‘ศาลอาญาคดีทุจริตฯ’ เลื่อนตัดสินคดีฟ้อง ‘ประธาน กกพ.-พวก’ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ฯทำให้ค่าไฟฟ้าแพง เป็น 12 ก.ย.นี้ พร้อมสั่ง 3 หน่วยงานชี้แจงข้อเท็จจริง 11 ประเด็น
.......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 65/2566 ซึ่งเป็นคดีที่นายปริเยศ อังกูรกิตติ (โจทก์) ฟ้อง นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับการพลังงาน กับพวกรวม 4 คน (จำเลย) ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เกี่ยวกับค่าไฟฟ้าแพง
โดยศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องฉบับใหม่ของโจทก์ฉบับลงวันที่ 16 มิ.ย.2566 แล้ว เห็นว่า เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน ให้มีหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ,สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชี้แจงข้อเท็จจริงใน 11 ประเด็น ดังนี้
1.การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 (PDP2018) มีกระบวนการและขั้นตอนอย่างไร มีองค์กร หน่วยงาน หรือใครเป็นผู้เกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอน และมีมติที่ประชุมอย่างไรบ้างในแต่ละขั้นตอน ให้จัดส่งแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) รายงานการประชุมและเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) มีการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าไว้สูง และเพิ่มเป้าหมายสัดส่วนกำลังผลิตส่วนเกินไว้สูงและเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะเหตุใด
3.หน่วยงานของท่านมีการทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) บ้างหรือไม่ มีวาระการทบทวนทุกปีหรือไม่ หรือกี่ปีต่อครั้ง และมีการทบทวนแผน PDP ทันตามกำหนดเวลาหรือไม่ เพราะเหตุใด ตามมติ กฎ ระเบียบใด
4.หน่วยงานของท่านพบว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็นหรือไม่ หากพบว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น พบเมื่อใด และหน่วยงานของท่านได้ดำเนินการอย่างไร
5.เหตุใดจึงต้องมีการอนุมัติให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง IPP 1,400 MW และมีการอนุมัติขณะปริมาณไฟฟ้าสำรองที่มีอยู่มีปริมาณเกินความต้องการหรือไม่ และเหตุผลใดจึงไม่มีการเปิดประมูล อาศัยอำนาจตามกฎหมาย มติ กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด ให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชนโรงไฟฟ้าหินกอง
6.ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเท่าใด และมีกำลังไฟฟ้าเท่าใด เกินความต้องการของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ในแต่ละปีโรงไฟฟ้าแต่ละโรงผลิตปริมาณไฟฟ้าได้จำนวนเท่าใด และมีโรงไฟฟ้าที่ไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแต่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญาหรือไม่ ถ้าหากมี มีจำนวนกี่โรงและแต่ละโรงได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนเท่าใดต่อปี รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาทั้งหมดเท่าใด ให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชน
7.ปริมาณไฟฟ้าที่จัดซื้อ ปริมาณไฟฟ้าที่ส่งมอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในแต่ละสัญญาจ้าง เงินค่าจ้าง และการชำระเงินค่าจ้าง หรือแผนการใช้ไฟฟ้าหรือการสำรองการใช้ไฟฟ้าหรือจัดซื้อไฟฟ้าในอนาคตให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
8.มีวิธีและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่ผลิตไฟฟ้าอย่างไร ใช้เงินจากงบส่วนใด ให้ส่งข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี มาประกอบการพิจารณา
9.เหตุใดต้องจ้างเอกชนผลิตไฟฟ้ามีสัดส่วนมากกว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและเหตุใด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไม่ผลิตไฟฟ้าเอง
10.มีวิธีการคิดคำนวณค่าไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) อย่างไร วิธีคิดคำนวณถูกต้องและสอดคล้องกับหลักวิชาและสากลหรือไม่ อย่างไร อ้างอิงจากอะไร หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบในการคิดคำนวณ และต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหรือไม่
11.ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้แก่โรงไฟฟ้าเอกชนในกรณีที่ไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าตามข้อ 6. ถูกนำมารวมเป็นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) หรือไม่ อย่างไร
ศาลมีคำสั่งให้จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เมื่อหน่วยงานข้างต้นมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังศาลแล้ว ให้โจทก์ตรวจสอบเอกสารดังกล่าว หากประสงค์จะคัดค้านให้ยื่นคำร้องขอคัดค้านภายใน 15 วัน นับแต่วันที่หน่วยงานจัดส่งหนังสือมายังศาล หากไม่ยื่นถือว่าไม่ติดใจ
ทั้งนี้ ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในวันที่ 12 ก.ย.2566 เวลา 09.30 นาฬิกา ตามที่มีวันว่างตรงกัน
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า สำหรับการเลื่อนนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 65/2566 ดังกล่าว เป็นการเลื่อนนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในคดีนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากกศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดีชั้นตรวจฟ้องฉบับลงวันที่ 3 พ.ค.2566 แล้ว
เห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แต่คำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสี่ พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559
จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสี่กระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือชี้ช่องพยานหลักฐานที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง (อ่านประกอบ : ‘ศาลคดีทุจริตฯ’เลื่อนตัดสิน คดีฟ้อง‘กกพ.-พวก’ปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯเป็นเหตุให้ค่าไฟฟ้าแพง)
อ่านประกอบ :
จ่ายฟรีปีละหลายหมื่นล.! วงเสวนาฯย้ำรัฐสำรองไฟฟ้าสูง-มีค่า'Take or Pay' ทำปชช.แบกค่าไฟแพง
‘ศาลคดีทุจริตฯ’เลื่อนตัดสิน คดีฟ้อง‘กกพ.-พวก’ปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯเป็นเหตุให้ค่าไฟฟ้าแพง
ครม.ไฟเขียวจัดสรรงบกลาง 1.04 หมื่นล.อุ้มค่าไฟฟ้า 4 เดือน-‘บิ๊กตู่’เชื่อ‘กกต.’อนุมัติเร็ว
วงเสวนาฯชำแหละ รัฐเอื้อ ‘ทุนใหญ่’ กินรวบโรงไฟฟ้า ส่อขัดรธน.-ปชช.รับเคราะห์จ่ายค่าไฟแพง