เปิดปูม บ.พีซีซีฯจ่ายหัวคิว 149.4 ล.บ้านเอื้อฯ รายได้ 3 พันล.

picpppcsccccccs0113 11 63

ตามไปดู บ.กิจการร่วมค้าพีซีซี ‘พิบูลย์ อุดมสิทธิกุล’ ผู้จ่ายหัวคิว 149.4 ล้าน บ้านเอื้ออาทร พบช่วงดำเนินโครงการปี 51 แจ้งงบการเงินมีรายได้กว่า 3,000 ล้าน ต่อมา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีสร้างโรงพักร้าง 396 หลัง โดนสำนักงานตำรวจฯอายัดจดทะเบียนเลิกบริษัท สรรพากรตามบี้ภาษี ปี 2558

...........

กิจการร่วมค้าพีซีซี เป็นเอกชน 1 ใน 11 รายที่จ่ายค่าหัวคิวเกือบ 150 ล้านบาทจากยอด 1,300 ล้านบาท ในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร

นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัทกิจการร่วมค้าพีซีซี ให้การว่า เป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินการ ตามที่ นายวัฒนา เมืองสุข (จำลยที่ 1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แจ้งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมประชุมว่า บริษัทที่ประสงค์จะจัดทําโครงการบ้านเอื้ออาทร จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดําเนินการอัตราหน่วยละ 11,000 บาท ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว

(อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:149.4 ล. ‘หัวคิว’บ้านเอื้ออาทร กิจการร่วมค้าพีซีซี - ซัด‘วัฒนา’ เรียก 11,000 บาท/หลัง)

มาดูข้อมูลเกี่ยวกับเอกชนรายนี้อีกครั้ง

บริษัท กิจการร่วมค้าพีซีซี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 21 ธ.ค. 2548 ทุน 120 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ตั้งเลขที่ 292/1 ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ต.ป่าต้น อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ณ วันที่ 30 เม.ย.2549 (ช่วงดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ) นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ถือหุ้นใหญ่ 54 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ล้านบาท และเป็นกรรมการ ต่อมา 16 ส.ค. 2549 เพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท ย้ายที่ตั้งเลขที่ 48 หมู่ที่ 3 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

picpppcss0213 11 63

picpppcssccc0113 11 63

27 ส.ค. 2550 เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ชื่อปัจจุบัน

ณ วันที่ 30 เม.ย. 2559 นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ถือหุ้นใหญ่ 490 หุ้น นายจตุรงค์ อุดมสิทธิกุล นายวิศณุ วิเศษสิงห์ คนละ 5 หุ้น รวม 500 หุ้น มูลคค่าหุ้นละ 1 ล้านบาท นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุลและ นายวชิระ ดอนเทียนพวง เป็นกรรมการ

แจ้งงบการเงินรอบปี 31 ธ.ค.2549 รายได้รวม 577,411,254.70 บาท กำไรสุทธิ 11,486,099.41 บาท

รอบปี 2550 รายได้รวม 3,050,380,878.39 บาท กำไรสุทธิ 52,664,931.93 บาท (ช่วงดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร)

picpppcss0013 11 63

รอบปี 2551 รายได้รวม 2,360,050,250.22 บาท กำไรสุทธิ 8,134,488.27 บาท

รอบปี 2552 รายได้รวม 89,808,439.15 บาท ขาดทุนสุทธิ 93,776,401.57 บาท

รอบปี 2553 รายได้รวม 2,007,410,431.37 บาท กำไรสุทธิ 19,940,246.75 บาท

รอบปี 2554 รายได้รวม 1,704,698,357.21 บาท กำไรสุทธิ 13,361,946.33 บาท

รอบปี 2555 รายได้รวม 703,953,152.20 บาท ขาดทุนสุทธิ 118,734,713.53 บาท

รอบปี 2556 รายได้รวม 117,542,023.39 บาท ขาดทุนสุทธิ 14,219,501.66 บาท

รอบปี 2557 รายได้รวม 68,133,352.07 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,579,361.51 บาท

รอบปี 2558 รายได้รวม 20,824,217.38 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,654,408.15 บาท

รอบปี 2559 รายได้รวม 7,677,874.19 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,601,270.32 บาท

รอบปี 2560 รายได้รวม 14,246,582.54 บาท กำไรสุทธิ 267,772.14 บาท

รอบปี 2561 รายได้รวม 2,068,036.31 บาท ขาดทุนสุทธิ 350,577.40 บาท

ล่าสุด 31 ธ.ค.2562 รายได้รวม 47,998,343.64 บาท ขาดทุนสุทธิ 23,308,265.94 บาท สินทรัพย์ 2,639,011,992.54 บาท หนี้สิน 2,348,032,195.88 บาท ขาดทุนสะสม -209,020,203.34 บาท

กิจการร่วมค้าพีซีซี ได้งานโครงการบ้านเอื้ออาทรประมาณ 10,000 หน่วยมูลค่า ประมาณ 4,200 ล้านบาท อาทิ โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.ราชบุรี ,โครงการบ้านเอื้ออาทรบ่อพลับ จ.นครปฐม ,โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.เชียงใหม่ ,โครงการบ้านเอื้อาทร จ.ปทุมธานี ,โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.กาญจนบุรี เป็นต้น

โดยโครงการในจ.เชียงใหม่ โครงการแรกคือ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ (สันป่าตอง) บ้านเดี่ยวสองชั้นจำนวน 636 หน่วย ,โครงการที่ 2 คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ (ป่าตัน) เป็นอาคารชุด 31 อาคาร จำนวน 1,391 หน่วย ซึ่งหลังจากเปิดให้จองสิทธิตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 ,โครงการที่ 3 คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ (เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี) เป็นอาคารชุดจำนวน 2,460 หน่วย มูลค่าโครงการ 1,033 ล้านบาท ,โครงการที่ 4 คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) เป็นอาคารชุดจำนวน 1,756 หน่วย ซึ่งการเคหะฯ จะทำสัญญาว่าจ้างภายในเดือนมกราคม 2550 นี้ และโครงการที่ 5 คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรเชียงใหม่ (หนองหอย) ระยะ 3 /2 กลุ่มกิจการร่วมค้าพีซีซี ผู้รับเหมาแทนรายเดิมคือ บริษัท ธนสิทธิ์คอนกรีต จำกัด ที่ยกเลิกสัญญา ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าโครงการบ้านเอื้ออาทรบ่อพลับ จ.นครปฐม บริษัทนี้ได้ซื้อที่ดินในราคาถูกแล้วนำขายให้การเคหะฯแพงกว่าราคาที่ซื้อมาถึง 2 เท่า

มีบริษัทในครือได้แก่ บริษัท พรอสเพอริตี้คอนกรีต จำกัด บริษัท พิบูลย์คอนกรีต จำกัด บริษัท พิบูลย์ทราบ จำกัด บริษัท พีซีซี ออโต้เคลฟ คอนกรีต จำกัด

บริษัทกิจการร่วมค้าพีซีซี หรือ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ผู้รับเหมาอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 หลัง วงเงิน 5,848 ล้านบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลทางอาญา โดย ป.ป.ช.แถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2562

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:มติทางการ!ป.ป.ช.ฟัน‘สุเทพ-ปทีป’คดีโรงพัก-แฟลต เสียหาย 5.7 พันล.-ดาบ ตร.เรียกเงิน 91 ล.)

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2557 บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขออายัดการจดทะเบียนเลิกบริษัท อันเนื่องมาจากกรณีการฟ้องขอให้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาจ้าง อีกทั้งถูกสำนักงานสรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ 2 กรมสรรพากรตรวจสอบการชำระภาษีด้วยในปี 2558

picpppcss0113 11 63