนายก อบจ.ปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) มีคำสั่งอบจ.ปทุมธานี ที่ 02389 และ 02390 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2564 เรียกให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดีทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้อบจ.ปทุมธานีได้รับความเสียหายต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้อุทธรณ์คำสั่งแล้ว แต่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาตามหนังสือ ลงวันที่ 24 ก.พ.2565 ให้ยกอุทธรณ์ จึงนำคดีมาฟ้อง
สำหรับคดีจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น ของ อบจ.ปทุมธานีนั้น สำนักข่าวอิศรา ( รายงานไปแล้วว่า เป็นหนึ่งในข้อกล่าวหา ที่ทำให้นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 35/2560 ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานตนสังกัดเป็นทางการ หลังถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเรื่องการตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เมื่อช่วงปี 2555-2556 จำนวนหลายสัญญา พบว่ามีการตั้งราคาจัดซื้อสูงเกินกว่าความเป็นจริงกว่า 44 ล้านบาท และมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมาย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา
ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2567 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการพิจารณาสำนวนไต่สวนกรณีกล่าวหา นายชาญ ในคดีนี้ แต่ยังไม่มีข้อสรุปการชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหารายใด เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้คณะไต่สวนไปสอบเพิ่มเติมหลายประเด็น จึงทำให้ไม่อาจลงมติชิ้มูลความผิดได้ ต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติม นำกลับเข้ามาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่คดีจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ของอบจ.ปทุมธานี ดังกล่าว เป็นคดีที่ 2 ที่ป.ป.ช.รับเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวน ต่อจากคดีการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2554 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกไปแล้ว ปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้วและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ และอาจส่งผลทำให้ นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเข้ารับตำแหน่งใหม่ หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ตามความเห็นทางกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฏีกา ที่ตอบข้อหารือ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 27 ส.ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานีใหม่ ตามมาตรา 106 วรรคสี่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 หลังพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล และพยานหลักฐานของสำนวนเรื่องร้องเรียนตามมาตรา65 (3) แล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ได้รับเลือกตั้ง จัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตนนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 67 มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม โดยมติสั่งเลือกตั้งใหม่ของ กกต. ที่ให้ใบเหลืองนั้น ทำให้การแข่งขันจะเป็นการใช้ผู้สมัครชุดเดิมโดยนายชาญ ซึ่งได้รับเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งคราวก่อนยังคงสามารถลงแข่งขันได้ ส่วนวันเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศ
อ่านประกอบ :
- 'ชาญ' ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุม แต่อาจต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่? เหตุศาลรับฟ้องคดีทุจริต
- เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ' คดีซื้อถุงยังชีพ ส่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมฯ
- สถ.เคยแจ้งเวียนแล้ว! ศาลฯรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนสั่งสอบให้พ้นตำแหน่งได้
- คลี่ปม! ข้อกม.-กรณีศึกษาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่-ทางรอด 'ชาญ' นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมฯ
- หลังสถ.แจ้งเวียน! จว.ปทุมฯ รู้เรื่องแล้วสั่งกำชับศาลรับฟ้องคดีทุจริตหยุดปฏิบัติหน้าที่
- ครบชุด! มติป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ-พวก 12 คน คดีซื้อถุงยังชีพ สั่งถอดถอนตำแหน่ง-แจ้ง กกต.ด้วย
- ไขปม 'ชาญ' โดนแจ้งถอดถอนตำแหน่งคดีซื้อถุงยังชีพ ไฉนลงเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ปทุมฯ ได้
- พร้อมทำตามกฤษฎีกา! จว.ปทุมฯแจ้ง มท. 'ชาญ' เข้ารับตำแหน่งสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
- เทียบเคียงกรณี 'ชาญ' : อดีตนายกเทศฯ นายายอาม ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผู้ว่าฯสั่งพ้นตำแหน่ง
- Coming Soon! จับตาผลคดีซื้อเครื่องออกกำลังแพง 44 ล. ดาบสองขวาง 'ชาญ' นั่งนายก อบจ.ปทุมฯ
ภาพปกข่าวจาก FB: Lungchanjaidee