"... คำถาม คือ นับจากวันที่ 31 มี.ค.2564 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชาญ พวงเพ็ชร์ จนถึงวันก่อนสมัครรับการเลือกตั้งตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งล่าสุดนี้ กระทรวงมหาดไทยมีการดำเนินการถอดถอนนายชาญ พวงเพ็ชร์ ออกจากตำแหน่งหรือไม่ ถ้าดำเนินการถอดถอนไปแล้ว นายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็อาจจะเข้าลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ แต่ถ้าไม่มีการดำเนินการถอดถอน ก็จะมีคำถามตามมาว่า เพราะอะไร ผู้มีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึงไม่ดำเนินการเรื่องนี้..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณี นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี คนใหม่ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2554 ปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้วและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ และอาจส่งผลทำให้ นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ ตามความเห็นทางกฎหมาย คณะกรรมการกฤษฏีกา ที่ตอบข้อหารือ กระทรวงมหาดไทย เรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริหารท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ที่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนไปแล้ว
- 'ชาญ' ชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุม แต่อาจต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่? เหตุศาลรับฟ้องคดีทุจริต
- เปิดมติ ป.ป.ช.ชี้มูล'ชาญ' คดีซื้อถุงยังชีพ ส่อถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมฯ
- สถ.เคยแจ้งเวียนแล้ว! ศาลฯรับฟ้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ฝ่าฝืนสั่งสอบให้พ้นตำแหน่งได้
- คลี่ปม! ข้อกม.-กรณีศึกษาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่-ทางรอด 'ชาญ' นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมฯ
- หลังสถ.แจ้งเวียน! จว.ปทุมฯ รู้เรื่องแล้วสั่งกำชับศาลรับฟ้องคดีทุจริตหยุดปฏิบัติหน้าที่
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า คดีการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2555 ดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 ลงมติชี้มูลความผิด นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวก กรณีถูกกล่าวหาทุจริตในการจัดซื้อถุงยังชีพในโครงการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอุทกภัยในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 ครั้ง เมื่อปี 2554 มูลค่านับล้านบาท
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้นพิจารณาแล้ว มีมติเอกฉันท์ 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่า การกระทำของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และ มาตรา 162 (1) , (4) ประกอบมาตรา 91 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192
นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิด ฐานละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 79
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงใน ป.ป.ช. ว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มีจำนวนมากถึง 13 ราย ปรากฏรายชื่อดังนี้
- นายชาญ พวงเพ็ชร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี
- นายสาคร อำภิน (เคยดำรงตำแหน่งเป็น รอง นายก อบจ.ปทุมธานี
- นายเดชา พวงงาม (เคยดำรงตำแหน่งเป็นปลัด อบจ.ปทุมธานี)
- นายสถาพร วงศ์พานิช
- นางสาวโสพนา ภักดิ์ประไพ ( เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัสดุและทรัพย์สิน)
- นายสมบูรณ์ พิลาโสภา (เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อม และสวนสาธารณะ )
- นางจิ้นดา หรืออาริยา พึ่งธรรม
- นายประเดิม แตงอ่อน
- นายชัยณรงค์ บ่อน้ำเชี่ยว
- นายธราธร เอี่ยมสะอาด
- นายรังสฤษดิ์ ใยยุง
- นายไพโรจน์ ชัยบางบาล หรือเรืออากาศโท ไพโรจน์ ชัยยางบาล
- นายสุเทพ หรั่งฉายา
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2564 มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ และพวกรวม 13 ราย ตามรายชื่อด้านบน
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายเดชา พวงงาม , นายสถาพร วงศ์พานิช, นางศศกรณ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ หรือชัยพัฒน์ , นางสาวโสพนา ภักดิ์ประไพ, นายสมบูรณ์ พิลาโสภา, นางจินดา หรืออาริยา พึ่งธรรม นายประเดิม แตงอ่อน, นายชัยณรงค์ บ่อน้ำเชี่ยว, นายธราธร เอี่ยมสะอาด และนายรังสฤษดิ์ ใยยุง และส่ง
พร้อมส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายชาญ พวงเพ็ชร์ และนายสาคร อำภิน ตามฐานความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป
รวมถึงการให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ
สั่งการให้ แจ้ง อบจ.ปทุมธานี ดำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิด และแจ้งรายชื่อร้าน 108 ช๊อป มินิเอาท์เลท (คู่สัญญา) ไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการขึ้นบัญชีดำต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี คดีนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2554 อบจ.ปทุมธานี ได้ทำสัญญา ซื้อถุงยังชีพ จำนวน 6,000 ถุง กับร้าน108ช๊อป มินิ เอท์เลท มูลค่าตามสัญญา 3,000,000 บาท
ทั้งนี้ จากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีนี้ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
มีข้อสังเกตสำคัญที่อยู่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในส่วนที่ให้มีการส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายชาญ พวงเพ็ชร์ และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบ
เพราะตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 49 , 50 , 51 ประกอบ พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2562 มาตรา 9 และ 35/1 ได้กำหหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ ข้อหนึ่งว่า จะต้องไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง ด้วย
คำถาม คือ นับจากวันที่ 31 มี.ค.2564 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายชาญ พวงเพ็ชร์ จนถึงวันก่อนสมัครรับการเลือกตั้งตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งล่าสุดนี้
กระทรวงมหาดไทยมีการดำเนินการถอดถอนนายชาญ พวงเพ็ชร์ ออกจากตำแหน่งหรือไม่
ถ้าดำเนินการถอดถอนไปแล้ว นายชาญ พวงเพ็ชร์ ก็อาจจะเข้าลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้
แต่ถ้าไม่มีการดำเนินการถอดถอน ก็จะมีคำถามตามมาว่า เพราะอะไร ผู้มีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึงไม่ดำเนินการเรื่องนี้
เพราะข้อเท็จจริงส่วนนี้ อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุประการสำคัญ ที่ทำให้การเลือกตั้งนายอบจ.ปทุมธานี ครั้งล่าสุด เกิดปัญหาความวุ่นวาย
แบบที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้