'รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา' อธิบดีกรมอุทยานฯ สู้กลับ! ลุยยื่นฟ้องคดีอาญา 'พล.ต.ต.จรูญเกียรติ-พวกรวม 7 ราย มี ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร'ด้วย ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง อ้างถูกวางแผนแกล้งให้ต้องรับโทษคดีเรียกสินบน -แถมปล่อยภาพคลิปวิดีโอให้สื่อทำเสื่อมเสียชื่อเสียง
กรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าจับกุมกรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยมีการล่อซื้อ มีการติดกล้องวงจรปิด ตำรวจตามเข้าไปค้นพบเงินสดบนโต๊ะทำงาน และห้องแต่งตัวประมาณ 5 ล้านบาท
ซึ่งปัจจุบัน นายรัชฎา อยู่ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และมีการให้ออกราชการไว้ก่อนนั้น
- ฉบับเต็ม! คำสั่ง ทส. ให้ 'รัชฎา' ออกจากราชการไว้ก่อน เซ่นปมเรียกเงินสินบน
- มีผล 3 ก.พ.! ให้ออกจากราชการ 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกเงินสินบน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2566 นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ได้ยื่นฟ้องคดีความอาญา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กับพวก รวม 7 คน เป็นจำเลย ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ความผิดต่อเสรีภาพ ,ทำพยานหลักฐานเท็จฯ, เจ้าพนักงานแกล้งให้ต้องรับโทษ บุกรุก ซ่องโจร ผิดพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จากกรณีการถูกจับกุมเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามดังกล่าว
โดยในคำฟ้องของ นายรัชฎา อ้างว่า จำเลยทั้งหมด มีการวางแผนพูดคุยล่อให้ตนตกลงรับเงิน และยังมีการเผยแพร่ข้อมูลบันทึกวิดีโอให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอให้ศาลออกหมายนัดและเรียกจำเลยทั้งหมดมาพิจารณาพิพากษาลงโทษตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการยื่นฟ้องร้องคดีอาญาครั้งนี้ มีการระบุชื่อนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจำเลยที่ 7 นายรัชฎา กล่าวอ้างว่า เป็นผู้มาติดต่อพบตนในวันเกิดเหตุ ที่ห้องทำงาน โดยไม่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า และมีการนำซองสีขาวบรรจุเงิน จำนวน 3 ซอง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 98,000 บาท มามอบให้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตน นอกจากนี้ นายรัชฎา ยังมีการนำสืบพยานจำนวน 30 รายการ ทั้งที่เป็นบุคคล เอกสารหลักฐาน รวมตัวเองด้วย
สำหรับการดำเนินการฟ้องร้องคดีนี้ ขั้นตอนตามกฎหมาย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะมีการออกหมายเรียกโจทก์และจำเลย มาไต่สวนมูลฟ้อง เพื่อพิจารณาว่าจะรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กับพวก รวม 7 คน จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าคดี ว่า สำนวนคดีขณะนี้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมือเช้าที่ผ่านมาได้ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1 บก.ปปป. นำสำนวนคดีทั้งหมดรวมจำนวน 2 แฟ้ม ของกลาง 21 รายการ ไปส่งมอบให้กับทาง ป.ป.ช. เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุด้วยว่า เบื้องต้นจนถึงตอนนี้ยังคงมีการดำเนินคดีแค่ในข้อหา 'เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต'แต่หากพบพยานหลักฐานอื่นเพิ่มก็อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้อาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารนา โดยการร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช., ป.ป.ท. และ ตำรวจ บก.ปปป. เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อนจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบครอบ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ก็ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า มีการนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา และมีมติสั่งไต่สวนแล้ว โดยการไต่สวนจะเป็นแบบกรรมการไต่สวน ซึ่งจะมีกรรมการ ป.ป.ช. 2 คน ลงมาเป็นองค์คณะไต่สวนด้วย
"ส่วนพยานหลักฐานที่ปรากฏในวันที่ไปจับกุมตัวนายรัชฎานั้น สาวไปถึงใคร อันนี้เรารู้ตัวแล้ว เรามีรายชื่อชัดเจนแล้ว ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายที่จะไปรวบรวมพยานหลักฐาน ต่อไปก็จะต้องเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่จะได้จากปากพยานบุคคล ว่าจะเป็นไปในแนวทางไหน มีการโกหกกันหรือมีอะไรหรือไม่ ซึ่งการที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี มีการให้ปากคำต่อ พนักงานสอบสว น บก.ปปป. ไปแล้วนั้นถือว่าเป็นประโยชน์" นายนิวัติไชยระบุ
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในช่วงการเดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานปากสำคัญในคดีนี้ กับทางพนักงานสอบสวนว่า เชื่อมั่นว่าเรื่องนี้มีการทุจริตจริง และไม่มีใครไปกลั่นแกล้ง ส่วนการเรียกรับเงิน ทราบชัดเจนหลังจากเข้ามาทำงานแล้วว่า มีการเรียกรับเงินอย่างไร จะจ่ายเงินอย่างไร ทั้งเรื่องการจ่ายรายเดือน และเก็บเปอร์เซ็นต์ จ่ายเท่าไหร่ นอกจากนั้น ยังเคยเข้าไปพูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานฯมาแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งแน่นอน
นายชัยวัฒน์ ยังระบุด้วยว่า ในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานฯ หลังจากที่ได้กลับไปรับราชการในวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งเดือนตุลาคมทั้งเดือน ได้ช่วยน้ำท่วมอยู่ที่อุบลราชธานีกับศรีสะเกษ ก็เจอปัญหากับเจ้าหน้าที่ของเรา และมารับรู้ว่า เจ้าหน้าที่ต้องไปกู้และจำนำรถ เพื่อนำเงินมาจ่ายในระบบ เดือนกันยายนโดนไปแล้ว 1 รอบ และจะต้องมาจ่ายรายเดือนอีก
“ผมจึงเข้าไปพูดคุยกับอธิบดี ผ่านหน้าห้องก็คุยกับเขาเรื่องนี้ก่อน แล้วจึงเข้าไปคุยกับอธิบดีโดยตรงว่าไม่ไหวหรอกเรื่องแบบนี้ ถ้าเก็บแบบนี้เขาจะทำงานอย่างไร เมื่อก่อนไม่มีการเก็บแบบนี้ พูดคุยแล้วแต่เขาไม่ยอม ยังยืนยันให้มีการจ่าย ผมจึงนำข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่กระบวนการจับกุมในวันที่ 27 ธันวาคม”
ส่วนประเด็นที่ว่า นายชัยวัฒน์ และนายรัชฎา เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน หรือเป็นนาย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องรับผิด ตนยึดการพิทักษ์ป่าเป็นหลัก
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- เช็คที่นี่! เปิดครบเงินสด-สิ่งของ 21 รายการ 4.8 ล.ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ใครส่งมาบ้าง?
- แอ่นแอ๊น! แกะซองเงินที่ 7 คดี 'รัชฎา' เจอตารางจ่ายรายเดือนงบปี 66 ด้วย 38 ล.+5% 1.9 ล.