‘ศาลปกครองกลาง’ สั่งเพิกถอนประกาศ กสทช. แผนบริหารสิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ‘ภาคผนวก ข’ บางส่วน คืนสิทธิเข้าใช้วงโคจรฯของ ‘ไทยคม 7-8’ ให้ ‘บมจ.ไทยคม’ หลังคำชี้ขาดฯ 'อนุญาโตุลาการ' ระบุ 'ไทยคม 7-8' ไม่ใช่ดาวเทียมภายใต้สัมปทานฯ
.....................................
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1389/2563 ,1386/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 512-513/2567 ระหว่าง บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 1 บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 2 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้ร้องสอด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ถูกฟ้องคดี
โดยฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม (พ.ศ.2563) ลงวันที่ 13 ก.พ.2563 ,ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม
และมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ในวาระที่ 5.2.11 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลาง คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างผู้ฟ้องคดีทั้งสองกับผู้ร้องสอด ในข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 97/2560 หมายเลขแดงที่ 65/2565 เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2565 โดยวินิจฉัยว่า ดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ไม่เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาสัมปทาน
แต่เป็นดาวเทียมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามของผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นการชี้ขาดข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ สำหรับดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ระหว่างผู้ฟ้องคดีทั้งสองและผู้ร้องสอด โดยคณะอนุญาโตตุลาการแล้ว คำชี้ขาดดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันคู่กรณีจนกว่าศาลที่มีเขตอำนาจจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนหรือบังคับตามคำชี้ขาดดังกล่าว
ดังนั้น ข้อกำหนดในภาคผนวก ข รายละเอียดเกี่ยวกับข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ แนบท้ายประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม (พ.ศ.2563) ลงวันที่ 13 ก.พ.2563
เฉพาะส่วนที่กำหนดให้ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3 THAICOM-A3B THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2 ที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 เป็นข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีการหารือกับผู้ร้องสอด จึงขัดกับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว และมีผลให้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ฉะนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) มีมติในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ในวาระที่ 5.2.11 อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมสำหรับดาวเทียม จำนวน 10 ข่ายงานดาวเทียม ตามภาคผนวก ข ของประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง แผนบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม (พ.ศ.2563) ซึ่งรวมถึงข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3 THAICOM-A3B THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2 ที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิในการดำเนินกิจการตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
พิพากษาให้เพิกถอนภาคผนวก ข รายละเอียดเกี่ยวกับข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ แนบท้ายประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม (พ.ศ.2563) ลงวันที่ 13 ก.พ.2563
ในส่วนที่กำหนดให้ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3 THAICOM-A3B THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2 ที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 เป็นข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศนับตั้งแต่วันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ
และเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ในวาระที่ 5.2.11 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 นับตั้งแต่วันที่มีมติดังกล่าว
สำหรับคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของศาล ลงวันที่ 9 ส.ค.2564 นั้น ให้มีผลต่อไปจนกว่าคดีถึงที่สุดหรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
รายงานข่างแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ผู้ฟ้องคดี (บมจ.ไทยคม และบมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์) ฟ้องว่า กสทช. กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีประกาศ เรื่อง แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม พ.ศ.2563 ในข้อ 9.7 และข้อ 40 และภาคผนวก ข โดยไม่คำนึงถึงสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 (บมจ.ไทยคม) ได้รับก่อนจะมีประกาศฉบับดังกล่าว และผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติในการประชุม ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่ามติดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้อง
อ่านประกอบ :
‘ป.ป.ช.’ตั้งคณะ กก.ไต่สวนฯ‘พ.อ.เศรษฐพงค์-พวก’ ออกไลเซนส์ดาวเทียม‘ไทยคม’ปี 55 มิชอบ
มติเอกฉันท์! ‘คณะอนุญาโตตุลาการ’ ชี้ ‘ไทยคม 7-8’ ไม่ใช่ดาวเทียมภายใต้สัญญาสัมปทาน
‘ศาลปค.สูงสุด’สั่งทุเลาบังคับ‘มติ กสทช.’ เปิดทาง THCOM ใช้วงโคจรดาวเทียมไทยคม 7-8 ได้
‘ศาลปค.สูงสุด’นัดชี้ขาด กรณี ‘กสทช.-ก.ดีอีเอส’ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคดีดาวเทียมไทยคม 7-8
ฟ้องนัว 4 คดี! ‘ไทยคม-ดีอีเอส’ ยื่น ‘ศาลปค.กลาง’ ชี้ขาดข้อพิพาทดาวเทียม-ตั้งอนุญาโตฯ
‘พฤฒิพร เนติโพธิ์’ แจ้งถอนตัว ‘อนุญาโตฯ’ คดีไทยคม-ยันคู่กรณีไม่คัดค้าน 'ความเป็นกลาง’
อธิบดีอัยการสำนักอนุญาโตฯ ระบุชัด ‘ก.ดีอีเอส’ ตั้ง 'พฤฒิพร' คดีไทยคม ขัดระเบียบ-กม.
เปิดละเอียดข้อกล่าวหา!ยื่น ป.ป.ช.สอบ ‘รมว.ดีอีเอส- อสส.’ แทรกแซงตั้งอนุญาโตฯคดีไทยคม
‘ก.อ.’ ถกปมตั้ง ‘อนุญาโตฯ’ คดีดาวเทียมไทยคม ส่อมีปัญหา-แนะ ‘พฤฒิพร’ ถอนตัว
‘ดีอีเอส’ โยน ‘อสส.'ทบทวนตั้ง ‘พฤฒิพร’เป็นอนุญาโตฯคดีไทยคม หลังมีข้อครหาไม่เป็นกลาง
โชว์คำสั่ง‘บิ๊กตู่’! ตั้ง‘พล.อ.วิทวัส’นั่งปธ.ตรวจสอบสัมปทานดาวเทียม-ถกนัดแรก 13 ก.ย.
‘บอร์ด กสทช.’ ไฟเขียว NT เข้าใช้วงโคจรดาวเทียม หลังสิ้นสุดสัมปทาน 'ไทยคม'
ย้อนปมแก้สัญญาดาวเทียม! ก่อนครม.ไล่เบี้ยหาคนผิด ลดหุ้น'ไทยคม’-ไม่ประมูล‘ไอพีสตาร์’
ครม.ไฟเขียวแก้สัญญาดาวเทียม ให้‘อินทัช’ ถือหุ้น‘ไทยคม’ไม่ต่ำกว่า 51%-ผนวก'ไอพีสตาร์'