‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นประธานสักขีพยานลงนามสัญญา 2.3 โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เชื่อรถไฟความเร็วสูงเส้นนี้จะเชื่อมโยงการคมนาคมในภูมิภาค-สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทย พร้อมยกคำกล่าว ‘น้ำหนึ่งใจเดียว ทุกเรื่องราบรื่น’
...............
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา)
สำหรับผู้ลงนามฝ่ายไทย ได้แก่ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ส่วนผู้ลงนามฝ่ายจีน ได้แก่ ผู้แทนจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์แนชันนัล (CHINA RAILWAY International Co., Ltd.) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ ดีไซน์ คอร์เปอเรชัน (China Railway Design Corporation)
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการความร่วมมือนี้ เนื่องจากเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเป็นกลไกในการพัฒนาประเทศ และภูมิภาค โดยเฉพาะหัวเมืองหลักตามแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะสามารถต่อยอดและพัฒนาเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาคในอนาคตได้
และนอกเหนือจากการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยแล้ว เส้นทางนี้เปรียบเสมือนสายใยเชื่อมโยงไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระหว่างกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงทางคมนาคม ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับประชาชนให้ครอบคลุมและกว้างไกลมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การลงนามดังกล่าวระหว่างไทยและจีนในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยและจีนจะได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาเทคโนโลยีระหว่างกัน เพื่อให้ก้าวเดินเคียงกันไปอย่างพร้อมเพรียง โดยเชื่อมั่นว่าไทยจะนำองค์ความรู้มาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศ และภูมิภาคต่อไป
“ผมขอบคุณกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงให้มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขอบคุณบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์แนชันนัล และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ ดีไซน์ คอร์เปอเรชัน ซึ่งบริษัทคู่สัญญาของโครงการ ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน ที่ถือว่าเป็นกำลังสำคัญ ในการผลักดันโครงการให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ โดยสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในอนาคตอันใกล้ สมดังคำกล่าวที่ว่า “ถง ซิน เสีย ลี่, ซื่อ ซื่อ ซุ่น ลี่” หมายความว่า “น้ำหนึ่งใจเดียว ทุกเรื่องราบรื่น” เพื่อนำไปสู่ความเจริญด้านโครงข่ายคมนาคมระหว่างมิตรประเทศเชื่อมโยงภูมิภาค เชื่อมโยงหัวใจของประชาชน 2 ประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างสัญญางานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) โดยจะมีการว่าจ้างรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ CHINA RAILWAY INTERNATIONAL CO., LTD. และCHINA RAILWAY DESIGN CORPORATION มาเป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ติดตั้งงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ระบบรถไฟความเร็วสูง จัดหาขบวนรถไฟ และฝึกอบรมบุคลากร วงเงินสัญญา 50,633.50 ล้านบาท
ส่วนระยะเวลาสัญญาจ้างแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1.การเริ่มต้นงานออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูง และออกแบบระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนออกแบบขบวนรถไฟ 2.การเริ่มต้นงานฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการเดินรถและซ่อมบำรุง และการถ่ายทอดเทคโนโลยี และ 3.การเริ่มต้นงานก่อสร้าง ติดตั้งงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ระบบรถไฟความเร็วสูงที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา 64 เดือน
อ่านประกอบ :
รฟท.เตรียมทำสัญญารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน วงเงิน 5 หมื่นล.28 ต.ค.นี้
ล้างหนี้รฟท.! ครม.ไฟเขียวตั้ง ‘บริษัทลูก’ บริหารที่ดิน-คาดรายได้ 6.3 แสนล.ใน 30 ปี
นิรุฒ มณีพันธ์ : ต้อง ‘ลุกจากโต๊ะ วิ่งไปหาลูกค้า’-แก้ 2 โจทย์ใหญ่พลิกฟื้นรฟท.
ไม่รอเอกชนร่วมทุนฯ! รฟท.เปิดทดสอบเดินรถไฟฟ้า ‘สายสีแดง’ กลางปี 64-ลุยทางคู่สายอีสาน
3 ยุทธศาสตร์ 'นิรุฒ มณีพันธ์' ปลุกยักษ์ใหญ่ 'รฟท.' ลุกขึ้นยืน-คนรถไฟฯ ต้องไม่เลี้ยงบอลไปวันๆ
เดินหน้าฟื้นฟู รฟท.! ‘นิรุฒ’ เข็นเมกะโปรเจกต์รถไฟทางคู่ 4.2 แสนล.-สู้ต่อคดีโฮปเวลล์
เซ็นสัญญาจ้าง 'นิรุฒ มณีพันธ์' นั่งผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ ลุยสางหนี้รถไฟ-ลงทุนระบบราง
เปิดภารกิจ ‘นิรุฒ’ ว่าที่ผู้ว่าการฯ รฟท. ดัน 24 เมกะโปรเจกต์-สางหนี้ 1.6 แสนล.
บอร์ด ร.ฟ.ท.เคาะชื่อ 'นิรุฒ' นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการฯ คนใหม่
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage