ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี‘อนันต์ ฉิมพาลี’ ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับอำเภอ จ.เพชรบุรี รู้อยู่แล้วขาดคุณสมบัติกรณีลงสมัครคราวเดียวกับลูกสาว อยู่คนละกลุ่ม กลับเขียนใบรับรองไม่มีลักษณะต้องห้ามถือกระทำการเพื่อให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายอนันต์ ฉิมพาลี ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 11 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการ การเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด
หลังจากนั้นผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้วพบว่า ผู้คัดค้านเป็นบิดาของนางกฤษณา ทองดีเลี้ยง ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งสมัครในคราวเดียวกัน จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด
การที่ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว แต่กลับยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2) ว่า ผู้คัดค้านไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสาม อันเป็นเหตุให้ศาลฎีกาต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 รายละเอียดดังนี้
@เปิดรายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็ม
คำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ลต สว 360/2567 คดีหมายเลขแดงที่ ลต สว 37/2568 ศาลฎีกา
วันที่ 21 เดือน เมษายน พุทธศักราช 2568 ความคดีเลือกตั้ง
ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง นายอนันต์ ฉิมพาลี ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง)
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า สืบเนื่องมาจากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ให้ไว้ ณ วันที่ 24 เมษายน 2567 และผู้ร้องได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เรื่อง กำหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา กำหนดวันเลือกระดับอำเภอวันที่ 9 มิถุนายน 2567 กันเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 11 ต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการ การเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด หลังจากนั้นผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้วพบว่า ผู้คัดค้านเป็นบิดาของนางกฤษณา ทองดีเลี้ยง ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา กลุ่มที่ 9 อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งสมัครในคราวเดียวกัน จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด
ผู้ร้องทำการไต่สวนแล้วได้ความดังกล่าวจริง ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (25) การที่ผู้คัดค้านซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกของตนให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ลงลายมือชื่อในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มี ลักษณะต้องห้ามเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นบุพการีของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในคราวเดียวกัน กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้คัดค้าน เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และได้ถูกลบชื่อออกจาก บัญชีรายชื่อผู้สมัครแล้ว
จึงถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใดได้สมัครรับเลือก อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (25) มาตรา 20 วรรคสาม และมาตรา 74 ผู้ร้องจึงมีคำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 172/2567 เรื่อง การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี สั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ ผู้คัดค้านไว้เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ ผู้คัดค้านตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่
ผู้คัดค้านไม่ยื่นคำคัดค้าน
@ ตัวเองสมัครกลุ่ม 11 ลูกสาวสมัครกลุ่มที่ 9 แก่งกระจาน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งไต่สวนและตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 นางกฤษณา ทองดีเลี้ยง ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 9 ใบสมัครเลขที่ 97 ตามสำเนาใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 9 (สว. 2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 9 หน้าที่ 28 และหน้าที่ 29 และในวันเดียวกันผู้คัดค้าน ยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาต่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 11 ใบสมัครเลขที่ 99 ตามสำเนาใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 11 (สว. 2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 3 หน้าที่ 6 และ หน้าที่ 7 ซึ่งต่อมาผู้คัดค้านเป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด จากนั้นผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาของผู้คัดค้านแล้วพบว่า มีลักษณะต้องห้าม มีให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (25) จึงลบชื่อผู้คัดค้านออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือก ระดับจังหวัด
@รู้อยู่แล้วคุณสมบัติต้องห้ามกลับลงสมัคร ถือไม่สุจริต ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิรับเลือกเป็น สมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (25) อันจะถือว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226 หรือไม่
เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจาก พยานผู้ร้องปากนายสุรพงษ์ ดวงเดือน กรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งเบิกความประกอบสำนวน การไต่สวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบุรี เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 1 ถึง 20 ว่า หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่าผู้คัดค้านเป็นบุพการีของนางกฤษณาซึ่งได้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในคราวเดียวกันกับผู้คัดค้าน พยานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงตรวจสอบใบสมัครของนางกฤษณา พบว่า นางกฤษณาแจ้งแสดงข้อมูลในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มที่ 9 (สว. 2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 9 หน้าที่ 28 ว่า “บิดาชื่อ อนันต์ สัญชาติไทย เลขประจำตัวประชาชน 3-7605-00018-68-3” ตรงกับชื่อและเลขประจำตัวประชาชนของผู้คัดค้าน
พยานจึงตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของนางกฤษณา เอกสารหมาย ร.2 เพิ่มเติมพบว่า ผู้คัดค้านเป็นบุพการีของนางกฤษณา โดยในการพิจารณาว่าผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภารายใด เป็นผู้ยื่นใบสมัครก่อนผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาอีกรายนั้น ให้ถือตามลำดับเลขที่ปรากฏในใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2) เป็นสำคัญ เนื่องจากลำดับเลขที่ในใบสมัครดังกล่าว ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอจะเป็นผู้อนุมัติออกเลขที่ใบสมัครให้แก่ผู้สมัครที่ยื่นใบสมัครและ เอกสารหลักฐานประกอบต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วนไล่เรียงตามลำดับไป
ในกรณีของผู้คัดค้านและ นางกฤษณา เมื่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ออกลำดับเลขที่ ใบสมัครให้แก่นางกฤษณาเป็นใบสมัครเลขที่ 97 และออกลำดับเลขที่ใบสมัครให้แก่ผู้คัดค้านเป็น ใบสมัครเลขที่ 99 เช่นนี้ นางกฤษณาจึงเป็นผู้ที่ได้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาก่อนผู้คัดค้าน
ส่วนผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นคำคัดค้านและไม่ได้นำพยานหลักฐานใดมาไต่สวนเพื่อให้เห็นเป็นอย่างอื่น
ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า ขณะที่ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา นางกฤษณา บุตรของผู้คัดค้านได้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาไว้ก่อนแล้วในคราวเดียวกัน ผู้คัดค้านจึงมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 14 (25)
การที่ผู้คัดค้านมีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว แต่ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยรับรองในบันทึกการให้ถ้อยคำของ ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว. 2) เอกสารหมาย ร.1 ลำดับ 3 หน้าที่ 9 และหน้าที่ 10 ว่า ผู้คัดค้านไม่มีลักษณะต้องห้ามใด ๆ ตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้คัดค้านกระทำการเพื่อให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสาม อันเป็นเหตุให้ศาลฎีกาต้องเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 20 วรรคสี่ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 226
พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายอนันต์ ฉิมพาลี ผู้คัดค้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา.
ข่าวคดีรายอื่นก่อนหน้า:
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ‘ธานนท์’ ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอสิชล ต้องคดีค้ายา (1)
- ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ศรีสะเกษ มีประวัติยักยอกทรัพย์ (2)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ10 ปีผู้ได้รับเลือก สว.อำเภอ จ.สระแก้ว มีประวัติทุจริตเลือกตั้ง (3)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นราธิวาส มีประวัติลักทรัพย์ (4)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.มหาสารคาม มีประวัติเจ้ามือเล่นพนัน(5)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.ยะลา เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น(6)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.สมุทรสาคร ถือหุ้นบมจ.อาร์เอส (7)
- ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.อ่างทอง ต้องคดีค้ายาเสพติด (8)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ ในจ.ตราด ถูกจำคุกคดีเจ้ามือไพ่รัมมี่ (9)
- ศาลเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ จ.นนทบุรี เคยจำคุกคดีหมิ่นประมาท (10)
- ศาลฎีกาฯพิพากษาเพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับ จ.พัทลุง ถือหุ้นสื่อ อสมท (11)
- เพิกถอนสิทธิฯ 10 ปี ผู้ได้รับเลือก สว.ระดับอำเภอ กําแพงเพชร มีประวัติเรียกรับทรัพย์สิน (12)