ศาล ปค.สูงสุดพิพากษากลับ ยกฟ้องคดีปลด'หมอชัยเลิศ'พ้นอธิการบดี มสธ.ก่อนครบวาระ

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 04 เมษายน 2567 เวลา 16:35 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

10896 views

040424 chailert

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากลับชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง คดี 'หมอชัยเลิศ' ยื่นฟ้องสภา มสธ. ปมถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดี ชี้หลักฐานชัด คำแก้ข้อกล่าวหาฟังไม่ขึ้น คำสั่งปลดชอบด้วยกฎหมาย

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ความคืบหน้ากรณีสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ได้มีมติถอดถอน รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ พิชิตพรชัย อธิการบดีออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ

รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ ได้ยื่นฟ้องสภามหาวิทยาลัย และนายกสภาฯ ต่อศาลปกครองกลาง โดยอ้างว่า การถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และคืนตำแหน่งอธิการบดีให้ตามเดิม และขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามคำสั่งสภามหาวิทยาลัยได้ถอดถอนตำแหน่งอธิการบดีไว้ก่อน และขอให้ระงับการสรรหาอธิการบดีไว้ก่อน

ศาลปกครองกลาง ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ศาลมาคำสั่งทุเลาการบังคับ และมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งสภามหาวิทยาลัยที่ 9/2559 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ที่ถอดถอนอธิการบดีออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ

อย่างไรก็ตาม สภามหาวิทยาลัย ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ อบ. 338/2562 คดีแดงหมายเลขแดงที่ อบ. 46/2567 มีคำพิพากษา กลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง

ศาลให้เหตุผลว่า จากการพิจารณาจากสรุปข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ความเห็นของคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง และคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ ตามคำสั่งของสภา มสธ. และนายกสภาฯ รวมถึงข้อชี้แจงของ รศ.ดร.นพ.ชัยเลิศ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเห็นว่า คำชี้แจงของผู้ฟ้องคดีไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างข้อกล่าวหาของคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง และคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงฯ

ทั้งกรณี ใช้เวลาในตำแหน่งหน้าที่อธิการบดี มสธ. สอนหนังสือและควบคุมการสอนนักศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในปีการศึกษา 2557 จำนวน 15 ชั่วโมง 30 นาที และในปี 2558 จำนวน 13 ชั่วโมง โดยไม่ปรากฎหลักฐานว่าผู้ฟ้องคดีได้รับการอนุญาต และกรณีการเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 58 โดยไม่รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย เป็นข้อเท็จจริงที่เห็นได้ว่า

การปฏิบัติราชการของผู้ฟ้องคดีมีความเสียหายที่กระทบต่อ มสธ.ในประการอื่นๆ ได้แก่ การไม่ปฏิบัติตามคำมั่นและการไม่สามารถดำเนินการตามคำมั่นในการแก้ไขปัญหา มสธ. อาจทำให้ มสธ.ได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ พฤติการณ์การกระทำของผู้ฟ้องคดียังไม่เป็นไปตามข้อกฎหมายและเงื่อนไขการยืมตัวในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาดำรงตำแหน่งอธิการบดี มสธ. ปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา เป็นเวลา 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2556 จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2560 ถือเป็นความบกพร่องในการบริหารงานตามพระราชบัญญัติ มสธ. ไม่เป็นการอุทิศเวลาให้กับงานในหน้าที่อธิการบดีได้เต็มที่ตามข้อบังคับ และไม่สามารถบริหารงานตามพันธะสัญญาที่ได้เสนอต่อสภามหาวิทยาลัย

ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีมติให้ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดี มสธ. จึงเป็นไปตามขั้นตอนโดยชอบตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว

ส่วนการที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งสภามหาวิทยาลัยที่ 9/2559 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดี นับตั้งแต่วันที่ออกคำสั่ง โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 พิจารณาคืนสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ให้แก่ผู้ฟ้องคดีตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กฎหมายหรือระเบียบในเรื่องดังกล่าวกำหนด นั้น

ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้ยกฟ้อง

อ่านประกอบ:

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

หมวดหมู่
ข่าว | Isranews | ในกระแส
Tags
ชัยเลิศ พิชิตพรชัย | แต่งตั้งอธิการบดี มสธ. | มสธ. | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช