‘เว็บไซต์สำนักงานอัยการสูงสุด’ แพร่คำสั่ง ‘อัยการสูงสุด’ ไม่อุทธรณ์คดีแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังเหมืองทอง ‘ชาตรีเหนือ’ ชี้ไม่มีเหตุอันควรอุทธรณ์ หลัง ‘ป.ป.ช.’ มีมติให้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลฯชั้นต้น
..........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้เผยแพร่คำสั่งอัยการสูงสุด (อสส.) กรณีมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ในคดีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการเหมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือไม่เป็นไปตามรายงานการประเมินสิ่งแวดล้อม และเดินเครื่องทดลองการผลิตในส่วนที่เป็นโรงงานประกอบโลหกรรม (ส่วนขยาย) โดยมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด
เนื่องจากอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็นดังกล่าวศาลได้พิจารณาแล้ว พยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่า การพิจารณาคำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมืองจนถึงขั้นตอนอนุญาต การกระทำดังกล่าว จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับจำเลยที่ 5 และที่ 6
การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 จึงไม่เป็นความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต และเมื่อการกระทำของ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ไม่เป็นความผิด จำเลยที่ 5 และที่ 6 จึงไม่เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าว กรณีไม่มีเหตุอันควรอุทธรณ์และมีคำสั่งไม่อุทธรณ์
ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 6 ได้แก่ นายสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ (จำเลยที่ 1) ,นายสัจจาวุธ หรือ จิณณะ นาคนิยม (จำเลยที่ 2) ,นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ (จำเลยที่ 3) และนายคันธศักดิ์ แข็งแรง (จำเลยที่ 4) ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ,บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) (จำเลยที่ 5) และนายปกรณ์ สุขุม (จำเลยที่ 6) ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 157
ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น เนื่องจากเห็นว่าการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเงื่อนไขในการที่จำเลยที่ 1 จะสั่งอนุญาตให้ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังในส่วนของการย้ายบ่อเก็บกากโลหะกรรมแห่งที่ 2
การเสนอเรื่องของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ไปยังจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 พิจารณาอนุญาต และการที่จำเลยที่ 5 ไม่ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (แผนผัง) ประกอบมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมพิจารณาให้ความเห็นชอบ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ นำโดยนางอารมย์ คำจริง และนางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำกลุ่มฯ เดินทางไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด และเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ผ่านผู้แทนสำนักงานฯ โดยเรียกร้องให้อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์ในคดีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการเหมืองแร่ทองคำชาตรีเหนือ เพราะเป็นคดีที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ประเทศชาติ
“เราขอให้ท่านอัยการสูงสุดให้ความสำคัญกับคดีนี้ โดยขอให้นำประเด็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นหลักฐานโดยครบถ้วนมาตั้งแต่ต้น ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ เพื่อที่ศาลฯจะได้พิจารณาพิพากษาคดีจนคดีสิ้นสุด และถ้าหากไม่มีการอุทธรณ์ในคดีนี้ นอกจากจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศแล้ว ยังจะสร้างความเสียหายให้แก่อัยการสูงสุดเองด้วย เราจึงขอให้ท่านอัยการสูงสุดควรทำให้คดีนี้ไปถึงที่สุด ไปให้สุดทางของกฎหมาย” นางวันเพ็ญ ระบุ
อ่านประกอบ :
'ภาคปชช.'เรียกร้อง'อัยการสูงสุด'ยื่นอุทธรณ์คดีเปลี่ยนผัง'เหมืองทองอัครา' หลังศาลฯยกฟ้อง
คดีสั่งฟ้อง‘บ.อัคราฯ’ข้อหานอมินี ถึงมือ‘อัยการสูงสุด’แล้ว-เร่ง‘ดีเอสไอ’สอบเพิ่มคดีเก่า
ยกฟ้อง! อดีตอธิบดีกรมอุตฯ-พวก ไฟเขียว บ.อัคราฯ เปลี่ยนผังเหมืองทอง- ป.ป.ช.ค้าน อสส.
DSI สั่งฟ้อง‘บ.อัคราฯ’ข้อหานอมินี-เครือข่ายปชช.จี้‘อัยการ’สาง 4 คดี ชี้ 4 ปีไม่คืบหน้า
ชง‘อธิบดี DSI’เซ็นคำสั่ง ฟ้อง‘บ.อัคราฯ’ปมเข้าข่ายเป็น‘นอมินี’-คาดส่ง‘อัยการ’สัปดาห์หน้า
ร้อง‘นายกฯ’ตรวจสอบ กรณี‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ผลักดันชาวบ้านออกจากพื้นที่รอบเหมืองทอง‘อัคราฯ’
‘ศาลปค.สูงสุด’นัดพิจารณาคดีเพิกถอนคำสั่งอนุญาตย้าย‘บ่อทิ้งเก็บกากแร่’เหมืองอัคราฯ 1 พ.ย.
อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง!‘ป.ป.ช.’แจ้งความคืบหน้าปมกล่าวหา‘สุริยะ’ไม่ดำเนินคดี‘บ.อัคราฯ’
ครม.รับทราบคืบหน้าเจรจา 'คิงส์เกต' ชี้สัญญาณดี ปมเหมืองทองอัครา
อภิปรายไม่ไว้วางใจ :‘จิราพร’ ย้ำปมเหมืองทองอัครา เตือน 9 ครั้ง ไม่ฟังทำชาติเสียหาย