ไขปมข้อสงสัย ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 'ชาญ พวงเพ็ชร์ - พวก' แจ้งผู้มีอำนาจดำเนินการถอดถอนจากตำแหน่ง ส่อเข้าคุณสมบัติต้องห้าม ไฉนสมัครลงเลือกตั้ง นายก อบจ.ได้อีก เผยจังหวัดปทุมธานี เคยทำหนังสือแจ้งมท.แล้ว เจ้าตัวแจ้งขอลาออกก่อนครบวาระ พ้นจากตำแหน่งเกินสองปีแล้ว ถอดถอนไม่ได้
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลเชิงลึก มติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายชาญ พวงเพ็ชร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี และพวก จากกรณีการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2554 (นายชาญ ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา เป็นว่าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี คนใหม่)
โดยผลการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นควรให้มีการส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายชาญ พวงเพ็ชร์ และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบ
ขณะที่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 49 , 50 , 51 ประกอบ พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2562 มาตรา 9 และ 35/1 ได้กำหหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ ข้อหนึ่งว่า จะต้องไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง ด้วย
จึงมีคำถามว่า นับจากวันที่ 31 มี.ค.2564 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชาญ พวงเพ็ชร์ จนถึงวันก่อนสมัครรับการเลือกตั้งตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งล่าสุดนี้ กระทรวงมหาดไทยมีการดำเนินการถอดถอนนายชาญ พวงเพ็ชร์ ออกจากตำแหน่งหรือไม่ ถ้าดำเนินการถอดถอนไปแล้ว นายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็อาจจะเข้าลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวจังหวัดปทุมธานี ว่า จังหวัดปทุมธานี ไม่ได้ดำเนินการถอดถอน นายชาญ พวงเพ็ชร์ ออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในคดีจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี 2554 เนื่องจากนายชาญ ได้แจ้งขอลาออกก่อนครบวาระ และพ้นจากตำแหน่งเกินสองปีแล้ว จึงไม่สามารถถอดถอนจากตำแหน่งได้
ข้อเท็จจริงเรื่องปรากฏอยู่ในหนังสือ จังหวัดปทุมธานี แจ้งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2564 เรื่องการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายชาญ และพวก กรณี จัดซื้อถุงยังชีพ เมื่อปี 2554
จังหวัดปทุมธานี ระบุว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายชาญ พวงเพ็ชร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และนายสาคร อำภิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหานายชาญ พวงเพ็ชร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กับพวก ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้อถุงยังชีพ จำนวน 2 ครั้ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
จังหวัดปทุมธานีพิจารณาจากหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ประกอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 98 บัญญัติว่า"เมื่อผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาได้รับสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช ตามมาตรา 91 แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาผู้นั้นพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก
โดยในการพิจารณาโทษทางวินัยแก่ผู้ถูกกล่าวหาให้ถือว่าสำนวนการไต่สวนของกรรมการ ป.ป.ช.เป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนวินัยตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหานั้น แล้วแต่กรณี และการดำเนินการทางวินัยตามวรรคหนึ่งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนพิจารณาสั่งลงโทษผู้ถูกกล่าวหาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนได้รับแจ้งมติที่ได้ขอให้คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาทบทวนตามมาตรา 99 วรรคสอง
ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหานั้นจะพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก่อนหรือหลังที่คณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีมติวินิจฉัยมูลความผิดเว้นแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีมติ เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา 48 แล้ว แต่ไม่เป็นการตัดอำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป"
จึงเป็นกรณีที่ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางที่กฎหมายกำหนด แต่ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 มาตรา 79 กำหนดหน้าที่และวิธีการปฏิบัติไว้ว่า "เมื่อผลการสอบสวนตามมาตรา 77 วรรคสาม ปรากฏว่า ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกสอบสวน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานให้รัฐมนตรีพิจารณาและสั่งให้ผู้ถูกสอบสวนพ้นจากตำแหน่งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อนแล้วหรือไม่ ก็ตาม เว้นแต่เพราะเหตุตาย หรือพ้นจากตำแหน่งไปแล้วเกินสองปี
โดยในคำสั่งดังกล่าวให้ระบุเหตุที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งไว้และให้มีผลตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีมีคำสั่งแต่ไม่กระทบต่อการดำเนินงานและการรับค่าตอบแทนที่ได้กระทำไปก่อนวันที่มีคำสั่งนั้นถ้าในขณะที่มีคำสั่งดังกล่าวผู้นั้นกำลังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นอันเป็นผลจากการเลือกตั้งต่างวาระหรือต่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกันให้ผู้นั้นพันจากตำแหน่งที่กำลังดำรงอยู่ด้วยและให้ถือว่าวันที่สั่งให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวเป็นวันเริ่มนับระยะเวลาต้องห้ามการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งคำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด"
ซึ่งจากการตรวจสอบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2551 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของนายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และนายสาคร อำภิน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ปรากฏว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2551 โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551
ต่อมา ได้พ้นจากตำแหน่งไปในปี พ.ศ. 2555 เนื่องจากลาออกก่อนครบวาระ และได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (แทนตำแหน่งที่ว่าง) อีกครั้งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2555
โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ซึ่งเมื่อพิจารณาตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 ประกอบแนวทางปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่ มท 0804./ ว 51 ลงวันที่ 5 มกราคม 2564
จึงเป็นกรณีที่ไม่อาจสั่งให้นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และนายสาคร อำภิน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พ้นจากตำแหน่งตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้พ้นจากตำแหน่งเกินสองปีแล้ว (ดูหนังสือประกอบ)
สำหรับพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 79 ระบุว่า เมื่อผลการสอบสวนตามมาตรา ๗๗ วรรคสาม ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกสอบสวน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานให้รัฐมนตรีพิจารณาและสั่งให้ผู้ถูกสอบสวนพ้นจากตำแหน่งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้พ้นจากตำแหน่งไปก่อนแล้วหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่เพราะเหตุตาย หรือพ้นจากตำแหน่งไปแล้วเกินสองปี โดยในคำสั่งดังกล่าวให้ระบุเหตุที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งไว้ และให้มีผลตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีมีคำสั่ง แต่ไม่กระทบต่อการดำเนินงานและการรับค่าตอบแทนที่ได้กระทำไปก่อนวันที่มีคำสั่งนั้น ถ้าในขณะที่มีคำสั่งดังกล่าวผู้นั้นกำลังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นอันเป็นผลจากการเลือกตั้งต่างวาระหรือต่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกัน ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งที่กำลังดำรงอยู่ด้วย และให้ถือว่าวันที่สั่งให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวเป็นวันเริ่มนับระยะเวลาต้องห้ามการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งคำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
ในกรณีที่รัฐมนตรีเห็นควรให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมจากรายงานตามวรรคหนึ่งจะสั่งให้คณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนสั่งการก็ได้ ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนต้องดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม และรัฐมนตรีต้องสั่งการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานการสอบสวนเพิ่มเติมนั้น
อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวยืนยันจากจังหวัดปทุมธานีว่า เกี่ยวกับกรณี นายชาญ พวงเพ็ชร์ ขณะนี้ทางจังหวัดปทุมธานี ในฐานะเป็นผู้กำกับดูแลองค์กรท้องถิ่นของจังหวัด มีความเห็นชัดเจนว่า จะดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ การสั่งให้นายชาญ หยุดปฏิบัติหน้าที่หลังเข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี เป็นทางการแน่นอน
ภาพประกอบปก จาก https://www.4forcenews.com/
อ่านประกอบ :
- 'ชาญ' ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุม แต่อาจต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่? เหตุศาลรับฟ้องคดีทุจริต
- เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ' คดีซื้อถุงยังชีพ ส่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมฯ
- สถ.เคยแจ้งเวียนแล้ว! ศาลฯรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนสั่งสอบให้พ้นตำแหน่งได้
- คลี่ปม! ข้อกม.-กรณีศึกษาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่-ทางรอด 'ชาญ' นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมฯ
- หลังสถ.แจ้งเวียน! จว.ปทุมฯ รู้เรื่องแล้วสั่งกำชับศาลรับฟ้องคดีทุจริตหยุดปฏิบัติหน้าที่
- ครบชุด! มติป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ-พวก 12 คน คดีซื้อถุงยังชีพ สั่งถอดถอนตำแหน่ง-แจ้ง กกต.ด้วย