รัชฎา จ่อฟ้องเพิ่มเอาผิด ป.ป.ช.-ป.ป.ท. ด้วย ปมจับกุมเรียกรับเงินส่วย ยันเป็นการทำหน้าที่โดยมิชอบ มีข้อมูลเพียงพอพิสูจน์ได้ ส่วนกรณีศาลสั่งแก้คำฟ้อง'ผบก.ปปป.-ชัยวัฒ์น์' ทนายรัชฎา เตรียมแก้คำฟ้องตามคำสั่งศาลยื่นฟ้องใหม่ ยัน รัชฎา 23 ก.พ. นี้ ไปไต่สวนคดีด้วยตัวเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าจับกุมกรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยมีการล่อซื้อ มีการติดกล้องวงจรปิด ตำรวจตามเข้าไปค้นพบเงินสดบนโต๊ะทำงาน และห้องแต่งตัวประมาณ 5 ล้านบาท ขณะนี้ นายรัชฎา อยู่ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และมีการให้ออกราชการไว้ก่อน ขณะที่ นายรัชฎา ได้มอบหมายให้ทนายความนำมายื่นฟ้องคดีความอาญา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จากกรณีการถูกจับกุมเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามดังกล่าว
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ 2566 ศาลนัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำ อท.23/2566 ที่นายรัชฎา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 7 คนเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ, ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานกลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษ, บุกรุก, ซ่องโจรฯ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยศาลพิเคราะห์ คำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่า คำฟ้องบางส่วนยังฟ้องไม่ถูกต้องในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฯ เนื่องจากโจทก์ยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดว่าผู้ถูกฟ้องละเมิดอย่างไร และต้องชี้ช่องพยานหลักฐานนำสืบเพื่อให้ศาลเห็น และให้ยื่นฟ้องคดีมาใหม่ภายใน 15 วัน ส่วนการฟ้องฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ศาลมีคำสั่งให้นายรัชฎา ในฐานะโจทก์ต้องมาไต่สวนถึงพฤติการณ์ก่อนและในขณะถูกจับกุม ในวันที่ 23 ก.พ. 2566 หากไม่เดินทางมาไต่สวนด้วยตัวเองถือว่าไม่ประสงค์ฟ้องคดีต่อ
ขณะที่ นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของนายรัชฎา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เตรียมแก้คำฟ้องตามคำสั่งของศาลและจะยื่นฟ้องใหม่ โดยนายรัชฎา จะมาไต่สวนที่ศาลด้วยตัวเองในวันที่ 23 ก.พ. 2566 พร้อมยืนยันว่าการเข้าตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีข้อมูลเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้
"ส่วนตัวคิดว่า การทำงานของ ป.ป.ช. ดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะการปฎิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายคือรวมกับทาง ปปป. เป็นการเข้าจับกุมโดยไม่มีหมายค้น หมายจับ อีกทั้งไม่ได้เป็นความผิดในซึ่ง ๆ หน้า และพยานหลักฐานที่ใช้ในการจับกุม จำนวนเงิน 98,000 บาท ในการล่อซื้อ มันไม่ใช่เป็นเงินที่ในการเรียกรัดจากส่วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ทางทนายมีข้อมูลอยู่เบี้ยงต้นว่า เจ้าของเงินยืนยันว่าไม่ได้จ่ายเป็นส่วย และทาง ปปป. ป.ป.ช. มีข้อมูลตรงนี้อยู่แล้วด้วย" นายวราชันย์ ระบุ
นายวราชัย์ กล่าวอีกว่า การจับกุมของ ปปป. โดยปกติแล้ว จะต้องมีการสืบก่อน สืบจนแน่ชัดว่า คนที่จะเข้าจับกุมเป็นผู้กระทำความผิดจริง แต่กรณีนี้ การจับกุมโดยที่ว่าไม่สืบก่อน โดยไม่มีการสอบที่มาของเงินก่อนว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินส่วยจริงหรือไม่
นายวราชันย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเด็นที่จะฟ้องนี้ ความจริงในการเข้าตรวจค้นจับกุมมันถูกตั้งต้นมาจาก ป.ป.ช. โดยทางนายชัยวัฒน์ไปแจ้ง ซึ่งความจริงแล้ว ป.ป.ช. มีอำนาจในการตรวจค้นจับกุม แต่ ป.ป.ช.ไม่ได้เข้าจับกุมเอง โดยพานายชัยวัฒน์เข้าไปแจ้งความกับ ปปป. แล้วหลังจากนั้นได้วางแผนกันแล้วรวมกันจับกุม
นายวราชันย์ กล่าวอีกว่า นอกจากยื่นฟ้องคดีนี้แล้ว นายรัชฎายังจะเตรียมยื่นฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กับ ป.ป.ท. เพิ่มเติมด้วย เพราะเข้าข่ายความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นกัน ขณะนี้กำลังทำหนังสือของทราบรายชื่อเจ้าหน้าที่ทุกตนที่เข้าปฎิบัติในครั้งนั้นไป เนื่องจากรายชื่อในบันทึกการจับกุมเท่าที่ทราบมันไม่มีทุกคน เจ้าหน้าที่ที่ปฎบิติมีมากกว่าที่ระบุไว้ในบันทึกจับกุม ปัจจุบันยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
ข่าวแจ้งว่า ในการไต่สวนคดี เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งให้ออกหนังสือสอบถามไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บ.ช.ก.)เพื่อให้ทำรายงานมายังศาลใน 4 ประเด็น ดังนี้
1.มูลเหตุการเข้าจับกุมนายรัชฎาที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 27 ธ.ค ที่ผ่านมา
2.ชี้แจงขั้นการจับกุมว่ามีหมายค้น หรือหมายจับนายรัชฎาหรือไม่
3.การบันทึกภาพ เสียงของชุดจับกุมได้นำภาพไปเผยแพร่หรือไม่ ซึ่งการนำไปเผยแพร่เกี่ยวข้องกับการทำคดีหรือความลับทางราชการหรือไม่
4.เงินจำนวน 98,000 บาท รวมทั้งพยานหลักฐานที่ตรวจยึดในห้องทำงานที่ยึดไปมีการบันทึกจับกุมไว้หรือไม่ โดยให้ตำรวจทำรายงานส่งให้ศาลภายใน 30 วันหลังจากได้รับหนังสือ และนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาทางคดีในวันที่ 30 มี.ค. 2566
กรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา เคยรายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2566 นายรัชฎา มอบหมายให้ทนายความนำมายื่นฟ้องคดีความอาญา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จากกรณีการถูกจับกุมเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามดังกล่าว
โดยในคำฟ้องของ นายรัชฎา อ้างว่า จำเลยทั้งหมด มีการวางแผนพูดคุยล่อให้ตนตกลงรับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอให้ศาลออกหมายนัดและเรียกจำเลยทั้งหมดมาพิจารณาพิพากษาลงโทษตามกฎหมาย
สำหรับการดำเนินการฟ้องร้องคดีนี้ ขั้นตอนตามกฎหมาย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะมีการออกหมายเรียกโจทก์และจำเลย มาไต่สวนมูลฟ้อง เพื่อพิจารณาว่าจะรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กับพวก รวม 7 คน จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
- ฉบับเต็ม! คำสั่ง ทส. ให้ 'รัชฎา' ออกจากราชการไว้ก่อน เซ่นปมเรียกเงินสินบน
- มีผล 3 ก.พ.! ให้ออกจากราชการ 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกเงินสินบน
- ป.ป.ช.มีมติไต่สวนคดีสินบนอธิบดีอุทยานฯ-ยันมีหลักฐานรู้ตัวแล้วสาวถึงใครบ้าง
- ยุคนี้ให้ส่วยเป็นเงินทอน! 'ชัยวัฒน์' ให้ปากคำคดีอธิบดีอุทยานฯ-ปัดตอบปมไม่ค้นบ้าน 'รัชฎา'
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- เช็คที่นี่! เปิดครบเงินสด-สิ่งของ 21 รายการ 4.8 ล.ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ใครส่งมาบ้าง?
- แอ่นแอ๊น! แกะซองเงินที่ 7 คดี 'รัชฎา' เจอตารางจ่ายรายเดือนงบปี 66 ด้วย 38 ล.+5% 1.9 ล.