
ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิด 'รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา' อดีตอธิบดีกรมอุทยานห่งชาติฯ -พวก คดีใหม่ เรียกรับเงินผู้ใต้บังคับบัญชาแลกไม่มีคำสั่งย้ายออกจากตำแหน่งพ่วงทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี ปี 2565 ส่งอสส.ฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาแจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษวินัยแล้ว-ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ชี้มูลความผิด นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับพวก เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ และทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เมื่อปี พ.ศ. 2565
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยรายละเอียดแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่
1. กรณีเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ ได้จับกุมนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 98,000 บาท และจากการตรวจค้นภายในห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา พบเงินสดอีกจำนวน 4,843,300 บาท จึงได้ตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าว รวม 21 รายการ และ ส่งคำร้องทุกข์กล่าวโทษ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา กรณีมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงาน ในสังกัด เพื่อมิให้ถูกโยกย้ายตำแหน่งและเก็บเงินรายเดือนจากหมวดงบประมาณต่าง ๆ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนและมีมติชี้มูลความผิดนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ในส่วนของเงินสดของกลางจำนวน 98,000 บาท และเงินสดที่ตรวจยึดได้จำนวน 2,693,300 บาท แล้ว โดยให้แยกประเด็นเกี่ยวกับ เงินสด จำนวน 2,150,000 บาท และสิ่งของที่ตรวจยึดได้จำนวน 4 รายการ และกรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง งานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) เพื่อดำเนินการไต่สวนเป็นคดีนี้
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ภายหลังนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เข้าดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้ร่วมกับนายอลงกรณ์ เศรษฐเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 เรียกรับเงินจำนวน 600,000 บาท จากนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่ และนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข ได้ยินยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ตามที่ ถูกเรียกรับสำหรับเงินสดจำนวน 1,850,000 บาท ที่ตรวจพบภายในห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 แม้ไม่ปรากฏว่าเป็นทรัพย์สินที่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ได้รับ จากบุคคลใดและเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา หรือไม่อย่างไร แต่เป็นกรณีที่ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา มีพฤติการณ์รับทรัพย์สินจากจากผู้อื่น นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์ อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
2. กรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ 2565 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ประกอบด้วย งานจัดซื้อกล้าไม้ป่าชายเลน จำนวน 161,700 ต้น และงานจัดจ้างเหมาค่าแรง ค่าใช้สอยและวัสดุ สำหรับบำรุงป่าชายเลน (โครงการปลูกป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร) จำนวน 5 โครงการ นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้จัดทำรายงานข้อมูลการสืบราคาจัดซื้อจัดจ้าง อันเป็นเท็จเพื่อนำมากำหนดเป็นราคากลาง แล้วติดต่อตกลงกับนางสาวฉันทนา รำเพยพัด นางสาวอิงอร แสงแก้ว และนายนิพล วัดนครใหญ่ ซึ่งเป็นญาติของผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เข้าเสนอราคาและเป็นคู่สัญญาผู้รับจ้าง งานบำรุงป่าชายเลน จำนวน 5 สัญญา วงเงินรวม 785,400 บาท และติดต่อตกลงกับหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง ซึ่งมิได้เป็นผู้มีอาชีพขายกล้าไม้ป่าชายเลน ให้เข้าเสนอราคาและเป็นคู่สัญญาผู้ขายกล้าไม้ป่าชายเลน วงเงิน 485,100 บาท โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซื้อได้ทำหลักฐานการตรวจรับพัสดุว่าถูกต้องตรงตามสัญญา ทั้งที่ผู้ขายและผู้รับจ้าง งานบำรุงป่าชายเลนดังกล่าวมิได้ส่งมอบกล้าไม้และทำงานจ้างบำรุงป่าชายเลนให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา
นอกจากนี้ ยังปรากฏว่าหลังจากมีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างและค่าจัดซื้อดังกล่าวแล้ว นางสาวอิงอร แสงแก้ว และห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง ได้มีการให้เงินค่าจ้างและค่าจัดซื้อซึ่งเป็นส่วนแบ่งผลประโยชน์จากการใช้ หรือเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่เกิดจากการทุจริตร่วมกันแก่นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะชุมพร และนายจงรัก ภู่ไพบูลย์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
กรณีทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อให้ไม่มีคำสั่งย้ายหรือเปลี่ยนแปลงออกจากตำแหน่งหน้าที่
1. การกระทำของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา และนายอลงกรณ์ เศรษฐเชื้อ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 มาตรา 172 และมาตรา 173 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 176 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
กรณีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างงานบำรุงป่าชายเลนของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี)
1. การกระทำของนายสุวรรณเนาว์ แสนสุข มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) มาตรา 264 มาตรา 268 และมาตรา 341 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ และเจ้าหน้าที่พัสดุ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง แล้วแต่กรณี
3. การกระทำของนายจงรักษ์ ภู่ไพบูลย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
4. การกระทำของนางสาวฉันทนา รำเพยพัด นางสาวอิงอร แสงแก้ว และนายนิพล วัดนครใหญ่ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่มโกงกาง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวน การไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้แจ้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดเพื่อมิให้ถูกโยกย้ายตำแหน่งและเก็บเงินรายเดือนที่ได้รับการจัดสรรจากหมวดงบประมาณต่าง ๆ ไปแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ร่วมกันจับกุมนายรัชฎา พร้อมของกลางเป็นธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดใบละ 1,000 บาท จำนวน 98 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 98,000 บาท และซองสีขาวจำนวน 3 ซอง
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นอกจากนี้คดีนี้แล้ว นายรัชฎา ยังมีคดีอื่นที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบสวนไต่สวนอยู่ด้วย บางคดีมีแนวโน้มที่จะถูกชี้มูลความผิดเพิ่มด้วย

อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง :
- ยุคนี้ให้ส่วยเป็นเงินทอน! 'ชัยวัฒน์' ให้ปากคำคดีอธิบดีอุทยานฯ-ปัดตอบปมไม่ค้นบ้าน 'รัชฎา'
- ล่อซื้อค้นเจอ 5 ล.! ป.ป.ช.-ตร.แถลงด่วนรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ คดีเรียกรับเงิน (มีคลิป)
- เก็บหัวละ 2-3 แสน! แถลงพฤติการณ์ 'อธิบดีกรมอุทยานฯ' คดีเรียกเงินวิ่งเต้นแลกไม่โยกย้าย
- พลิกปูม! เส้นทางชีวิต-ทรัพย์สิน 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนโดนรวบคดีเรียกรับเงิน
- ลับสุดยอด! เปิดปฏิบัติการขู่ทุบลิ้นชัก ล่อซื้อ 'รัชฎา'-บิ๊กตู่ชิงย้ายตัดหน้า ทส.?
- เปิดคลิปหลักฐานใหม่ 5 นาที ค้นโต๊ะทำงาน 'รัชฎา' - ตามหาเจ้าของซองเงินส่งท่านอธิบดี?
- เช็คที่นี่! เปิดครบเงินสด-สิ่งของ 21 รายการ 4.8 ล.ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ใครส่งมาบ้าง?
- แอ่นแอ๊น! แกะซองเงินที่ 7 คดี 'รัชฎา' เจอตารางจ่ายรายเดือนงบปี 66 ด้วย 38 ล.+5% 1.9 ล.
- ฉบับเต็ม! คำสั่ง ทส. ให้ 'รัชฎา' ออกจากราชการไว้ก่อน เซ่นปมเรียกเงินสินบน
- มีผล 3 ก.พ.! ให้ออกจากราชการ 'รัชฎา' อธิบดีกรมอุทยานฯ ปมเรียกเงินสินบน
- ป.ป.ช.มีมติไต่สวนคดีสินบนอธิบดีอุทยานฯ-ยันมีหลักฐานรู้ตัวแล้วสาวถึงใครบ้าง
- ชี้ทำตามหน้าที่! ศาลคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง 'จรูญเกียรติ-พวก' กลั่นแกล้ง 'รัชฎา' ปมสินบน
- 'รัชฎา' โดนพร้อมพวก 7 ราย! ล้วงมติ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีเรียกสินบน - ขอศาลริบเงินของกลาง
- คดี 'รัชฎา' เรียกสินบนชะงัก! อสส.แจ้งข้อไม่สมบูรณ์ตีกลับ2 สำนวน ตั้งคณะทำงานร่วม ป.ป.ช.
- ฉบับเต็ม! มติป.ป.ช.ชี้มูล 'รัชฎา'-พวก เรียกสินบนวิ่งเต้นไม่โยกย้าย - สะพัดโดนสอบคดีเพิ่ม
