"...เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกได้เดินทางไปรายงานตัวเพื่อส่งฟ้องคดีทุจริตถุงยังชีพดังกล่าว พร้อมยื่นขอประกันตัว โดยใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว ก่อนที่ศาลฯ จะมีการนัดไต่สวนสืบคดีในครั้งต่อไป ขณะที่ คดีนี้ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องเอง หลังไม่สามารถหาข้อยุติความไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีกับฝ่ายอัยการได้ โดยศาลฯ จะมีการนัดไต่สวนสืบคดีในช่วงกลางเดือน ก.ค.2567 นี้ ..."
การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี คนใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา
สาธารณชนคงได้รับทราบผลไปแล้วว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี หลายสมัย เอาชนะ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี สมัยที่แล้วไปได้ ด้วยคะแนนประมาณ 1,969 คะแนน
อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่ออกมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกระหึมตามมาเช่นกันว่า สุดท้ายแล้ว นายชาญ พวงเพ็ชร์ จะสามารถดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งใหม่ นี้ ได้จริงหรือ?
เพราะ
หนึ่ง.
ก่อนหน้านี้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี และพวก ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2555
ปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้วและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ
โดยเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกได้เดินทางไปรายงานตัวเพื่อส่งฟ้องคดีทุจริตถุงยังชีพดังกล่าว พร้อมยื่นขอประกันตัว โดยใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว ก่อนที่ศาลฯ จะมีการนัดไต่สวนสืบคดีในครั้งต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช.ระบุว่า คดีนี้ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องเอง หลังไม่สามารถหาข้อยุติความไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีกับฝ่ายอัยการได้ โดยศาลฯ มีการนัดไต่สวนสืบคดีในช่วงกลางเดือน ก.ค.2567 นี้
สอง.
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกฤษฏีกา ได้เผยแพร่ความเห็นทางกฎหมายตอบข้อหารือ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่การให้ความเห็นว่า เมื่อศาลคดีอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่นแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 อันเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมาย ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งและกลับมาดำรงดำแหน่งเดิมใหม่ โดยผู้กำกับดูแลมิต้องมีคำสั่งอีก แต่ผู้กำกับดูแลมีหน้าที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) พิจารณาแล้ว เห็นว่า การที่มาตรา 93 ประกอบกับมาตรา 81 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เจตนารมณ์ประการหนึ่งก็เพราะว่าในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิดจะมีผลทำให้บุคคลนั้นหมดสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าดำรงตำแหน่งนั้นอีกต่อไป การให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการยุติความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งและกลับมาดำรงดำแหน่งเดิมใหม่ในอีกวาระหนึ่ง จึงมิได้ทำให้การต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจหรือการสั่งการใด ๆ ที่อาจมีปัญหาความชอบต้วยกฎหมายได้
ล่าสุด มีรายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีการเข้าสมัครเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี และ การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของ นายชาญ พวงเพ็ชร์ หลังการเลือกตั้ง นายกอบจ.ปทุมธานี เป็นทางการแล้ว
โดยประเด็นแรก กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีทุจริต ศาลฯ ประทับรับฟังแล้ว ทำไมยังสมัครเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี
สถ. ระบุว่า การที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ถูกศาลอาญาฯประทับฟ้อง โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ คดีจึงยังไม่ถึงที่สุด และไม่ได้ถูกคุมขังโดยหมายศาล อีกทั้งไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ดังนั้น นายชาญ จึงยังไม่มีลักษณะต้องห้าม และสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ปทุมธานี ได้ ตาม พ.ร.บ.อบจ.2540 มาตรา 35/1 ประกอบ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ม. 50 (5) (6) และ (10)และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ม. 81 และม. 93
ส่วนประเด็นที่สอง ทำไม นายชาญ พวงเพ็ชร์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี แม้ต่างกรรม ต่างวาระ
สถ. ระบุว่า การที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้กระทำความผิดเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายก อบจ. ปทุมธานี ในวาระก่อน และศาลอาญาฯได้ประทับฟ้องนายชาญ เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม แม้ต่อมาเมื่อนายชาญ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ปทุมธานี ในอีกวาระหนึ่ง นายชาญ ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ม. 81 และม. 93 เทียบเคียงความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565
จากข้อมูลทั้งหมด ชี้ให้เห็นว่า แม้ นายชาญ พวงเพ็ชร์ จะเอาชนะ การเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี สมัยนี้ได้
แต่ก็อาจจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันทีเข้ารับตำแหน่งตามเงื่อนไขทางกฎหมายที่กำหนดไว้ อันเป็นผลพ่วงสืบเนื่องมาจากคดีทุจริตที่ศาลฯ ประทับรับฟ้องไว้แล้ว
เส้นทางการดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งใหม่ จึงอาจไม่ง่ายและสวยงามอย่างที่ใครหลายคนคิด และวาดหวังไว้
ถึงขนาดลงทุนขนครอบครัวลงไปช่วยกันหาเสียงอย่างเอิกเกริก ก่อนหน้านี้ก็เป็นได้
ภาพประกอบเรื่องจาก https://www.sanook.com/